บทย่อ
เธอแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้เพราะต้องการใช้หนี้ให้ครอบครัว จึงถูกสามีมองเป็นแค่ผู้หญิงหิวเงิน โดนพูดจาดูถูกสารพัด เธอจึงต้องท่องคำว่าอดทนในใจมาโดยตลอด เมื่อต้องกลายมาเป็นเมียผู้ชายเจ้าอารมณ์อย่างเขา .......... “คุณคิดจะทำอะไร” เธอมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ “ผัวเมียจะเดินด้วยกันมันแปลกนักเหรอ หรือกลัวว่าถ้าฉันเดินโอบไหล่ไปอย่างนี้จะทำให้เหยื่อไม่ติดกับ” “คุณศรัณย์!” “คืนนี้ค้างที่นี่ ฉันอยากจะมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เดี๋ยวจ้องห้องที่มันมีระเบียงเห็นวิวทะเล เวลามีอะไรกันจะได้รู้สึกตื่นเต้น” เขาทำหน้าทะเล้นจนเจ้าหล่อนนึกหมั่นไส้ ทำได้เพียงมองค้อนแล้วฟาดมือที่แผงอกกำยำเบา ๆ “คุณมันบ้าไปแล้ว ใครจะกล้าไปทำเรื่อยอย่างนั้น ฉันไม่เอาด้วยหรอก” “แต่ฉันจะเอามีอะไรข้องใจไหม เดินไปทำหน้าให้มันดี ๆ ด้วย เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าฉันบังคับเมียมาเที่ยว”
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
ภายในห้องโถงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรม ตอนนี้มีงานวิวาห์ใหญ่เกิดขึ้น บรรดาแขกเหรื่อในแวดวงสังคมชั้นสูง ต่างก็ทยอยเข้าร่วมงานแต่งของลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง ส่วนเจ้าสาวนั้นแทบจะไม่มีใครรู้จักความเป็นมาของเธอ นั่นเพราะเจ้าหล่อนเป็นเพียงลูกสาวเจ้าของรีสอร์ตโนเนม ในจังหวัดเชียงใหม่เพียงเท่านั้น
คู่บ่าวสาวที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้ากันแค่ไม่กี่วันก่อนแต่ง ต่างก็รู้สึกอึดอัดกับการต้องมายืนยิ้ม ยกมือไหว้แขกเหรื่อเป็นเวลานาน ทั้งคู่แทบจะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ เพราะต่างก็ไม่ได้รักใคร่ชอบพลอกันมาก่อน
“ชิด ๆ กันหน่อยค่ะเจ้าบ่าวเจ้าสาว” แขกในงานต้องการขอถ่ายรูปคู่ เมื่อเห็นคู่บ่าวสาวยืนห่างจึงร้องขอให้ขยับเข้ามาใกล้
‘ลลิดา’ มองหน้าเจ้าบ่าวแวบหนึ่ง ก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปใกล้ ‘ศรัณย์’ ยกมือขึ้นไปโอบไหล่เจ้าสาวอย่างถือวิสาสะแล้วยิ้มให้กล้อง
แชะ! แชะ!
เมื่อได้ภาพสมใจอยากแล้วก็เดินไป ทิ้งให้เขาและเธอยืนมองหน้ากันอย่างไม่คุ้นชิน เห็นหน้าเจ้าสาวทีไรศรัณย์มักจะถอนหายใจแทบทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะเธอขี้ริ้วขี้เหร่หรือไม่น่าชวนแมง เธอสวยมากในสายตาผู้ชายรักสนุกอย่างเขา แต่ที่ไม่ชอบก็เพราะเธอผู้นี้เข้ามาเพราะเรื่องเงิน และทำให้ชีวิตหนุ่มเจ้าสำราญของเขาต้องจบลงด้วยนั่นเอง
“เมื่อไหร่เรื่องบ้า ๆ นี้จะจบลงสักที”
“ฉันขอโทษค่ะ” เธอกล่าวสั้น ๆ อย่างรู้สึกผิด ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา
“รู้สึกผิดแล้วตอบตกลงกับแม่ฉันทำไม ทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะ”
“ฉันจำเป็นต้องทำอย่างนี้จริง ๆ ค่ะ”
“เห็นแก่เงิน” เขากล่าวอย่างเอือมระอาแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
“ทำไมพูดกับน้องอย่างนี้ตาศรัณย์” โฉมฉายเดินเข้ามาได้ยินพอดี จึงตวาดแหวอย่างเบาเสียงใส่ลูกชาย เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาได้ยินเข้า
“ทำไมผมจะพูดไม่ได้ครับ ในเมื่อสิ่งที่พูดมามันคือเรื่องจริง”
“หุบปาก มีอะไรค่อยไปพูดกันที่บ้าน ช่วยคิดถึงหน้าตาพ่อกับแม่ด้วย อีกอย่างตอนนี้หนูดาก็เป็นสะใภ้ฉันแล้ว จะพูดจะจาอะไรก็ให้เกียรติน้องด้วย” เธอสั่งสอนลูกชาย แล้วหันมาเอ่ยกับลูกสะใภ้ “หนูดาอย่าไปถือสาพี่เขาเลยนะ มีป้าอยู่ด้วยทั้งคนไม่มีใครทำอะไรหนูได้แน่นอน”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า หนูจะอดทนให้มาก ๆ ค่ะ” ลลิดายังคงยิ้มได้ เพราะถูกฝึกให้เป็นคนเข้มแข็งมาตั้งแต่เด็กแล้ว
“ไม่สิ ตอนนี้หนูเป็นสะใภ้แม่แล้ว ต้องเรียกแม่สินะ”
“ค่ะคุณแม่”
โฉมฉายยิ้มอย่างภูมิใจกับลูกสะใภ้คนนี้ เธอเป็นคนเลือกมาด้วยตนเอง ลลิดาเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน เก่งการบ้านการเรือน หน้าตาสะสวย การศึกษาก็ดี เหมาะที่จะเป็นลูกสะใภ้เธอที่สุดแล้ว
“งั้นแม่ไปคุยกับแขกฝั่งโน้นก่อนนะ ยิ้มเข้าไว้รู้ไหม”
“ค่ะคุณแม่”
ก่อนโฉมฉายจะเดินออกไปก็ถลึงตาขู่ลูกชาย แต่ทว่าศรัณย์ยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เหล่ตามองเจ้าสาวของตนอย่างดูหมิ่นดูแคลน
“เชื่องจริง ๆ”
ลลิตาหันขวับไปมองเขาด้วยความรู้สึกไม่พอใจ “หากไม่ชอบก็ไม่ต้องพูดกับฉันก็ได้นะคะ” ว่าแล้วก็เดินหนีเขาไป
ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบหน้าเขาคนนี้ แต่เธอก็ยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดมามันคือเรื่องจริง ที่เธอแต่งงานเพราะต้องการปลดหนี้ให้ครอบครัว เงินสินสอดที่ได้มาก็เอาไปปรับปรุงรีสอร์ตที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเสียหายแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวจากการถูกพายุถล่ม
งานแต่งดำเนินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีสะดุด ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จากการเล่นละครของคู่บ่าวสาว แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงซุบซิบนินทาจากแขกบางกลุ่ม ที่รู้จักกับเจ้าบ่าวเป็นอย่างดี และรู้ว่าเธอคนนี้ไม่ใช่คู่ควงของศรัณย์มาก่อน แต่จู่ ๆ ก็มีงานวิวาห์สายฟ้าแลบเกิดขึ้น จึงหนีไม่พ้นข้อครหาว่าเกิดจากการคลุมถุงชน
............