ตอนที่ 3
ดามพ์เลี้ยงดูสิงห์อย่างผู้ชายดูแลผู้ชาย สิงห์จึงไม่ได้รับการกล่อมเกลานิสัยจากมารดาที่มีด้านอ่อนโยนนุ่มนวลต่างจากบิดา
ดามพ์รักและตามใจลูกชายคนนี้ราวกับไข่ในหิน ในโลกนี้นอกจากเดือนกับดาว ก็ไม่มีอะไรที่สิงห์เอ่ยปากแล้วจะไม่ได้ เขาเลี้ยงดูลูกชายอย่างตามใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะดามพ์ตระหนักดีว่าสิงห์เป็นเด็กขาดแม่
นอกจากความรักแล้วสิ่งเดียวที่พ่อเลี้ยงดามพ์พอจะชดเชยให้ลูกได้ ก็คือทรัพย์สินเงินทองที่สั่งสมมาทั้งชีวิตจนร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีอยู่ทุกวันนี้
พ่อเลี้ยงดามพ์คว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในระยะเอื้อมคว้าขึ้นมาโทรหาเดือนฉาย ผู้หญิงที่เขากำลังคิดถึง
“เดือน... ”
เสียงทุ้มแต่มีกังวานหวาน กรอกไปสู่แม่มายผู้อยู่ปลายสาย
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง”
เสียงหวานของเดือนฉาย ตอบกลับมาหาหนุ่มใหญ่เจ้าของฟาร์มที่อยู่ต้นสาย
ตอนนี้หล่อนกับมะนาวผู้เป็นลูกสาวกำลังอาศัยอยู่ในบ้านไม้หลังเก่า ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนลิ้นจี่ เป็นบ้านที่เสี่ยกำพลนายจ้างเก่าของสามี เมตตาให้เข้ามาพักอาศัยชั่วคราว
เพราะว่าภายหลังจากวิชิตสามีของเดือนฉายเสียชีวิต สองแม่ลูกก็ไร้ที่ซุกหัวนอน ห้องแถวที่ติดจำนองเอาไว้กับธนาคารก็มีอันต้องมาโดนยึด เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอกับลูกสาวมาอยู่ที่บ้านของฉัน”
พ่อเลี้ยงดามพ์บอกข่าวดีกับเดือนฉาย
“ขอบคุณค่ะท่าน... ขอบคุณเหลือเกิน บุญคุณครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก... ดิฉันกับลูกสาวจะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิต”
เดือนฉายน้ำตาคลอเบ้า ตอบผู้มีพระคุณทั้งเสียงสะอื้น หลังจากแอบกังวลใจมาตลอด กลัวว่าสักวันจะไม่มีปัญญาส่งลูกสาวเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
แต่ที่ผ่านๆ มาเดือนฉายก็เป็นผู้หญิงเข้มแข็งและสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ทุกๆ วันเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา หล่อนจะพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอ ว่าให้กัดฟันทนอีกนิด... เพื่อลูก
แม้ทุกวันนี้จะมีรายได้เพียงน้อยนิดจากการทำขนมขาย และรับจ้างทำงานบ้าน แต่หล่อนก็พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ลูกสาวได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ตั้งใจว่าจะส่งมะนาวจนเรียนจบปริญญาตรี
เดือนฉายทุ่มเทให้กับลูกสาว ด้วยรู้ว่ามะนาวคือ ‘ความหวัง’ เพราะถ้าวันใดที่มะนาวเรียนจบแล้วมีงานทำ ตอนนั้นก็คงจะมีเงินเดือนจากการทำงาน พอได้ประทังชีวิตกันต่อไป
แต่วันนี้เดือนฉายรู้ว่าหล่อนกับลูกสาวช่างโชคดีที่พ่อเลี้ยงดามพ์ อดีตเพื่อนเก่าของสามี อาสายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อุปการะหล่อนกับลูกสาวที่กำลังตกที่นั่งลำบาก
“ขอบคุณค่ะท่าน ถ้าตอนนี้ดิฉันอยู่ตรงนั้นใกล้ๆ ท่าน ดิฉันจะก้มกราบท่าน ขอบคุณเหลือเกิน ขอบคุณที่เมตตาช่วยเหลือเราสองแม่ลูก”
เดือนฉายพูดพลางร้องไห้สะอื้น
“โถ... แม่คุณ ไม่ต้องร้องไห้นะ... พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอกับลูกมาอยู่ด้วยกันที่ฟาร์ม ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอกับลูกสาวเป็นอย่างดี”
“ขอบคุณเหลือเกินค่ะท่าน... ชีวิตที่เหลือจากนี้ ดิฉันสัญญาว่าจะมอบให้ท่าน จะขอฝากตัวเป็นทาสรับใช้ เพื่อตอบแทนในความกรุณาปราณีไปจนชีวาวาย”
เดือนฉายรู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ถูก เสียงของหล่อนสั่นเครือ หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงอาบนวลแก้ม บางส่วนเอ่อคลออยู่รอบดวงตาคมประกาย
“พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะจ๊ะ... ”
คุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ พ่อเลี้ยงดามพ์ก็กดวางสาย เดือนฉายดีใจ รีบเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็นลงกระเป๋า พรุ่งนี้เช้าหล่อนกับลูกสาวจะไปมีชีวิตใหม่ที่ฟาร์มของพ่อเลี้ยงดามพ์ในจังหวัดเชียงราย
ตอนใกล้ค่ำ
ทันทีที่มะนาวนั่งรถมอเตอร์ไซค์จากหน้าปากซอยเข้ามาถึงบ้าน เดือนฉายก็บอกข่าวดีกับลูกสาว
“มะนาวจ๊ะ พรุ่งนี้พ่อเลี้ยงดามพ์จะมารับเราสองคนไปอยู่ที่ฟาร์มของเขา”
“จริงหรือคะคุณแม่”
มะนาวดีใจ เมื่อสองวันก่อนผู้เป็นมารดาเคยเอ่ยถึง เรื่องนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
“คืนนี้หนูเก็บเสื้อผ้าได้เลยนะจ๊ะ”
“จ้ะแม่... แต่คืนนี้หนูต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนนะคะ”
“ไม่เป็นไร... กลับมาค่อยเก็บก็ได้ อันที่จริงข้าวของเราก็ไม่เยอะ แล้วนี่กินข้าวมาหรือยังจ๊ะลูก”
เดือนฉายถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง