ตอนที่ 2
‘พี่นนท์... ออกมานะ ออกมาคุยกับเอยให้รู้เรื่อง ออกมานะ ออกมาสิ’
‘มาตะโกนโหวกเหวกแบบนี้ทำไม คนอื่นเขาหลับเขานอนกับหมดแล้วไม่เห็นหรือ’
ปาณัสม์ในชุดนอนสีเข้มเปิดประตูรั้วออกมาต่อว่า หล่อนเห็นเพื่อนก็รีบถลาเข้าไปหา ก่อนที่ปาณัสม์จะทำหน้าผะอืดผะอมจะอาเจียน
‘เธอดื่มมาหรือเอย’
‘นิดหน่อยน่ะ ณัสไปตามพี่นนท์ออกมาคุยกับเอยหน่อย เอยมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องสำคัญมาก’
หล่อนพูดเสียงอ้อแอ้เพราะเมาเต็มขั้น หน้าตาก็แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ส่วนเนื้อตัวก็ยืนโงนเงนจะล้มแหลมิล้มแหลอยู่ร่อมร่อ
‘เธอกลับบ้านไปเถอะ เพราะตอนนี้พี่นนท์ไม่อยู่’
‘ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ พาฉันเข้าไปหาพี่นนท์เดี๋ยวนี้เลย ณัส พาฉันเข้าไปสิ!’
หล่อนเค้นเสียงขึงขังใส่เพื่อน และเมื่อเพื่อนไม่ยอมพาเข้าไปหล่อนจึงพยายามเข้าไปเอง
‘ฉันเดินเข้าไปเองก็ได้’
ร่างของหล่อนเดินโซซัดโซเซเป็นปูนาขาเก เดินเข้าไปในอาณาเขตคฤหาสน์หลังงามตรงหน้า ปากก็ตะโกนร้องเรียก
รฐนนท์ลั่น
‘พี่นนท์! ออกมาคุยกันนะ ออกมาคุยกับเอยให้รู้เรื่อง พี่นนท์’
ปาณัสม์เดินตามหลังมา ก่อนจะถอนใจแรงๆ และรีบประคองร่างของเอิงเอยเอาไว้ เมื่อเจ้าหล่อนจะล้มหงายไปด้านหลัง
‘เอย เธอเมามากแล้วนะ กลับไปบ้านเถอะ’
‘ไม่ ไปตามพี่ชายนายออกมาคุยกับฉัน เร็วสิ’
‘เธอจะคุยอะไรกับพี่นนท์’
หล่อนจ้องหน้าปาณัสม์ ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา
‘ก็พี่นนท์ใจร้าย จะบอกเลิกฉันไม่ใช่เหรอ’
‘เธอรู้ได้ยังไง พี่นนท์บอกเธอหรือ’ สีหน้าของเพื่อนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
‘แกไม่ต้องมาทำหน้าตกใจเลยณัส แกน่ะตัวดี แกทำให้ฉันเสียใจมากรู้ไหม’
‘นี่อย่าบอกนะว่าแกได้ยินที่ฉันพูดกับพี่นนท์’ ปาณัสม์คาดเดาได้อย่างแม่นยำ
‘ใช่! ฉันได้ยินทุกอย่างเลย ทุกประโยคที่พี่นนท์พูดเลยล่ะ’
หล่อนร้องไห้จ้าเหมือนเด็กน้อย ก่อนจะซบหน้ากับอกกว้างของปาณัสม์อย่างเสียขวัญ
‘ทำไม ฉันเป็นแฟนที่ไม่ดีตรงไหน ทำไมพี่นนท์ถึงรักฉันไม่ได้ ทำไม...’
‘ฉันว่าเธอกลับบ้านไปเถอะ สร่างเมาแล้วเราค่อยมาคุยกัน ฉันจะบอกพี่นนท์ให้ว่าเธอแวะมาหา’
‘ไม่’
หล่อนเงยหน้าจากแผ่นอกกว้างของปาณัสม์ขึ้นมองหน้าเขา
‘ฉันต้องการคุยกับพี่นนท์ตอนนี้ และก็เดี๋ยวนี้!’
‘ก็บอกว่าพี่นนท์ไม่อยู่ไงล่ะ ตอนนี้ทั้งบ้าน เหลือแค่ฉันเพียงคนเดียว เธอกลับไปซะ เดี๋ยวฉันจะให้ลุงชดขับรถไปส่งที่บ้าน’
‘ไม่... ฉันจะรอ... รอจนกว่าจะได้คุยกับพี่นนท์’
หล่อนสะบัดตัว เดินเซไปเซมาเข้าไปในบ้านของปาณัสม์ ก่อนจะล้มลงบนโซฟาตัวยาว และผล็อยหลับไปนอนไหนก็ไม่รู้
ทุกอย่างมันควรจะจบแค่นี้ใช่ไหม แต่มันกลับไม่ใช่ เพราะเมื่อยามเช้าวันใหม่เดินทางมาถึง หล่อนกลับพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มไม่คุ้นเคย และข้างๆ กายก็มีผู้ชายคนหนึ่งนอนหลับอยู่ด้วย
ผู้ชายคนนั้นนอนหันหลังให้กับหล่อน แผ่นหลังบางส่วนของเขาโผล่พ้นขอบผ้าห่มออกมา และมันก็เปลือยเปล่าเรียบตึง
หล่อนกัดฟันลุกขึ้นนั่งอย่างระมัดระวัง ความเจ็บแปลบในส่วนนั้นของร่างกาย ทำให้หล่อนนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
หล่อนมีเซ็กซ์...?!
ใช่... หล่อนร่วมรักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็คือปาณัสม์เพื่อนสนิทของตนเอง
พระเจ้า!
หล่อนจำได้ว่าตนเองรวบรวมสติอยู่พักใหญ่ กว่าจะหนีออกมาจากคฤหาสน์หลังงามของปาณัสม์สำเร็จ ระหว่างทางที่เดินออกจากบ้านของเขา คนใช้ที่เดินผ่านมาเห็นเข้าพอดีก็แสดงทีท่าตกใจ แต่หล่อนไม่ได้สนใจอะไร รีบหนีออกมาอย่างเร็วที่สุด
หลังจากเกิดเรื่องราวน่าอัปยศอดสูนั้นขึ้นแล้ว หล่อนก็ตัดสินใจไม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอีก และรีบเก็บข้าวเก็บของกลับบ้านเกิด เพราะไม่อาจจะทนสู้หน้าปาณัสม์ได้อีก เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันได้ทำลายสายใยของคำว่า ‘เพื่อน’ จนพินาศย่อยยับแล้ว
“ป่านนี้นายจะเป็นยังไงบ้างนะณัส แล้วในเสี้ยวเศษของความรู้สึก ยังจดจำเพื่อนคนนี้ได้บ้างไหม”
น้ำตาของหล่อนร่วงรินเป็นทางด้วยความรวดร้าว เพราะตนเองนั้นไม่เคยลืมปาณัสม์ได้เลย
“เอย มีโทรศัพท์หาแน่ะ”
หล่อนรีบยกหลังมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับมารดา
“เอ่อ... ใครโทรมาหาเอยเหรอแม่”
มารดาของหล่อนส่ายหน้าน้อยๆ
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นบอกว่าโทรมาจากกรุงเทพฯ น่ะ”
“จ้ะ งั้นเอยไปรับโทรศัพท์ก่อนนะแม่”
หล่อนต้องรีบเดินเข้าไปในบ้าน และคว้ากระบอกโทรศัพท์พื้นฐานขึ้นมาแนบหู
“สวัสดีค่ะ เอิงเอยค่ะ”
“ดิฉันเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัท...”
หล่อนนิ่งอึ้งฟังคู่สนทนาบอกชื่อบริษัทยาวเหยียด ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ค่ะ...”
หล่อนจำได้ว่าตัวเองนำเรซูเม่ไปโพสในเวปหางานอยู่หลายเวป แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีบริษัทใหญ่แห่งนี้สนใจและติดต่อมาหา