บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ยอดคนเร้นกาย

สาวใช้ทั้งสามถูกเรียกตัวมายังโถงกลางเรือนหลักทันทีทันใด เบื้องหน้าของทุกคนคือเรือนร่างสง่างามของเอกบุรุษผู้มีอำนาจสูงสุด

เขานั่งบนเก้าอี้สลักลายสีทองด้วยท่าทีสุขุมนุ่มลึก แลดูสงบเยือกเย็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจอันใด

หลิวไท่หยางนั่งนิ่งเงียบงันอยู่เช่นนั้น เพียงกวาดตาคมกริบจ้องมองเนิ่นนานมิไหวติง เนตรดั่งก้นทะเลลึกยากคาดเดาห้วงความคิดอย่างแท้จริง

ส่งผลให้ทั่วห้องยามนี้อึมครึมอย่างที่สุด คล้ายมีบรรยากาศอึดอัดอย่างประหลาด กลิ่นอายอันตรายครอบงำผู้คนจนหายใจไม่ออก

เมื่อนายน้อยเอาแต่นั่งเงียบลุ่มลึก บ่าวไพร่ยิ่งตัวสั่น พากันลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

หลายคนแม้ก้มหน้าแต่ก็แอบชำเลืองมองร่างสูงที่นั่งโดดเด่นบนเก้าอี้เป็นระยะ ยิ่งมองก็ยิ่งให้รู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลแผ่กำจายออกมา

นายน้อยหลิว ท่านแผ่รังสีน่าเกรงขามไม่เกรงใจใครเกินไปแล้ว...

ราตรีมืดดำค่อยๆ คืบคลาน หลิวไท่หยางยังคงมองทุกคนอย่างเย็นชา ริมฝีปากสีแดงได้รูปคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลายิ่งน่าหลงใหลมากขึ้น

แต่ความน่าหลงใหลนี้กลับผสานความน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงได้อย่างลงตัว แลดูน่ากลัวแต่น่าค้นหาอย่างยิ่ง

สาวใช้สองคนที่ถูกซิงเยว่ตบตีพลันหน้าแดงซ่าน ด้วยความที่แอบชื่นชมรักใคร่ในตัวนายน้อยหลิวมากมาย ปรารถนาชิดใกล้ที่สุด ย่อมต้องการเป็นสาวงามตลอดเวลา ทว่ายามนี้ที่กลายสภาพจากสาวงามเป็นสภาพอเนจอนาถผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเล็บแดงเถือก พวกนางจึงรู้สึกอับอายยิ่งนัก คิดพลางตวัดสายตาแดงก่ำ มองตัวต้นเหตุแห่งเภทภัยอย่างแค้นเคืองชิงชัง

เมื่อถูกสายตาจ้องถลึงมา ซิงเยว่เพียงเลิกคิ้วมองอย่างไม่ยี่หระ แฝงความยียวนเต็มสองตา ร้ายมาร้ายกลับ!

สภาพอเนจอนาถสะบักสะบอมหมดความงามแต่ยังพร้อมแยกเขี้ยวกัดกันเหมือนหมาป่าของพวกนางทำเหิงอันต้องปาดเหงื่อ

วันนี้วันวิปลาสอันใด?

มิใช่ว่าเรื่องตบตีของบ่าวไพร่ไม่เคยเกิดขึ้น หากแต่การที่นายน้อยหลิวลงมาจัดการสะสางปัญหาเยี่ยงนี้ด้วยตนเองนั่นล่ะ ที่กำลังทำให้เหิงอันอยู่ไม่สุขเลยสักนิด

เพียงวันเดียว เขาผมหงอกเต็มศีรษะแล้ว!

บ่าวของเขาซื้อตัวอันใดเข้าเรือนมา?

ซิงเยว่ผู้นี้กินดีหมีหัวใจเสือหรือไร?

ภายใต้คำถามวกวนหลากหลายของพ่อบ้านเหิงและภาวะลนลานของเหล่าบ่าวไพร่ ไม่มีใครเลยที่ล่วงรู้ว่าหัวใจในอกแกร่งข้างซ้ายของผู้เป็นนายกำลังเต้นแรงปานใด

หลิวไท่หยางผู้นิ่งสงบมาตลอดกลับมีอาการรุ่มร้อนซุกซ่อน เขาเพิ่งได้ข่าวค่ายโจรจันทราแดงถูกคนของยุทธภพที่สมคบคิดกับราชสำนักโค่นล้มแล้วจนสิ้นซาก

ผลงานชิ้นนี้สร้างความดีความชอบใหญ่หลวงยิ่งนัก กลุ่มผู้กล้าและขุนนางภักดีเหล่านั้นได้รับคำตรัสชื่นชมจากองค์จักรพรรดิ ได้รับรางวัลกันถ้วนหน้า ร่ำรวยมั่งมีมหาศาล ผลพวงจากการแสวงหาผลงานนี้ทำให้ค่ายโจรจันทราแดง ถึงคราวย่อยยับ ทุกชีวิตแตกพ่าย ที่ตายล้วนตายไป ที่สูญหายล้วนหาไม่เจอ

หนึ่งในนั้นคือซิงเยว่...นางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

โชคดีที่คนของค่ายจันทราแดงมิเคยเปิดเผยโฉมหน้าต่อบุคคลอื่นหรือชุมชนขนาดใหญ่และต่อหน้าธารกำนัล ทำให้การตามหาคนเพื่อสังหารตัดรากถอนโคนไม่อาจกระทำได้โดยง่าย

ข่าวที่ได้รับทำหลิวไท่หยางได้ใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง

มีความเป็นไปได้สูงอย่างมากที่บางทีสตรีร้ายกาจนางนั้นอาจถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสกระทั่งความทรงจำเลือนหาย วรยุทฺธ์ล้ำเลิศที่เพียรฝึกฝนมาหลายปียังไม่อาจรักษาเอาไว้ได้

ทว่าเขากลับมิอาจปักใจเชื่อได้เต็มส่วนในทันที มีเพียงต้องสังเกตพฤติกรรมนางเงียบๆ

และนางก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง นิสัยโหดร้ายป่าเถื่อน ทำตัวเป็นอันธพาลครองเมืองเยี่ยงนั้น...

กลางห้อง จิ่นอิ่งกับจิ่นอ้านยังคงลอบถลึงตาแค้นมองซิงเยว่ ในขณะที่ซิงเยว่เพียงเลิกคิ้วมองยียวนตอบกลับอย่างไม่หยี่ระ

ซิงเยว่ไม่อาจไม่ยอมรับกับตัวเองอย่างไร้ข้อกังขาในนิสัยอันธพาลของตน แม้ความจำเสื่อมแต่นิสัยเลวร้ายเช่นนี้ คงมีมานานแล้วกระมัง

หากแต่เมื่อระลึกได้ว่ามิได้อยู่ในห้องรวมที่มีแค่จิ่นอิ่งกับจิ่นอ้าน ทั้งมีผู้คนรอบด้าน ที่สำคัญยังอยู่ต่อหน้าเจ้านาย ซิงเยว่จึงถอนสายตาตีรวนกวนโทสะกลับ ก้มหน้าเงียบงัน เผื่อโทษหนักจะได้เป็นเบา

พยัคฆ์สาวตัวหนึ่งจึงเพียรเก็บเล็บแหลมเก็บเขี้ยวคมเอาไว้อย่างมิดชิด เสแสร้งแกล้งกลัวเพื่อความอยู่รอด

แววตาลุ่มลึกของนายน้อยหลิวมองภาพนั้นนิ่งๆ ก้นบึ้งในม่านตาเปล่งประกายบางเบาไร้ใครสังเกตเห็น

หากเอ่ยถึงยอดคนเร้นกายที่ประสงค์เก็บงำตัวตน คงมิแคล้วละม้ายคล้ายสาวใช้นางน้อยผู้นี้ ผู้ถูกลบเลือนความทรงจำไปสิ้น เร้นลับทุกสิ่งยิ่งกว่าบุคคลที่จงใจซ่อนตัว

ทว่าทั้งๆ ที่เป็นเช่นนั้น หากแต่เพราะจำตัวตนมิได้ จึงไม่ใช่ซ่อนตัวหรือต้องเก็บงำอันใด ซิงเยว่จึงไม่จำเป็นต้องปกปิดนิสัยใจคอ

นางยังคงผ่าเผย เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด

ดุจวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือนั่นล่ะ!

หลิวไท่หยางยิ่งรู้ดี หากพยัคฆ์ไม่ถูกกระตุกหนวดอวดอ้างบารมีล้ำอาณาเขตส่วนตัวอย่างอุกอาจท้าทาย ไหนเลยจะทำร้ายใครก่อน

ชายหนุ่มค่อยๆ ยกมุมปากเป็นรอยยิ้มบาง รอยยิ้มนี้ยิ่งมองยิ่งลึกลับ ยากคาดเดา มีเพียงเขาเข้าใจอยู่คนเดียว

ขอแค่ทดสอบบางสิ่งอีกประการ คำตอบย่อมชัดเจน

จังหวะนั้นจิ่นอิ่งรีบเอ่ยเสียงสั่นเครือเจือสะอื้นไห้ “นายน้อย บ่าวสองคนอยู่ดีๆ ซิงเยว่ก็เข้ามาทำร้ายเจ้าค่ะ”

จิ่นอ้านจึงฟ้องร้องเสริมสหายเพื่อขอความเป็นธรรม

“ใช่เจ้าค่ะ พวกบ่าวแค่ถามซิงเยว่ดีๆ ว่ามีเรื่องอะไรกับม่านเหนียง ถามว่าปัญหาคืออันใดเท่านั้น ซิงเยว่ก็โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทำร้ายตบตีพวกบ่าวเจ้าค่ะ”

สีหน้าของนางทั้งสองแลดูงดงามเย้ายวนชวนสงสาร ท่าทางอ้อนแอ้นอ่อนแอบอบบางชวนถนอมอย่างที่สุด

ไม่ว่าบุรุษคนใดได้ยลเป็นต้องเห็นใจทั้งนั้น!

“นายน้อย ซิงเยว่ผู้นี้ร้ายกาจยิ่งนัก” จิ่นอ้านร่ำไห้น้ำตาดุจไข่มุกร่วงหล่น

จิ่นอิ่งซับน้ำตาส่งเสียงอ้อน “นางช่างไร้มโนธรรม จิตใจดำมืดยิ่งนักเจ้าค่ะ นายน้อยได้โปรดจัดการลงทัณฑ์ คืนความเป็นธรรมด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

อย่างไรเสียพวกนางก็ได้รับสิทธิ์ติดตามปรนนิบัตินายน้อยทุกคราที่เขามาเยือนคฤหาสน์ฤดูร้อนหลิวซิงแห่งนี้ ต่อให้แค่ชงชาโบกพัดยังไม่ถึงขั้นปีนเตียงนอนครางใต้ร่างเพื่อปรนนิบัติอย่างร้อนแรงถึงอกถึงใจ แต่ทว่าน้ำหนักในใจของเขาที่มีต่อสาวใช้ขั้นหนึ่งเช่นนางย่อมไม่อาจดูเบาได้แน่

อย่างน้อยความใส่ใจย่อมมีมากกว่า หากเทียบกับบ่าวไพร่คนอื่นๆ

โดยเฉพาะทาสชั้นต่ำที่เพิ่งซื้อตัวมา!

จิ่นอิ่งกับจิ่นอ้านผลัดกันฟ้องร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเทาแฝงความออดอ้อนน่าสงสารจับใจ ทว่าหลิวไท่หยางยังคงมองสาวใช้คนงามทั้งสองอย่างเฉยชา ดวงตาคู่คมสงบนิ่ง มีเพียงบางคนที่ส่งผลต่อเนตรเรียวเข้มดำดุจน้ำหมึกของเขา

คนผู้นั้นกำลังแสร้งยอมจำนนสงบปากสงบคำ ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตนได้อย่างน่าขัน

หลิวไท่หยางปล่อยสาวใช้สองคนโอดครวญต่อไป เขาเพียงปรายตามองซิงเยว่เงียบๆ เห็นนางก้มหน้าหลุบตา ทว่ากลับไร้ระลอกคลื่นสั่นไหวหรือเผยความขลาดเขลาออกมา แม้ยามนี้จะมีฐานะต่ำตมกลายเป็นเพียงทาสต่ำต้อย อีกทั้งความจำยังเลือนหาย ทว่าตัวตนที่แท้จริงกลับมิอาจบิดเบือนเป็นอื่นได้

ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาวะใด บุคลิกบางอย่างของนางยังคงเป็นเอกลักษณ์เด่นชัดเฉกเช่นอดีต

หลิวไท่หยางค่อยๆ หลับตาลงอย่างเชื่องช้า

ยิ่งเขาครุ่นคิดเท่าใดภาพอันงดงามของซิงเยว่ในอดีตก็ยิ่งทับซ้อนกับซิงเยว่ในยามนี้

“นายน้อย...ได้โปรดเจ้าค่ะ”

จิ่นอิ่งกับจิ่นอ้านยังคงคร่ำครวญชวนเวทนาผสานเสน่หาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง เสียงนั้นสั่นเครือเจือสะอื้นชวนหวั่นไหวกวนคลื่นอารมณ์อย่างยิ่ง

“โปรดคืนความเป็นธรรมให้บ่าวทั้งสองด้วยเจ้าค่ะ”

ทว่ากลับเป็นการก่อกวนความคิดคนอย่างที่สุด

ชายหนุ่มจึงหลุดจากภวังค์วสันต์ของตน ลืมตามองสาวงามอย่างเฉยชา เขาโบกมือคล้ายรำคาญ สั่งว่า

“พาสาวใช้สองนางนี้ออกไปเสียที ย้ายพวกนางไปประจำเรือนเพาะชำ ไม่ต้องรับใช้ข้าแล้ว”

“หา! นายน้อย”

หน้าที่ในเรือนเพาะชำคือเฝ้าแปลงผักคอยรดน้ำพรวนดิน ตากแดดตากลมจนผิวพรรณแห้งกร้าน

“นายน้อย...ไม่นะ! นายน้อย...”

เส้นเสียงหวานเผยความหวาดหวั่นลนลานปานนั้นมิได้ส่งผลอันใดต่อหลิวไท่หยาง เขาสนใจเพียงนาง...

“ออกไปให้หมด”

หลิวไท่หยางไล่ทุกคนไปจากห้องโถงอย่างเบื่อหน่ายก่อนหันมองซิงเยว่ “เจ้า...ตามข้ามา”

หญิงสาวผงกศีรษะพยักหน้าเงียบๆ โดยมิได้เปล่งเสียงใด เพียงลุกขึ้นแล้วเดินตามเจ้านายอย่างสงบเสงี่ยม

เขาเลี้ยวทางใด นางก็เลี้ยวทางนั้น เขาเข้าห้องใด นางก็เข้าห้องนั้น

โดยไม่ทันระวังตัว เพียงพริบตาเสี้ยวลมหายใจร่างบอบบางของซิงเยว่พลันถูกจับอุ้มไปโยนลงบนเตียง

“อ๊ะ!” หญิงสาวตกใจนัก “นายน้อย ท่าน!”

ยามนี้นายน้อยหลิวผู้สุขุมเงียบขรึมสง่างามไหนเลยยังมีอยู่จริง บัดนี้มีเพียงไท่หยาง บุรุษหนุ่มผู้คลุ้มคลั่งในรัก

เขาจับสาบเสื้อของซิงเยว่ฉีกกระชากขาดดังแคว่ก และแล้วความจริงพลันปรากฏ บนทรวงอกงดงามของนาง มีปานแดงจันทร์เสี้ยวอยู่จริงๆ

เขาเคยเห็นเพราะถูกนางยั่วยวนจนมัวเมาในรสรัก

ใช่! เขากับนางเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน

ทว่าครั้งนั้นเขาหยุดกลางคันเพราะคิดว่าควรแต่งงานกันอย่างถูกต้องก่อนจึงถูกนางตบจนพลัดตกเหวที่เบื้องล่างเป็นม่านน้ำตก กว่าจะปีนขึ้นมาไม่ง่ายเลย

“เจ้า...”

กำลังจะเอ่ยทักอย่างตื่นเต้นกลับถูกแจกันที่หัวเตียงฟาดจนสลบเหมือด

เป็นเจ้า...โม่ซิงเยว่

ไม่ผิดแน่...

ประโยคหนึ่งเลือนหายพร้อมสติบุรุษที่หลุดลอย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel