สัญญาน้ำตา
ตอนที่ 3
สัญญาน้ำตา
“คุณจับตัวฉันมาทำไม”
ไอรดาถามคำถามเดิมที่เธอยังไม่เคยได้คำตอบหลังจากตอนนี้ถูกพาลงจากรถมายังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯแต่ด้วยหญิงสาวไปเรียนต่างประเทศมานานเธอไม่คุ้นชินทางจึงไม่รู้ว่าที่เขาพามาคือส่วนไหนของเมืองหลวง
“ไปจัดเตรียมข้าวและอาหารให้พร้อม”
ภูดิศไม่ตอบคำถามแต่กลับหันไปพูดกับแม่บ้านที่รีบเดินเข้ามาหาเจ้านายด้วยท่าทางกลัวก้มหน้าตลอดไม่แม้แต่จะสบตาเจ้านายที่พูดด้วย
“คุณพาฉันมาที่ไหนแล้วพาฉันมาทำไมพากลับไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวที่ถูกมัดแขนไพล่หลังพูดแทรกขึ้นมาทันที เธอต้องการให้แม่บ้านได้ยินว่าเธอถูกบังคับมาที่นี่เผื่อบางทีหญิงสูงวัยอาจจะช่วยเธอออกจากบ้านหลังนี้ได้
“ได้ยินเสียงฉันไหมเป็นใบ้หรือหูหนวก”
คนถูกจับถึงแม้จะรู้สึกกลัวแต่ด้วยความโมโหก็เผลอพูดไม่ดีกับผู้ชายที่ยังคงวางท่าดูเป็นมาเฟียหนุ่มอยู่ตลอดเวลา
“เงียบได้ไหม ผมรำคาญ”
ภูดิศหันมามองด้วยสายตาเกรี้ยวกราดแต่ท่าทีของเขายังดูสุขุมก่อนที่จะเดินออกจากห้องรับแขกไป
“โอ๊ย! นี่มันอะไรกันวะ”
ไอรดาส่งเสียงโวยวายลั่นบ้านเพราะตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องกลัวใคร ภายในห้องรับแขกหรูมีเพียงแค่เธออยู่คนเดียว
“คุณพ่อช่วยลูกด้วย”
หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในความกลัวพยายามมองไปรอบตัวแต่สุดท้ายเธอก็เห็นแค่เพียงหน้าต่างที่มองไม่เห็นด้านนอกเท่านั้นตอนนี้หัวใจของไอรดาจากที่เคยรู้สึกกล้าแกร่งถูกความกลัวเขาก็กินหัวใจอย่างเต็มดวง ความเงียบของบ้านที่ไม่มีแม้แต่เสียงใครเดินทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าการที่เธอถูกจับมาที่นี่เธออาจจะไม่ได้กลับไปที่บ้านของเธออีกเลย
“ฉันอยากกลับบ้านใครก็ได้ปล่อยฉันไปที”
ความเข้มแข็งที่เคยมีแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนแอ ดวงตาที่เคยเข้มแข็งตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยหยดน้ำตาที่ไหลลงมาโดยที่ร่างกายไม่สามารถสั่งการได้มันเป็นความรู้สึกของจิตใจที่ทั้งกลัวและรู้สึกพ่ายแพ้ชีวิตเหมือนกำลังมืดครึ้มไร้ทิศทาง
“หมดแรงแล้วหรือไงเสียงถึงได้เงียบไป”
ภูดิศเดินเข้ามาท่าทาของเขายังคงเหมือนเดิมมีเพียงแค่คำพูดที่ดูจะอ่อนโยนมากขึ้นถึงแม้จะไม่ถึงขั้นเป็นมิตรก็ตาม
“คุณปล่อยฉันไปเถอะนะต้องการเงินเท่าไหร่ฉันจะให้คุณน้าโอนให้”
ไอรดารีบลุกพาตัวเองเดินมาหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆเธอ สายตาของหญิงสาวเว้าวอนขอความเห็นใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจับตัวเธอมาของเพราะต้องการเรียกค่าไถ่
“เธอแน่ใจได้ยังไงว่าคุณน้าของเธอจะยอมเสียเงิน..เพราะชีวิตของเธอไม่ได้มีค่าสำหรับเขาขนาดนั้นหรอก”
แววตาของคนพูดมันเป็นแววตาที่แสนดูถูก ไอรดาสัมผัสได้แต่เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังดูถูกเธอหรือดูถูกกานดา
“คุณน้ารักฉันไม่มีทางที่เขาจะไม่ยอมเสียเงินมาไถ่ตัว”
ภูดิศไม่ตอบแต่กลับเดินไปที่ตู้เซฟกดรหัสอย่างใจเย็น หยิบเอกสารและเดินมาหาหญิงสาวที่กำลังมองจ้องเขาเพื่อให้เธอได้เห็นสิ่งที่เป็นข้อความอยู่บนกระดาษ
“อ่านให้ครบทุกบรรทัด ผมหวังว่าผู้หญิงเก่งอย่างคุณที่ไป ร่ำเรียนถึงเมืองนอกคงไม่โง่พอที่จะคิดว่าเอกสารนี้เป็นของปลอมเพราะรายมือทุกอย่างที่เขียนคุณคงมั่นใจว่าเป็นลายมือของพ่อคุณ”
ภูดิศทำหน้าที่ถือกระดาษให้เพราะตอนนี้ไอรดายังถูกมัดมืออยู่หญิงสาวค่อยๆอ่านทุกบรรทัดอย่างตั้งใจพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะเธอเชื่อว่าทุกคำที่เขียนและลายมือไม่ใช่ ของปลอมแต่มันคือการเขียนของพ่อเธอจริงๆเพราะสำนวนการใช้คำที่พ่อเคยเขียนอีเมลหาเธอมันช่างแสนคุ้นเคย
“หยุดร้องไห้สักทีเถอะ ! ”
คนตัวสูงเริ่มรู้สึกรำคาญที่สาวน้อยเคยเข้มแข็งกับเอาแต่ร้องไห้ทั้งที่ก็รู้ว่าข้อความในสัญญาฉบับนั้นคืออะไรแล้ว
“ไม่ให้ร้องไห้จะให้หัวเราะดีใจอย่างนั้นใช่ไหม ถ้าคุณจะช่วยอนุเคราะห์คนโง่อย่างฉันก็ช่วยบอกทีว่าเพราะอะไรคุณพ่อถึงได้คิดที่จะเอาลูกมาขายให้กับคุณแทนหนี้พวกนั้น”
ไอรดาเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรผู้ชายตรงหน้าถึงได้จับตัวเธอมาเพราะจากข้อความในสัญญาระบุไว้ว่าพ่อของเธอยืมเงินของภูดิศเป็นจำนวน 100 ล้านบาทและถ้าเมื่อครบกำหนดสัญญาไม่สามารถมีเงินมาใช้คืนได้อนุสรณ์สัญญาที่จะเอาเธอมาขายแทนเงินเพื่อล้างหนี้ทั้งหมด
“พ่อของคุณกับแม่เลี้ยงที่แสนดีร่วมกันทำธุรกิจผิดกฎหมายแต่สุดท้ายก็กลับหักหลังกันเองกับพวกนั้น ผมพยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อหวังให้พ่อคุณรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีแต่ก็ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายพ่อคุณกับเมียจะหักหลังไม่ยอมใช้หนี้แล้วเมื่อทวงมากๆก็เกิดสัญญาฉบับนี้ขึ้น”
ภูดิศเข้าใจว่าไอรดาเชื่อใจในตัวเขาแล้วเพราะในเมื่อเขายอมบอกความจริงกับเธอแต่เมื่อเล่าทุกอย่างให้ฟังสายตาของ หญิงสาวตรงหน้ายังคงทำเหมือนเขาเป็นคนไม่น่าไว้ใจ
“พูดเหมือนคุณเป็นคนดีและยกความผิดให้คุณพ่อกับ น้ากานดาหมดเลย ฉันไม่มีทางเลือกก็คงต้องยอมเชื่อคุณ”
ไอรดาพูดออกไปทั้งที่เธอยังไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอกำลังคิดว่าภูดิศหลอกเธอหรือตัวหญิงสาวเองกำลังหลอกตัวเองกันแน่
“นั่นก็ไม่ใช่ธุระของผมที่จะต้องมานั่งอธิบายให้คุณเชื่อหรือไม่เชื่อรู้ แค่เพียงว่าตอนนี้คุณต้องมาเป็นเมียล้างหนี้ให้กับผมส่วนระยะเวลาในสัญญาก็บอกไว้แล้วว่า 5 ปีหรือเร็วกว่านั้นก็ได้ถ้าผมใช้คุณจนเบื่อแล้ว”
เจ้าหนี้โหดยิ้มมุมปากทำตาหวานมองสบตาหญิงสาวตรงหน้าเหมือนต้องการให้เธอรู้ว่าวันนี้ไอรดาอยู่ในฐานะเหยื่อส่วนเขาเป็นผู้ล่าถึงเธอจะหนีก็คงไม่มีทางหนีพ้นไปได้