บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8

ท่าทางของรอนนี่ดูมีความสุขมาก เขาทอดสายตามองดูโบราณสถานภายในพระราชวังบางปะอินอย่างให้ความสนใจ โดยไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหน่ายแต่อย่างใด

เมื่อคณะทัวร์เดินตามๆกันมาถึงพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ปราสาทโถงกลางน้ำในแบบจตุรมุข ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรชิ้นเอกแห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ ตระหง่านอยู่กลางสระน้ำขนาดใหญ่ ถัดไปก็คือหอวิฑูรทัศนา พระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะ ที่สร้างเป็นหอสูงก็เพื่อเอาไว้ส่องกล้องชมความสวยงามของภูมิทัศน์รายรอบพระราชวังแห่งนั้น

เสร็จจากเที่ยวชมพระราชวังบางปะอิน ชั่วอึดใจใหญ่ๆรถก็แล่นมาถึงตลาดน้ำอโยธยาซึ่งระยะทางไม่ไกลกันนักกับจุดแรกที่ทัวร์แวะ จากนั้นก็ปล่อยให้ลูกทัวร์ได้เดินเล่นและซื้อของกันตามอัธยาศัย บ้างก็สนุกสนานกับการถ่ายภาพในภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับวิถีชีวิตริมน้ำ

ก่อนแยกตัวออกมาจากลูกทัวร์ น้ำค้างนัดหมายว่าอีกครึ่งชั่วโมงให้ทุกคนมาเจอกันตรงสะพานข้ามคลอง เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันในเรือนหลังเล็กๆริมน้ำ ที่แลเห็นลานระเบียงโล่งกว้างอยู่ไม่ไกล

“ชอบตลาดน้ำมั้ยคะคุณรอน”

น้ำค้างถาม ในจังหวะหนึ่งที่สายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ของเขา

รอนนี่ยังคงเดินตามหลังเธอ และหลายครั้งที่เธอสังเกตเห็นว่าเขาแอบถ่ายภาพเธอ

“ชอบมากๆครับ”

เขาตอบพร้อมๆกับส่งยิ้มให้ แล้วก็หันไปบันทึกภาพของตลาดน้ำด้วยกล้องถ่ายรูปที่นำติดตัวมาก ปากกระบอกเลนส์ดูใหญ่แปลกตา เหมือนกับที่พวกช่างภาพมืออาชีพชอบใช้ รอนนี่ถ่ายภาพราวกับว่ากำลังทำงาน ท่วงท่าทะทัดทะเมง ดูคล่องแคล่วราวกับมืออาชีพ ทำให้หญิงสาวไม่อาจเก็บความสงสัยเอาไว้ได้

“คุณเป็นช่างภาพรึเปล่าคะ?”

“ใช่ครับ” เขาตอบยิ้มๆ

จริงอย่างที่เธอสงสัย

“เป็นช่างภาพประเภทไหนคะ” เธอถามอีก

“ช่างภาพสารคดีครับ”

รอนนี่เป็นช่างภาพอิสระที่เคยฝากฝีมือเอาไว้บนหน้านิตยสาร National Geographic มานับครั้งไม่ถ้วน สาเหตุที่เขาเลือกถ่ายภาพสารคดี ก็เพราะเขาหลงใหลในสภาพของความเป็นจริงที่ตาเห็น มากกว่าจะชื่นชมกับภาพที่จัดฉากกันขึ้นในสตูดิโออย่างงานถ่ายภาพแฟชั่นหรือโฆษณาทั่วๆไป เพราะเขาเชื่อว่า ‘สารคดี’ มีความท้าทายในตัวของมันเอง ภาพทุกภาพที่ถูกบันทึก จะเป็นประวัติศาสตร์ที่นำมาอ้างอิงถึงความมีอยู่จริงของมันได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เมื่อไม่มีการปรุงแต่ง ความจริงจึงถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างไม่บิดเบี้ยว

แม้เขาจะเคยเริ่มอาชีพช่างภาพด้วยการถ่ายภาพแฟชั่นมาก่อนก็ตาม ทว่าภายหลังจากที่ได้สัมผัสกับงานแฟชั่นมาได้ระยะหนึ่ง เขากลับค้นพบว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาค้นหา แม้รายได้จากอาชีพช่างภาพสารคดี ไม่อาจเทียบได้เลยกับช่างภาพในแนวแฟชั่นหรือโฆษณาที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทว่ารอนนี่ไม่ใช่คนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะเขาคือทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐีชาวสเปนที่ถือหุ้นใหญ่อยู่ในบริษัทผลิตรถยนต์แบรนด์ดังของยุโรป

“น่าสนใจนะคะ”

เธอหมายถึงอาชีพของเขา ชายหนุ่มยิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไร

“เพิ่งมาถึงเมืองไทยได้ไม่นาน…คุณรอนนี่ติดนิสัยคนไทยมาอย่างหนึ่งแล้วนะคะ…รู้ตัวมั้ย” ปลายเสียงตวัดสูงเป็นเชิงถาม

“นิสัยอะไรครับ” เขาชำเลืองมองเธอ ขณะที่เดินเคียงคู่กันไป

“ยิ้มเก่งค่ะ”

รอนนี่ได้ฟังที่น้ำค้างพูดจบ เขาก็ยิ้มให้เธออีกครั้ง ราวจะยืนยันว่าเธอพูดถูก ทว่าครั้งนี้…ที่ต่างไปก็คือรอยยิ้มนั้นดูหวานและตั้งใจมากกว่าทุกๆครั้ง

“น้ำค้าง”

รอนนี่รู้สึกคล้ายกับว่ามีอำนาจบางอย่าง สั่งให้เขาเรียกชื่อเธอ เขาเปล่งเสียงออกมาช้าๆ ราวจะสะกดเธอด้วยถ้อยคำของเขา

หญิงสาวหันมามองตาเขา วูบหนึ่งที่สายลมพัดผ่าน แพรผมสีดำขลับระยับอยู่ในเปลวแดด

อีกแล้ว…กลิ่นลีลาวดีละลิ่วลอยมาจากแห่งใดก็ไม่อาจล่วงรู้ได้

ในวงสีน้ำตาลสนิมเหล็กกลางดวงตายาวรีคู่นั้นของรอนนี่ จู่ๆ…แวบหนึ่งที่มันประสานเข้ากับดวงตาของเธอ ราวกับว่าประกายสีน้ำตาลในดวงตาของเขา กำลังหลอมละลาย

“รอน…”

หญิงสาวเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ ราวกับว่ามีใครบางคนสั่งให้เธอทำ

ในวินาทีที่รู้สึกราวกับว่าโลกรอบตัวได้หยุดนิ่ง ตรงรอยต่อระหว่างความเป็นจริงและความฝัน สิ่งที่เคลื่อนไหวมีเฉพาะเธอกับเขา

หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าม่านตาของเธอกำลังถูกแสกน เหมือนที่เห็นบ่อยๆในภาพยนตร์ไซไฟ เมื่อดวงตาของชายหนุ่มตรวจเจอลักษณะเฉพาะทางกายภาพบางอย่างที่ตรงกัน สีน้ำตาลในดวงตาของเธอและเขาหมุนช้าๆเหมือนภาพสโลโมชั่นของม่านชัตเตอร์ที่เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางเรตินา ก่อนจะหมุนเร็วขึ้นๆ จนหมุนติ้วแล้วปรากฏเป็นแสงวาบเหมือนไฟแฟลช

‘เกิดอะไรขึ้น’

หญิงสาวรำพึงในใจ ทว่าสติเพียงน้อนนิดไม่อาจแยกแยะความจริงหรือความฝัน ความรู้สึกเหมือนไฟดับแล้วสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง ภาพแห่งความทรงจำที่ทับซ้อนอยู่ในอดีต ผุดพรึ่บพรั่บขึ้นมาในการรับรู้ หากมันก็เร็วมากจนพร่าเลือนและลำดับไม่ได้ เมื่อน้ำค้างพยายามจะเพ่งมอง ทำให้รู้สึกว่าร่างกายของเธอเบาหวิว เป็นปัจจุบันขณะที่ว่างโหวง โงนเงน เสียการทรงตัวไปชั่วขณะสั้นๆ

ความรู้สึกว่าบางอย่างกำลังถูกส่งผ่านมาจากห้วงอดีต จากดวงตาสีสนิมเหล็กของชายหนุ่ม ไม่ชัดเจนนักว่าคืออะไร แต่รับรู้ได้รุนแรง

วูบหนึ่ง…ความทรงจำบอกว่าเธอเคยรู้จักชายผู้นี้ และก็วูบหนึ่งอีกเช่นกัน ที่เธอรู้สึกว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้

ในวินาทีนั้น หญิงสาวหารู้ไม่ว่ารอนนี่เองก็รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นความสงสัยของหญิงสาว ทว่ามันคือความสงสัยของรอนนี่เช่นกัน

“น้ำ…”

เสียงเพ็ญตะโกนลั่นมาจากทางด้านหลัง เมื่อเห็นเพื่อนสาวตกอยู่ในอาการเหม่อลอย แน่นิ่งไปชั่วขณะราวกับถูกมนต์สะกด ‘ชั่วขณะ’ ที่มีเพียงน้ำค้างและรอนนี่เท่านั้น ที่รับรู้ว่ามันยาวนาน รู้ว่าเธอเห็นอะไร? และเขาเห็นอะไร?

“เป็นอะไรไป…ไม่สบายหรือเปล่า”

เพ็ญละล่ำละลักถามด้วยความเป็นห่วง ขณะปรี่เข้าประคองร่างของเพื่อนสาวที่อยู่ในอาการโงนเงน

“คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”

คนที่ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อครู่ ที่รับรู้ได้เพียงเธอกับเขา ยืนเก้ๆกังๆ ในใจอยากช่วยประคอง ทว่าช้ากว่าเพ็ญ

“อาการเหมือนจะเป็นลมค่ะ…บอกไม่ถูก รู้สึกว่าดวงตาพร่าไปชั่วขณะ มันเห็นภาพวูบวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นทุกอย่างก็หมุนคว้าง” น้ำค้างพยายามอธิบาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel