สหาย
ภาพตรงหน้าคือหนึ่งในหญิงงามที่ครั้งหนึ่งเขาแทบจะยอมสละทุกอย่างเพื่อนางหากแต่ตอนนี้เมื่อนางเข้ามาใช้ชีวิตในวังหลวงกับไม่ต่างอะไรกับเหล่าผู้หญิงของเขาที่วันๆไม่คิดจะทำอะไรนอกจากหาทางฉุดรั้งทุกวิถีทางให้เขาอยู่กับพวกนางไม่มีทางใดที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นหรือเป็นสุขใจเมื่อต้องอยู่กับพวกนางอีกต่อไปใจกับคิดถึงใบหน้ายโสนั้นอีกครั้งหากเป็นองค์ชายใหญ่ผู้นั้นก็คงจะยินดีที่มีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังดูจากท่าทาง ที่เป็นบุรุษเจ้าสำราญนั่นอีกเล่าคงชอบที่จะอยู่กับหญิงงามเป็นอย่างยิ่ง องค์ชายสิบสองสะลัดความคิดหมกมุ่นถึงคนผู้นั้นทิ้งไปนี่เขาเป็นอะไรไปไยต้องไปสนใจคนต่ำชั้นอย่างนั้นด้วย
จิ่นฉินวางร่างบอบบางลงบนแท่นนอนหนานุ่ม จิวซินหลับตาพริ้ม คลายเสื้อออกด้วยความที่คิดว่าคนเมาต้องอึดอัดเป็นแน่ ลืมไปสนิทว่าเขาล่วงเกินนางมากเกินไปแล้ว หมิงหลินเข้าพบพอดีคว้ามือจิ่นฉินโดยเร็ว
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า”
จิ่นฉินสะดุ้งเล็กน้อยนึกโมโหตัวเองที่บังอาจล่วงเกิน นายหญิงอย่างนั้น
ฮ่องเต้ นั่งเหม่อลูบคลำกระบี่ในมือที่ด้ามของกระบี่สีทองวาววับมีลวดลายมังกรสลักชื่อเหอหยวน กระบี่ที่ดื่มเลือดอีกฝ่ายเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำสาบานร่วมเป็นร่วมตายกันชั่วนิรันดรและสับเปลี่ยนอาวุธคู่กายของเขามอบให้เหอหยวนคือดาบไห่หยวนส่วนกระบี่เหอหยวนอยู่ที่เขาพร้อมเคล็ดวิชา ที่ต่างฝ่ายต่างเต็มใจถ่ายทอดให้กัน
ครั้งหนึ่งเขากับเหอหยวน เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรบ กับแคว้นฉีจนเป็นที่ระบือนามไปไกลหากคราใดที่มีเหอหยวนร่วมรบเมื่อนั้นความสำเร็จมักจะอยู่ไม่ไกลเขาไม่เคยห่วงชีวิตตัวเองหากแต่ห่วงชีวิตของสหายเช่นเหอหยวนเลยทำให้เขาไม่ยอมตายเพื่อที่จะได้ยืนเคียงข้างเหอหยวนในการรบทุกครั้งไป แต่แล้วภาพของหญิงงาม ก็ผุดขึ้นมาแทนที่เหอหยวนและเขา ต่างปักใจในนางไม่แม้แต่จะปริปากบอกสักคำว่านางจะเลือกใครแต่เขากับเป็นฝ่ายได้ครอบครองนาง แม้จะเพียงช่วงเวลาสั้นๆ จนทำให้เขาและเหอหยวนตัดขาดจากการเป็นสหายกันตลอดไป
จนกระทั่งตอนนี้เปรียบเหมือนศัตรูที่ต้องคอยห้ำหั่นกันอยู่ตลอดเวลา แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแคไหนก็ตามความขุ่นมัวกับทวีความรุนแรงจนถึงขั้นรบพุ่ง และก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองแคว้น เหอหยวนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขายังไม่เคยลืมมิตรภาพที่สูญเสียไป เหอหยวนไม่อาจอภัยให้เขาได้แต่ใครจะรู้ใจเขาเล่าว่าไม่เคยลืมคำว่าสหาย วางกระบี่ลงบนหีบอย่างถะนุถนอมจะมีสิ่งใดที่เขาจะลบล้างความแค้นในใจเหอหยวนให้หมดไปได้ ภาพใบหน้าขององค์ชายใหญ่จินเกอ ใบหน้าหมดจด ท่าทางอ่อนน้อมทว่าแววตาแข็งกร้าวไม่ต่างจากเหอหยวน เขาจะทำอย่างไรที่จะชดเชย ให้กับองค์ชายผู้นี้จนเหอหยวนพอใจเขารู้ดีว่าเหอหยวนรักบุตรคนนี้ปานแก้วตา ฮ่องเต้ถอนใจยาวหวังว่าการนี้จะไม่เสียเปล่าพร้อมกับสิ่งที่เขาคิดไว้ว่าจะ ชดเชยให้เหอหยวนเรื่ององค์รัชทายาท องค์ชายสิบสอง
“ร่างราชโองการส่งไปยังแคว้น เหอตงหยวน”
เสียงสำทับบอกแก่ข้าหลวงหน้าพระพักตร์ ใบหน้าคลายกังวลลงไปไม่น้อยหวังว่าครานี้จะชดเชยให้แก่สหายเก่าจนความแค้นเคืองหมดสิ้นไป
จิวซินสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาจากหลับใหล หอมกรุ่นกลิ่นโจ๊กลูกบัวทำจมูกฟุดฟิดลืมกิริยาของบุรุษจนหมดสิ้น
“หมิงหลิน ข้าหิวแล้ว” แต่ฉับพลันเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เปลี่ยนเสียงพูดและกิริยาน่ารักให้หายไป กลายเป็นน้ำเสียงดุดัน
“เข้ามานี่หน่อย หมิงหลิน”
หมิงหลินอมยิ้ม เยื้องย่างเข้ามายกน้ำอุ่นเทลงอ่างอาบน้ำใบใหญ่ปิดหน้าและห้องหับเสียมิดชิดผ้าม่านถูกนำมาขึ้งกันถึงสามชั้น จิวซินเปลื้องผ้าลงไปนอนแช่น้ำอุ่นผมยาวสลวย สยายลงกลางหลังใบหน้าผุดผาดประทุมถันเต่งตึงหน้าท้องเรียบเนียนสวยไร้ที่ติ ผิวขาวอมชมพูจนหมิงหลินเป็นผู้หญิงยังถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อเผลอมองแบบตรงๆ นายหญิงของนางไม่เพียงแต่งดงามเท่านั้นหากแต่ใต้หล้านี้คงจะหาใครเทียบเคียงนางไม่
จิวซิน เปลื้องผ้าลงไปนอนแช่น้ำอุ่นผมยาวสลวย สยายลงกลางหลังใบหน้าผุดผาดประทุมถันเต่งตึงหน้าท้องเรียบเนียนสวยไร้ที่ติ ผิวขาวอมชมพูจนหมิงหลินเป็นผู้หญิงยังถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อเผลอมองแบบตรงๆ นายหญิงของนางไม่เพียงแต่งดงามเท่านั้นหากแต่ใต้หล้านี้คงจะหาใครเทียบเคียงนางไม่
“พอแล้วหมิงหลินเจ้าออกไปเถอะข้าเพียงต้องการ แช่น้ำอุ่นเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้น”
หมิงหลินขยับตัวคารวะก่อนจะถอยห่างออกไปด้านนอก