ตอนที่ 4.2
เขาเงียบฟังเหตุผลของอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้า ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาประหลาดใจหลายครั้งแล้ว เป็นคนมีเหตุผลมากกว่าที่ดูจากภายนอกมากทีเดียว
“ส่งแค่นี้ก็ได้ค่ะ พี่รีบกลับเถอะมันดึกแล้ว เดี๋ยวป๊อปเอาไปจอดเอง”
เธอบอกตอนที่รถเคลื่อนมาถึงหน้าคอนโดมิเนียม แต่เขายังคงขับไปด้านในเพื่อที่จะไปจอดในที่ของมัน ก่อนจะเดินไปส่งเธอถึงห้อง
เอาเข้าจริงตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงรอแล้ว หรือว่าสองแสนมันจะได้มากกว่าที่คิด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองดูสักครั้ง
บ้าน่า เขาจะลดแลกแจกแถมกันขนาดนั้นเลยเหรอ คุ้มไปหรือเปล่า
“หรือพี่จะนอนนี่ก็ได้นะ มันดึกแล้วด้วย” อ่อยแล้วนะ ถ้าไม่รังเกียจก็ตามมา
เธอเปิดประตูเข้าไปเขาก็เดินตาม พูดสักคำก็ไม่ ป๊อปก็เดาไม่ออกว่าคีตะกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเธอจะเป็นคนเปิดประเด็นก่อน
“ก็ดี” เขาตอบเสียงราบเรียบ
ก็เขาเป็นผู้ชาย ถ้าผู้หญิงยอมให้นอนก็นอน เวลานี้เขาปล่อยวางกับทุกเรื่องแล้ว กับใครบางคนก็ทำใจได้มาสักพักแล้ว ไม่เห็นต้องคิดมากกับเรื่องนี้
“แล้วงานที่รับนี่ปกติเขามีขึ้นเตียงด้วยไหม”
เธอก็ไม่รู้ว่ามันทำได้ไหม โฮสต์ที่ทำงานนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีกฎนั่นนี่ เรื่องนี้เธอก็ไม่รู้อะไรมากแค่ได้ยินมาบ้างเท่านั้น
“ถ้าเธอต้องการก็ได้”
เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาพูดอะไรอย่างนี้ด้วย ตรงเกินจนเขาไปไม่ถูก แล้วไม่ได้รับงานที่ว่าด้วยสิ ถ้าอยากทำก็ได้เสมอ ไอ้เรามันก็ผู้ชาย
“คิดเพิ่มหรือเปล่า”
“ไม่ มันก็สนุกด้วยกันทั้งคู่”
คำตอบของเขาทำเอาเธอร้อนวาบที่แก้มทั้งสองข้าง ว่าเธอตรงแล้ว เขาตรงกว่าอีก
“แล้วถ้าแบบ ทำไม่เป็น ไม่เคยทำ สอนด้วยได้ไหม”
เขาอยากจะบ้า ก็ป๊อปดันถามเรื่องนี้กับคนหน้ามึนอย่างเขา สีหน้าตอนนี้มันเป็นอย่างไรกูไม่กล้าส่องกระจกดูเลย ผู้หญิงอะไรอยากรู้อยากเห็นไปหมด แถมยังพูดตรงจนเขาเสียอาการ
เขาไม่เคยมีแฟนแบบจริงจังก็จริง แต่เรื่องแบบนี้ผู้ชายมันก็ต้องเคยมีกันทั้งนั้น แต่เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนชวนขึ้นเตียงแล้วถามแบบเธอ
“ก็ลองดู”
“แค่ถามเฉย ๆ วันหลังเผื่อว่าอยากใช้บริการ” เธอหัวเราะชอบใจ
เขารู้ว่าเธอเมา แต่เขาที่ไม่ได้เมาด้วย มันก็หน้าชาไปเหมือนกันนะ มาชวนให้อยากแล้วจากไปแบบนี้มันไม่เอาเปรียบกันหน่อยหรือ
วันนี้เลยก็ได้ เขาไม่ติด
“หรือว่า” อยู่ ๆ คนที่กำลังหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินไปจนถึงประตูห้องน้ำก็หันมายิ้ม ทำเอาคนที่นั่งมองอยู่ปลายเตียงนิ่งค้างมองเธอ
“วันนี้พี่พร้อมไหม พกถุงหรือเปล่า”
“ไปซื้อได้”
หัวใจดวงเท่ากำปั้นของเธอเต้นระส่ำ ไอ้คนที่ใครบอกว่าเจ้าชายน้ำแข็งคนนั้นมันไม่มีจริง เขาไม่ปฏิเสธเธอ สายตาตอนนี้ก็โคตรจะสื่อความหมายที่ชวนให้เธอวูบวาบไปทั้งตัว แสดงความต้องการออกมาทางสายตาจนเธอรู้สึกได้
ขาเธออ่อนแรงจนเกือบจะทรุดตอนที่เขามองสบตากันมาอย่างนี้
“งั้นป๊อปอาบน้ำรอนะ”
พอปิดประตูห้องน้ำเสร็จเธอก็ต้องก้มหน้ากรีดร้องกับฝ่ามือของตัวเอง กระทืบเท้าตึงตังอยู่ในห้องน้ำอย่างกับคนบ้า ใครจะไปคิดว่าเธอจะกล้าขนาดนี้ ก็เขามันน่ากอด กลิ่นตัวหอม ๆ ตัวท็อปของวิศวกรรมศาสตร์แบบนั้น เธอก็เพิ่งจะรู้สึกว่าเขามันโคตรมีเสน่ห์ ใครจะอดใจไหว
อีกอย่างนี่มันก็แค่เรื่องงาน ไม่เห็นต้องคิดมากเลย เดี๋ยวนี้ใครเขาก็มีกันทั้งนั้น ผู้หญิงหลายคนก็สนองความสุขของตัวเองด้วยวิธีนี้กัน ก็ถ้าผู้ชายดี ๆ ที่จะคบเป็นแฟนมันหายาก หนุ่มโฮสต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
แต่บอกตามตรงเธอตื่นเต้นจนจะเป็นลมอยู่แล้ว ภาวนาให้เป็นลมไปตอนนี้เลยได้ก็ดี
ป๊อปใช้เวลาอาบน้ำยี่สิบกว่านาที ก็คิดได้ว่าตัวเองต้องไปทั้งอย่างนี้ มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันไว้ ทั้งที่ก็มีผู้ชายอยู่ข้างนอก
แล้วจะกลัวไปทำไม อย่างไรก็ต้องได้เห็น
สูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดแล้วจึงเปิดประตู ก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ ดวงตากลมโตก็สอดส่องหาคีตะที่คิดว่าคงจะกลับมาแล้ว พอเห็นว่าเขานั่งเล่นมือถืออยู่บนเก้าอี้สีขาวของเธอแล้วหันมามองพอดี ป๊อปก็ทำตัวไม่ถูก
“มีเสื้อผ้าที่ฉันใส่ได้บ้างไหม”
เธอรู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้ ป๊อปพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าของพี่ชายตัวเองที่เคยเอามาทิ้งไว้ในห้อง เดินเอามันกลับมาให้เขา
“ของพี่ปืน พี่ชายป๊อป น่าจะใส่ได้ อันนี้ผ้าเช็ดตัวยังไม่เคยใช้ค่ะ”
คีตะรับมันไว้ก่อนจะเดินผ่านตัวเธอไป ทำเป็นไม่สนใจว่าตอนนี้เจ้าของห้องอยู่ในสภาพไหน
ทั้งที่จริงแล้วเขาสนใจ แต่เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ ซึ่งเขาก็ดูออกว่าเธอกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่
ป๊อปเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนสายเดี่ยว ซึ่งมันก็มีอยู่แบบเดียวต่างกันแค่สี เมื่อจัดการตัวเองเสร็จแล้วอีกฝ่ายก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี เธอเพิ่งเห็นว่าเขาเอาเสื้อผ้าที่เธอให้วางทิ้งไว้ปลายเตียง
แล้วตอนนี้เขาออกมาทั้งที่ใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไม่ต่างจากเธอ
แต่มันต่างก็ตรงที่ เขาเปลือยท่อนบนจนเห็นสัดส่วนที่เป็นลอนคลื่นของกล้ามเนื้อชัดเจน สมกับที่เป็นนักกีฬา เลื่อนสายตาลงไปอีกก็เห็นไรขนอ่อน ๆ แค่เห็นเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนลามกได้ขนาดนี้
“ไวจัง”
เพราะไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหน และคำไหนที่ควรพูดออกไป ทั้งที่มันก็เป็นห้องตัวเองแท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับคิดไม่ออกว่าควรทำอะไรต่อ แล้วประโยคที่พูดไปมันคงฟังดูตลกสิ้นดี
“มันดึกแล้ว กลัวเธอง่วง” คีตะตอบแล้วหอบเสื้อผ้าของตัวเองไปทางด้านหลังห้อง เขาลังเลอยู่ว่าจะเอามันไว้ตรงไหนเสียงใสก็พูดแทรกขึ้นมา
“ใส่ในตะกร้ากับป๊อปก็ได้ พรุ่งนี้มีคนเอาไปซักค่ะ”
เขาทำอย่างที่เธอบอกก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ปลายเตียงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา แต่แล้วเขาก็โยนมันไปทางโต๊ะด้านหลัง ทั้งที่เธอคิดว่าเขาจะใส่มัน
แปลว่าเขาจะทำเลย !?
“ถ้ามันดึกมากแล้ว วันหลังก็ได้นะ”
“เธอง่วง ?” เขาเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“คือ ก็ไม่ขนาดนั้น หมายถึงว่าถ้าพี่ง่วงเอาไว้วันหลัง”
เขาไม่พูดอะไรแต่ขยับตัวเข้ามาใกล้เธอ ก่อนจะตวัดแขนโอบรอบเอวแล้วยกขึ้นจนตัวลอย วางแหมะลงกลางเตียง
ป๊อปอุทานออกมาด้วยความตกใจ หัวใจที่มันเต้นแรงอยู่แล้วตอนนี้แทบจะระเบิด ก็ไม่คิดว่าเขาจะอยากทำงานขนาดนี้หรือกลัวว่าเธอจะขอยกเลิกกัน คิดมากน่า เธอไม่ปล่อยเขาไปให้แม่ยกคนไหนหรอก
กับคนนี้เธอพร้อมทุ่มสุดตัว
“ฉันไม่ง่วง”
เขาพูดเสียงเบาและแหบพร่า ทำเอาคนร่างบางชาวาบไปทั้งหน้า ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นก็จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่อยู่แล้ว หรือเธอจะใจดีรั้งมันขึ้นสักหน่อยก่อนที่ตัวเองจะอกแตกตาย อย่างน้อยก็ช่วยชีวิตตัวเองไว้
ฝ่ามือเล็กยกขึ้นทาบบนแผงอกแน่นตึงของเขา เธอสบสายตากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแล้วเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างนึกประหม่า ไอ้ความใจกล้าที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ไม่รู้หายหัวไปไหนหมด
ช่วยกลับมาเถิด มาสนุกกัน
ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาอย่างอ่อนโยน เล่นเอาใจคนรับสั่นสะท้าน ไม่ใช่ไม่เคยจูบ แต่ครั้งนี้ป๊อปรู้สึกตื่นเต้นกว่าที่เคยเป็น ยิ่งตอนที่เขาสอดลิ้นร้อนระอุแทรกเข้ามาดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากเธอ ยิ่งรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ออก
ก็กลั้นหายใจจนจะตายแล้ว พ่อคนดีจะรู้ไหม
“อื้อ”