บทย่อ
"สำหรับฉันเธอมันเป็นผู้หญิงที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตปลายตะวัน เมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิตของฉันสักทีว่ะ!"
บทนำ
บทนำ
‘ฉันชื่อปลายตะวัน ตั้งแต่เล็กจนโตฉันมักจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่เอาฉันมาทิ้งหน้าประตูรั้วบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ฉันยังแบเบาะ ชีวิตของฉันมันช่างขมขืนเกินกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการไว้เสียอีก ถึงแม้ในตอนนี้ฉันจะถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวมีฐานะแต่ทว่าชีวิตก็ไม่ต่างจากดวงตะวันที่ไร้แสงสว่าง เพราะคำว่าบุญคุณชีวิตฉันถึงเป็นอย่างนี้ ในบางครั้งฉันก็สงสัยทำไมฉันไม่ตายๆ ไปซะทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้ บางทีฉันก็คงไม่เจ็บปวดเหมือนอย่างที่เป็นอยู่’
ร่างบางอรชรของหญิงสาวเจ้าของใบหน้าซีดเซียวเดินย่ำเท้าอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอยกแขนขึ้นมากอดร่างของตัวเองเอาไว้ในเส้นทางที่มืดมิดแห่งนี้ เธออยากจะร้องไห้แต่ทว่าน้ำตาของเธอก็ไม่มีให้ไหลออกมาเสียแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเธอร้องไห้ไปกี่ครั้งกัน เธออยากจบทุกอย่างไม่อยากอยู่กับผู้ชายใจร้ายอย่างเขา แต่ถ้าเธอหนีไปพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไม่ปล่อยเธอเอาไว้ แต่ทว่าไปอยู่กับเขา ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีตามกฎหมายเขาก็ไล่หนีไม่ต่างจากสิ่งน่ารังเกียจที่เขาไม่อยากเข้าใกล้
แววตาเศร้ามองไปรอบๆ สถานที่แห่งนี้ด้วยความกลัวสุดหัวใจ ธานินทร์ แสนวิสุทธิ์ หรือธิน ผู้ชายที่ใจร้ายกับเธอที่สุดในชีวิต เธอรู้ว่าสิ่งที่เคยทำมันร้ายแรงมากขนาดไหนสำหรับเขา เธอพยายามไถ่โทษ พยายามทำตัวดีต่อเขายอมแม้กระทั่งเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาแต่ทว่าก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ชายหนุ่มจะเมตตาเธอเลยสักนิด รวมถึงวันนี้วันที่เขาปล่อยเธออยู่ข้างถนนคนเดียวตามลำพังไม่สนใจเธอเลยว่าเธอจะกลับบ้านยังไง กระเป๋าสตางค์โทรศัพท์เขาก็ยึดไปหมด เธอไม่มีแม้แต่ที่พึ่งใดๆ ไม่มีแม้แต่หนทางใดๆ ที่จะหลุดพ้นจากเขา คิดถึงตรงนี้ปลายตะวันก็ยิ้มเยาะให้กับชีวิตของตัวเอง ในหัวของเธอมันมีแต่คำถามมากมายเข้ามาในสมอง หรือว่าจะมีทางเดียวที่เธอจะจบเรื่องราวทุกอย่างนี้ไปซะ
สิ้นความคิดหญิงสาวก็เม้มริมปากเข้าหากันแน่น เธอรู้สึกเจ็บปวดทรมานจนแทบไม่อยากหายใจอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ปลายตะวันจ้องมองถนนในยามวิกาลที่เส้นทางนี้เปลี่ยวพอสมควร นานๆ ทีถึงจะมีรถแล่นผ่านมาสภาพเธอในตอนนี้มันช่างน่าสมเพชเสียจริง แต่ถึงจะคิดสมเพชชีวิตมากแค่ไหนอยากตายมากแค่ไหน แต่ทว่าในตอนนี้เธอก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้ เพราะเธอไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ใช่เธอกำลังท้อง ท้องกับผู้ชายที่ไม่เคยรักเธอเลยสักวินาทีเดียว เรื่องนี้นอกจากเธอก็ไม่มีใครรู้เรื่องอีก เพราะเธอรู้ดีว่าคนอย่างธานินทร์ไม่ต้องการที่จะมีลูกกับเธอ ถ้าหากเขารู้เขาก็คงให้เธอทำลายลูกน้อยเป็นแน่ เพราะเหตุนี้เธอถึงไม่ได้บอกเขา
“ฮึก อดทนอีกนิดนะคะคนเก่ง สักวันเราจะได้ไปจากที่นี่ เราจะได้มีความสุขกันสักที”เธอร้องบอกลูกน้อยในท้องออกมา ก่อนจะพยายามสู้อีกครั้งถึงแม้จะเหนื่อยล้ามากแค่ไหนแต่เธอก็จะไม่ยอมแพ้ ชีวิตเธอผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้จะยอมแพ้ง่ายๆ งั้นเหรอ ขออีกสักครั้งที่เธอจะพยายามฝ่าฝันอุปสรรคเหล่านี้ไป ขอเพียงแค่อีกสักครั้งเท่านั้น
แสงสว่างของรถทำให้ปลายตะวันรู้สึกมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้จะกลัวเจอคนไม่ดีแต่ทว่าเธอก็เชื่อว่าบางทีมันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นเสมอไป ต่อจะมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เธอก็คิดว่ายังมีหวังอยู่
“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ?”และดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ได้ใจร้ายกับเธอเสมอไป เมื่อรถคันที่แล่นมาจอดให้กับเธอแถมคนขับเป็นผู้หญิงด้วยทำให้หญิงสาวรู้สึกมีหวังขึ้นมา
“ฮึก ช่วยให้ฉันติดรถหน่อยได้ไหมคะ”เธอพยายามเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่ร้องไห้ออกมา พอหญิงสาวคนดังกล่าวเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้ารีบตอบตกลงช่วยเหลือเธอทันที เพราะจากที่เห็นผู้หญิงคนนี้คงเจอเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันคงไม่ใจดำขนาดไม่สนใจใยดีอะไรเลยก็ทำไม่ได้
“ขึ้นรถมาได้เลยค่ะ คุณจะให้ฉันไปส่งที่ไหนคะ?”ผู้หญิงแปลกหน้าเอ่ยถามออกมา ทำให้ปลายตะวันบอกสถานที่ที่เธอจะไปทันที
เพียงไม่นานผู้หญิงแปลกหน้าก็มาส่งเธอที่บ้าน ชุติมา นึกแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ก็เจอผู้หญิงคนนี้เดินอยู่ข้างถนน จากการแต่งตัวบุคลิกภายนอกมันทำให้เธอเชื่อในสัญชาตญาณว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอะไร เธอจึงช่วยเหลือเธออย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ
“ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยดิฉัน”ปลายตะวันเอ่ยขอบคุณหญิงสาวแปลกหน้าออกไปทันที ถ้าหากไม่ได้เธอคนนี้ป่านนี้หญิงสาวก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงกว่าจะเดินมาถึงที่บ้านหลังนี้ก็ไกลหลายกิโล
“ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณเจอเรื่องอะไรอยู่ แต่ฉันขอให้คุณผ่านมันไปให้ได้นะคะ”ชุติมาเอ่ยออกไปอย่างอดไม่ได้ เธอเห็นแววตาเศร้าที่เผยออกมาให้เห็นจากหญิงสาวตรงหน้าก็พอเดาได้ว่าในตอนนี้เธอกำลังพบเจอปัญหาในชีวิตอยู่ นอกจากกำลังใจเธอก็ไม่รู้จะช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้ยังไง
“ขอบคุณค่ะ ฉันก็หวังว่าชีวิตฉันจะมีวันนั้นเหมือนกัน”หญิงสาวระบายยิ้มออกมาให้กับผู้หญิงแปลกหน้าที่ช่วยเหลือเธอ ก่อนที่ร่างบางอรชรของเธอจะลงจากรถไป
“ทำไมรู้สึกน่าสงสารจังนะ”ชุติมาพึมพำออกมาก่อนจะขับรถออกไปทันที
ร่างสูงโปร่งของธานินทร์ยืนมองหญิงสาวที่เขาปล่อยทิ้งข้างถนนด้วยแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ทันทีที่เธอเปิดประตูเข้ามาในบ้านร่างเล็กก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนจ้องมองอยู่ เธอเหนื่อยจนไม่อยากทะเลาะกับเขาอีกแล้ว แต่ทว่าว่าเขาคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ ยังคงชอบพูดจาหาเรื่องเธออยู่เสมอ
“นึกว่าจะตายไปซะแล้ว ยังมีหน้ากลับมาอีก!”คำพูดแสนดุดันของอีกฝ่ายมันไม่ต่างอะไรจากมีดคมๆ ที่กรีดลึกลงมาในหัวใจของเธอไม่มีผิด
“คุณคงอยากให้มันเป็นแบบนั้นมากสินะคะ”
“ไม่น่าถามนะ ฉันเกลียดเธอแค่ไหนเธอควรจะรู้ตัวเองอยู่แล้ว แต่ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงอย่างเธอถึงหน้าด้านหน้าทนมากขนาดนี้ ฉันไล่ก็แล้วอะไรก็แล้วก็ยังหน้าด้านที่จะอยู่ที่นี่อีก อ๋อลืมไป พวกเธอมันก็หน้าด้านกันอยู่แล้วนี่เนอะ จับผู้ชายเพื่อต้องการผลประโยชน์จนไม่นึกถึงความผิดชอบชั่วดีอะไรเลย!”ถึงแม้จะได้ยินคำพูดเหล่านี้มามากจนนับไม่ถ้วน แต่ทว่ามันก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ปลายตะวันจะไม่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้านี้
ใช่ เขาพูดถูกทุกอย่างแต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นก็เท่านั้น