บทนำ
เอี๊ยด!
โครม!
เสียงเหล็กปะทะเหล็ก ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เศษกระจกพุ่งกระจาย กระเด็นเข้าหาชายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย แอร์แบ็คทำงานทันที ทว่าร่างของเขากลับพุ่งกระเด็นทะลุกระจกออกไป เพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ร่างนั้นชนกับหน้ารถอีกคันหนึ่งอย่างแรง มันพุ่งปะทะเข้ากับกระจกหน้ารถคันนั้นอย่างจัง
เพล๊ง!
เจ็บ...เจ็บเหลือเกิน...
สำนึกสุดท้ายบอกเขาก่อนที่สติจะพร่าเลือนดับไป เลือดไหลทะลักอาบเต็มร่าง ใบหน้าส่วนหนึ่งถูกเศษกระจกบาดจนเหวอะหวะ เห็นเนื้อแดงๆ เปิดออกมา
ตูม!
มีเสียงระเบิดดังขึ้น เมื่อน้ำมันไหลจากรถคันที่ประสบอุบัติเหตุออกมาใต้ท้องรถ เกิดประกายไฟ ทุกอย่างสับสน โกลาหนไปหมด
มืด...มืด...เหลือเกิน...
เจ็บ...ปวด...เจ็บ...
สมองของเขาสับสน ไม่ปะติดปะต่อ นัยน์ตาค่อยลืมปรือขึ้น เห็นใครต่อใครมามุงดูตนเอง มาพูด มาถาม มาจับร่างกายของเขา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะโต้ตอบได้ดังใจนึก ร่างกายเจ็บปวดจนเหลือจะประมาณ เลือดทะลักออกมาจากบาดแผลไหลราวน้ำพุ นอกจากใบหน้า ยังมีขาของเขาอีกที่มันปวดร้าวจนเจียนสิ้นสติ หรือว่าเขากำลังจะตาย...ถ้าเกิดตายไปเสีย มันก็คงจะไม่ทรมาน แต่ว่า...
ห่วงมารดา ห่วงคนรัก ห่วงครอบครัว ห่วงกิจการที่ปั้นมากับมือ...
ใจนั้นยังนึกห่วง ยังพะวง สับสนระหว่างความเป็นและความตาย เขาอยากจะตายเพราะอยากให้พ้นความทรมานที่กำลังเกิดกับร่างกาย แต่อีกใจหนึ่งยังไม่อยากดับสิ้น เพราะมีเรื่องราวอีกมากมายเหลือเกิน ที่เขายังต้องสานต่อ เขาต้องมีชีวิต...ใช่...เขาต้องอดทน และต้องมีชีวิตรอดต่อไป
เขาต้องไม่ตาย!
นัยน์ตาลืมเบิกขึ้นมาในทันที เขากะพริบตาปริบๆ แล้วก้มลงมองดูตนเองในชุดคนไข้ ก่อนจะสะบัดหน้าเบาๆ รู้สึกหนานักบริเวณใบหน้าซีกซ้าย เขายกมือขึ้นจับ มันไม่รู้สึกอะไรเพราะมีผ้าพันแผลพันไว้หนาเตอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มคิดทบทวนกับตนเอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น พยาบาลสาวสวยก้าวเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์ที่ดูท่าทางใจดี เขาใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่อพบว่าตนเองอยู่ในมือหมอแล้ว อย่างน้อยๆ เขาก็ไม่ตาย ทุกอย่างจะรักษาได้...
“คุณทีปต์ เราจะแกะผ้าพันแผลให้นะครับ เพื่อจะดูบาดแผลบนใบหน้าของคุณ ผิวหนังส่วนใหญ่...เอ่อ...เสียหาย เพราะทั้งโดนกระจกเฉือนและบาดแผลจากไฟไหม้ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ บางทีศัลยกรรมอาจจะช่วยได้”
“ครับ” เขารับคำอย่างงงๆ นางพยาบาลค่อยแกะผ้าพันแผลให้อย่างเบามือ เธอมีสีหน้านิ่งสงบ นัยน์ตาแฝงแววเห็นใจ ขณะที่ยื่นกระจกให้เขา
ทีปต์รับกระจกมา แล้วใช้มันส่องดูใบหน้าของตนเอง ก่อนจะตาเบิกโพลงอย่างตกใจเมื่อเห็นเงาสะท้อนจากกระจกนั่น
นั่นมันอสูรร้าย!
“ไม่! ไม่จริง”
เหงื่อของชายหนุ่มผุดขึ้นโทรมกาย แม้จะอยู่ในห้องที่ปรับอุณหภูมิโดยแอร์คอนดิชั่นเย็นฉ่ำ ตาของเขาเบิกกว้าง หัวใจเต้นกระหน่ำรัวเร็ว ทีปต์กำมือกับผ้าห่มที่ตกอยู่ตรงเอวแน่น เขาผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้จังหวะของหัวใจเต้นเป็นปรกติ
ฝันร้าย...
ฝันร้ายอีกแล้วสินะ...