วังแตก! ไฟไหม้
สุ่ยปิงออกจากมิติมาก็ต้องมาเจอเข้ากับเหล่าองค์ชายทั้งสิบสี่พระองค์ซึ่งนางก็ไม่ยักกะจำชื่อได้สักพระองค์เดียวแม้แต่ชื่อฮองเต้เสด็จพ่อนางยังจำไม่ได้เลย ใครมานางก็ไม่สนใจหรอกเพราะนางยังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่อีกมากไม่มีเวลามาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆหรอก
"องค์ชายทุกพระองค์มาหาข้าถึงที่นี้มีเรื่องอันใดกันเพคะ"ก็ไม่ชอบหรอกนะคำราชาศัพท์แต่ก็มันจำเป็นต้องพูด
"น้องหญิงไม่ชอบพูดคำราชาศัพท์เหตุใดถึง"
"ก็มันจำเป็นนิเพคะหากไม่พูดแล้วทุกพระองค์จะรับฟังรู้ความหรือเพคะ"ก็นางเกิดมาในตำหนักเย็นแม้ว่านางคนก่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวานแต่กับนางมันไม่ใช่นางเป็นคนไม่ชอบมากพิธีไม่ชอบอยู่ในกฎธรรมเนียมต่าง ๆก็ไม่ชอบยิ่งคำสั่งฮองเต้นางยิ่งต้องขัดพระทัยไปเสียทุกเรื่อง
"งานนี้พี่หญิงทำเอาเสด็จพ่อล้มป่วยไปหลายวันเชียว"ถ้านางจำไม่ผิดเขาคือองค์ชายแปดมู่จือเกิดจากนางสนมนางหนึ่งซึ่งนางก็จำไม่ได้
"ช่วยไม่ได้พระองค์หาเรื่องเอง"
"แต่เสด็จพ่อทรงตามใจน้องหญิงมากนะ"องค์ชายใหญ่นามเฟยหยางพี่น้องร่วมมารดากับองค์ชายสี่และองค์ชายเก้าเกิดจากสนมขั้นเฟยเช่นเดียวกับองค์ชายรองและองค์ชายสามและองค์ชายหก
"หม่อมไม่สนพระองค์คือคนผิดที่ทำให้แม่ของหม่อมฉันต้องจากไปหากทรงเห็นใจกันจริงๆพระองค์ต้องส่งหมอหลวงมารักษาเสด็จแม่จนหายดีแล้วไม่ใช่ปล่อยให้นางต้องสินใจตาย!"สุ่ยปิงไม่สมควรโกรธหรือเสด็จแม่ของนางป่วยมานานแล้วโดยที่ ฮองเต้นั่นเสวยสุขอยู่กับนางพระสนมสั่งขังลืมเสด็จแม่ข้าวปลาก็ไม่ต่างจากสุนัขรับประทานหากนางไม่ได้มาอยู่ในร่างนี้คงจะทวงความยุติธรรมคืนให้เสด็จแม่ไม่ได้ วันที่นางเริ่มสร้างฐานะขึ้นมาเคยอยากพาเสด็จแม่ไปรักษาแต่นางกลับบอกว่ารอให้ ฮองเต้พาหมอหลวงมาแต่เขาก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยว่า 'หากนางจะตายก็ปล่อยให้นางตายไป' นี้หรือคือคำพูดของคนเป็นสามีและเสด็จพ่อนับจากวันที่นางได้ยินคำกล่าวนั้นมันทำให้นางไม่อยากจะยอมรับว่า ฮองเต้คือเสด็จพ่อคนที่ทำให้นางต้องสูญเสียคนที่รักมากๆไปนางก็จะไม่ไว้หน้าเขาเช่นกัน
"น้องหญิงคือพี่แค่..."
"พวกท่านกลับไป!"ต่อให้นางอยากได้ใจพี่ชายน้องชายแต่พอนึกดูแล้วพวกเขาก็คือลูกๆของนางสนมที่ทำให้เสด็จแม่ต้องโดนขังลืม
"พี่หญิงข้ากับน้องสิบสี่อยากมอบกำไลให้ท่าน"สุ่ยปิงมองไปยังกำไลหยกสีเขียวมรกตแววตาเป็นประกายระยิบระยับช่วยไม่ได้ของมีค่าทั้งหลายล้วนเป็นที่ต้องตาต้องใจนาง นางไม่ได้โลภแค่ชอบสิ่งของมีค่า
"ขอบใจน้องสิบสามกับน้องสิบสี่เจ้าสองคนตามพี่มาซิพี่สาวก็มีของจะให้"
"ขอรับ"องค์ชายสิบสามนามหรูอี้กับองค์ชายสิบสี่นามหรูเฉินต่างก็หันไปยักคิ้วใส่เหล่าพี่ชายทั้งหลายประมาณว่าพวกท่านกลับไปเถิดอย่าหวังจะได้ใจพี่หญิง
"นิ! พวกเจ้า"องค์ชายสามมองน้องชายอย่างไม่อยากจะเชื่อพวกเขาเป็นเพียงน้องชายแต่กลับรู้ว่าสุ่ยปิงชอบสิ่งใดแล้วทำอย่างไรถึงจะได้ใจนาง
"น้องสามพวกเรากลับกันก่อนเถิดน้องหญิงคงไม่อยากคุยกับพวกเราที่มามือเปล่าหรอกนะ"องค์ชายทุกพระองค์ได้แต่ทำท่าถอนหายใจแล้วเดินคอตกกลับวังหลวงอย่างเสียดายที่พวกเขาพลาดไปแล้ว
"น้องสิบสองนี้คือยาสมานแผลพี่สาวทำขึ้นมาเองใช้ได้ผลดีมากส่วนนี้คือยาแก้พิษได้ทุกอย่างส่วนนั้นคือผลผลิตที่ได้มาจากสระน้ำทิพย์มีสรรพคุณชั้นยอดอ้อน้องสิบสี่นี้คือยารักษาอาการไอ้ของเจ้ารับรองว่าดื่มเข้าไปอาการไอ้ของเจ้าหายขาดแน่ๆส่วนนี้คือสมุนไพรบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและยาเพิ่มพลังภายใน"สุ่ยปิงมอบของมีค่ามากมายให้กับองค์ชายทั้งสองที่นางยอมรับเป็นน้องชายแล้วเรียบร้อย
"พี่หญิงแล้วลูกกลมๆสีดำนั่นคือ..."
"อ้อ! มันคือระเบิดแต่ยังไม่ได้ทดลองว่าใช้ได้มั้ยพวกเจ้าสองคนอยากลองมั้ย"
"อยากขอรับ!"
สุ่ยปิงพาน้องชายทั้งสองขึ้นไปยืนอยู่บนหน้าผ่าเขาสูงที่สุดในแคว้นจ้าวมองเห็นทิวทัศน์รอบๆในวังหลวงและสิ่งที่นางหอบขึ้นมาก็คือระเบิดที่นางหัดทำตอนมาอยู่ในโลกใหม่แห่งนี้ถามว่านางจะเอาไปทำอะไรเพื่อเกิดสงครามนั้นและคือสิ่งนางคิด เหอะๆ หากเป็นใครอื่นที่ไม่รู้จักนางก็คงว่านางเพี้ยนแง่ ๆ
"พี่หญิงขึ้นบนนี้แล้วจะทำสิ่งใดต่อหรือขอรับ"
"ก็จุดชนวนระเบิดแล้วโยนออกไปเพื่อทดลองว่ามันใช้ได้ผลมั้ยก็แค่..."สุ่ยปิงหันมาเห็นน้องชายทั้งสองพากันจุดระเบิดแล้วเรียบร้อยก็ยืนปากค้างตาโตเท่าไข่ห่าน
ฟิ้ว~
และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือองค์ชายทั้งสองโยนไปยังวังหลวงซึ่งทางที่นางจะโยนไปคือชายป่าอีกฝั่งหนึ่งต่างหาก ความซวยบังเกิด
ตู้ม~
"งานเข้า!"
"แฮะๆพี่หญิงข้าสองคนคือว่า...."จะรออยู่ทำไรล่ะวิ่งสุดชีวิตเพื่อหนีความผิดที่จะตามมา
"หนีเร็ว!"
ณ วังหลวงแคว้นจ้าว
กรี๊ด กรี๊ด~
กรี๊ด~
ความชุนละมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อมีลูกกลมสีดำลอยลงมายังตำหนักเหมันต์ของสนมกุ้ยเฟย จนเกิดระเบิดไฟไหม้ขึ้นมาโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรแต่ตำหนักเหมันต์สุดงดงามของสนมกุ้ยเฟยไหม้หมดจนไม่เหลือซาก
"เสด็จพี่ ฮือๆ ตำหนักของน้องไฟไหม้หมดแล้วเสด็จพี่ต้องตามหาตัวคนผิดมาให้ได้นะเพคะ ฮือๆ"สนมกุ้ยเฟยร้องห่มร้องไห้อย่างเสียขวัญเรียกร้องหาคนผิด
"น้องหญิงไม่เป็นไรพี่จะต้องหาคนผิดมาให้ได้"
"ฝ่าบาทพะย่ะคะ"องค์รักษ์เงาที่เขาส่งไปตามดูลูกหญิงกลับมายังวังหลวงเพื่อรายงานบ้างอย่าง
"เจ้ามีอะไร"
"ทูลฝ่าบาทไฟไหม้ครั้งนี้เป็นฝีมือขององค์หญิงสองกับองค์ชายสิบสามกับองค์ชายสิบสี่พะย่ะคะ"องครักษ์เงารีบเข้าไปกระซิบบอกฮองเต้ให้รู้กันเพียงสองคน
"อะ...อีกแล้วงั้นหรอ!"ฮองเต้ยืนนิ่งคิดไม่ตกว่านี้มันฝีมือของลูกหญิงงั้นหรอ
"จะให้กระหม่อมไป..."
"ไม่ต้อง! เจ้ารีบไปหาตัวคนผิดมาลงโทษแทนเรื่องนี้ห้ามใครรู้เป็นเด็ดขาด"เขาจะไม่ยอมเสียหน้าเป็นหนที่สองว่าตนอบรมสั่งสอนลูกไม่ดีพวกเขาถึงได้เล่นซนจนเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น
"พะย่ะคะ"
ส่วนคนก่อเรื่องทั้งสามคนก็ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวพากันมานั่งกินน้ำชาในโรงเตี๊ยมอย่างสบายใจ แม้แต่องค์รักษ์เงายังต้องยกมือให้ทั้งสามพระองค์ช่างแสดงได้สมบทบาทเหมือนกับว่าไม่ได้ทำสิ่งใดผิดหรือไปก่อวีรกรรมใดมา ส่วนคนเป็นพ่อก็ต้องคอยปวดหัวและเสียทรัพย์เพิ่มเพื่อสร้างตำหนักใหม่ช่างเป็นองค์หญิงองค์ชายที่คอยหาแต่เรื่องปวดตับปวดไตมาให้ผู้เป็นพ่อโดยแท้ๆ