ตอน 2
“เอ ขอดูหน่อยสิว่ายังมีอะไรที่พอใช้ได้” ดร.น้ำเหนือมอบสิ่งประดิษฐ์ให้กับเธอหลายชิ้นในการบุกไปหาข้อมูลแก๊งค้าอาวุธข้ามชาติที่จีนแผ่นดินใหญ่ ของทุกอย่างชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองรวมกันบนที่นอน
ขวดยาเล็กๆ ภายในบรรจุยาพิษร้ายแรง สามารถทำให้คนลืมความทรงจำชั่วขณะ ราวๆ ห้าชั่วโมง จดจำได้แค่ความทรงจำในอดีตและปัจจุบันเท่านั้น หากแต่สิ่งร้ายแรงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นห้าชั่วโมงจะหายไป “อันนี้ยังไม่ได้ใช้ เข็มยังอยู่ในซอง” หญิงสาวทิ้งลงที่เดิม กวาดดูของชิ้นใหม่ต่อไป
แหวนเลเซอร์ สามารถตัดวัสดุได้ทุกชนิดแม้แต่เหล็กแข็ง ใช้มาสองครั้งแล้ว ศาสตราจารย์บอกว่าใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง โดยมีตัวเลขระบุจำนวนครั้งที่ใช้ปรากฏตรงช่องเล็กๆ คล้ายช่องบอกวันที่ในนาฬิกาแบบเข็ม วิเศษมาก อุปกรณ์การดักฟังขนาดจิ๋วเท่าเม็ดมะยมอีกหลายสิบชิ้นในกล่องพลาสติก มีที่เก็บล็อกอย่างดีกันเสียหาย ถูกปลดไปใช้จากล็อกแล้วสามชิ้น ขวดน้ำยาเท่าขนาดขวดโคโลญขวดนี้คือ สเปรย์ละลายภาพ
อันนี้เพิ่งมีโอกาสใช้ครั้งเดียว ตอนที่วิ่งหนีไอ้บอดี้การ์ดหน้าโหดที่เมืองจีน สายธารฉีดเข้าหน้ามัน หลังจากนั้นมันก็มองอะไรไม่เห็นร่วมสิบชั่วโมง หญิงสาวลอยนวลหนีไปไม่เห็นฝุ่น พร้อมรายละเอียดที่นำมาฝากพันตำรวจเอกอเนก เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ถ้าไม่มีอุปกรณ์พวกนี้ลำพังชั้นเชิงการต่อสู้ของเธอคงช่วยชีวิตเธอไม่ได้มาก
พอสำรวจสิ่งของมากมายชิ้นเล็กชิ้นน้อยในกระเป๋าสะพายใบใหญ่แล้ว สายธารหันมาสนใจกับหน้าจอที่ยังเปิดข้อมูลทิ้งไว้ คืนนี้เธอคงไม่ได้นอนเพราะต้องวางแผนและศึกษาข้อมูลทั้งหมดให้จำขึ้นใจก่อนลงมือปฏิบัติงานจริง จวบจนรุ่งสางสายธารถึงได้ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าราวกับว่าฟิลด์ในร่างกายได้ขาดสะบั้นลงไม่ต่างอะไรกับการตั้งเวลาจุดระเบิด
“ตื่นๆ ตื่นได้แล้วยัยขี้เซา” เสียงเล็กแหลมร้องตะโกนชิดติดริมหูไม่ได้ทำให้สายธารรู้สึกตัว ผู้มาใหม่ก้มลงไปตรงเตียงนอนที่มีแล็ปท็อปวางอยู่แต่ปิดเรียบร้อยแล้ว รู้ได้ทันทีว่าร่างบางหลับใหลเฝ้าพระอินทร์น่าจะเพิ่งได้หลับไม่นานนี้
“สงสัยยัยนี่ทำงานทั้งคืน ปล่อยมันไปเถอะ” ธาราเป็นคนห้ามน้ำรินไม่ให้ปลุกสายธาร เพราะรู้ดีว่าเวลาที่สายธารทำงาน เธอจะตั้งใจไม่หลับไม่นอนได้เป็นวันหรือสองวัน หลังจากนั้นเธอจะนอนข้ามวันข้ามคืนเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ไม่ได้นอน ต่อให้น้ำท่วมไฟไหม้ หรือแม้แต่มีใครเอารถเครนมาขุดบ้านไปหล่อนก็ไม่มีวันตื่น
“ฉันคิดอะไรออกแล้ว” สาวสวยที่มีใบหน้าอย่างกับตุ๊กตาบลายท์ หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางเบาทันสมัยประจำกายขึ้นมา กดและกดเพื่อถ่ายรูปสาวงามในร่างเจ้าหญิงนิทราเก็บไว้เพื่อทำการบางอย่างในคราวจำเป็น
“เฮ้ย รินแกแกล้งยัยนี่อีกแล้วเหรอ เดี๋ยวตื่นมาก็โวยวายหรอก”
“เฉยเถอะน่าน้ำ อีกนานกว่ายัยธารจะตื่น” พอถ่ายรูปชุดนอนวาบหวิวที่เปิดเลิกมาถึงเอวเผยให้เห็นอันเดอร์แวร์สีและลายเดียวกันกับชุดนอนนิ่มลื่นนั้น น้ำรินเดินออกไปจากห้องนอนสีเบจของสายธารพร้อมยิ้มกับโทรศัพท์ในมือ
น้ำริน รวิพัฒน์ สายลับเพื่อนสนิทของสายธารอีกคน เธอสวยหวานน่ารัก ดวงตากลมโตเป็นประกายสีน้ำตาลอ่อนทอประกาย รอยยิ้มยั่วเย้ามีเสน่ห์ละลายใจ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอนั้น ราวกับถูกแม่มดร้ายสะกดให้นิ่งงัน พร้อมจะละลายไปกองอยู่แทบเท้า ใบหน้ารูปไข่เรียวมน ผมหยักศกและดัดเสริมเติมแต่งอีกนิดหน่อย
เพื่อให้ทันสมัยด้วยการดัดย้อมด้วยสีทำผมอ่อนรับใบหน้าหวาน จมูกโด่งมน ยิ่งกว่าพวกที่ชอบทำศัลยกรรมกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ว่าเธอไม่ได้แต่งเติมเสริมขึ้นด้วยมีดหมอแต่อย่างใด จมูกพ่อแม่ให้มาล้วนๆ ผิวกายผิวหน้าเนียนใสสะอาดขาวดุจไข่ปอก ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป คางเรียวมนรับกับใบหน้าไปทุกส่วนสัด กับความสูง 170 เกินมาตรฐานหญิงไทย มีนิสัยขอบแกล้ง
โดยเฉพาะแกล้งสายธาร คืออาหารจานโปรดของน้ำริน ในความน่ารักน่าชังนั้นแฝงความเซ็กซี่เย้ายวนหาหญิงใดเทียบเทียม ที่สำคัญเธอเป็นคู่หูนักประดิษฐ์ร่วมกับดร.น้ำเหนือ นักประดิษฐ์สติเฟื่อง คิดค้นอาวุธประจำกาย ไม่จำกัดเน้นแต่อาวุธทันสมัย ล้ำเทคโนโลยีต่างกับสาวร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ยายนี่โบราณสุดๆ
ธารา ก่อนันทะกิจ สาวผมสั้นผิวสีน้ำผึ้งเพราะโปรดปรานการอาบแดด มียานพาหนะสองล้อใหญ่ขนาดสี่สูบคู่ใจ เธอโปรดปรานความเร็วแรง หาใครทาบรัศมีได้ เครื่องหน้าคมเข้ม ดวงตาดุดัน จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตายิ่งกว่าแมวสีสวาท หากใครได้จ้องมอง สะท้านไปถึงหัวใจเพราะทั้งดุดันและน่าเกรงขาม ริมฝีปากเล็กบางน่าทะนุถนอมต่างจากบุคลิกที่มาดมั่น เด็ดเดี่ยว ลีลาการต่อสู้กับเหล่าผู้ร้ายว่องไวดุจนินจา อาวุธคู่กายคือมีดสั้นซึ่งมีความชำนาญเป็นพิเศษ การเคลื่อนกายดุจพายุหาใครตามทัน โปรดปรานการทำอาหารทุกชนิด ฉะนั้นด้วยบุคลิกที่ตรงข้ามกับนิสัย จึงทำให้เพื่อนๆ ยกตำแหน่งแม่บ้านให้อีกตำแหน่งอย่างช่วยไม่ได้
“ลงไปหาอะไรทานเถอะริน” ธาราชวนน้ำรินที่เอาแต่แกล้งสายธารให้เดินลงไปยังห้องครัว
“ยัยธารคงพึ่งบะหมี่ถ้วยอีกตามเคย” ธารามองลงไปยังถังขยะในห้องครัว ที่มีบะหมี่ถ้วยและนมกล่องถูกทิ้งรวมกัน
“เธอไม่อยู่นี่” น้ำรินหันมาทางธาราที่ปล่อยให้เพื่อนอดทุกครั้งที่เธอออกไปปฏิบัติภารกิจ
“ฝึกทำไว้มั่งเถอะพวกแกน่ะ ขืนรอฉันมีหวังได้พึ่งแต่ไอ้บะหมี่ถ้วยนี้แน่เลย ของในตู้เย็นมีออกเหลือเฟือ”
“ไม่ไหวละ แกยังจำไข่เจียวดำได้อยู่ไหมล่ะ นั่นน่ะฝีมือยัยเจ้าหญิงนิททรา กินกันได้ไหมล่ะ” น้ำรินยกตัวอย่างอาหารสยองฝีมือสายธารเมื่อสองเดือนก่อนได้ ตอนที่ธาราประท้วงเพราะร่างกายเหนื่อยล้าจากการทำงาน สายธารอาสาเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ สุดท้ายอาหารง่ายๆ อย่างไข่เจียวก็ทานไม่ได้หันกลับมาพึ่งโจ๊กซอง และบะหมี่ถ้วยตามเคย
“เออ เข้าใจ”
“ฉะนั้นแกต้องรับหน้าที่นี้ไปเลย ไม่มีข้อแม้”
“จ้ะยัยนางแบบ ดาวมหาวิทยาลัยสี่ปีซ้อน” ธาราอดเหน็บคนสวยไร้ทักษะการเป็นแม่บ้านไม่ได้
“เพราะอย่างนั้นฉันถึงต้องพึ่งสาวห้าว มาดแม่บ้านอย่างแก”
อีกคนเป็นเจ้าหญิงนิทรา อีกคนเป็นนางแบบ ส่วนอีกคนเป็นแม่บ้านมาดห้าวแมน ลงตัวที่ความเป็นเพื่อนสายลับระดับพระกาฬ
“ฉันว่าหลังจากยัยธารตื่นเราคงมีงานช้างต้องทำ” ธารารู้ดีว่าทุกครั้งที่สายธารอดหลับอดนอนจะต้องมีเรื่องราวให้ได้ขบคิด เพราะหญิงสาวจะนั่งทำงาน ทำการบ้านที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้สำเร็จกระทั่งถึงเวลาออกปฏิบัติการ สายธารมักเอาจริงเอาจังกับงานทุกชิ้น เก็บรายละเอียดทุกอย่างไม่เคยพลาด เวลาที่เธอคิดงานมักใช้ช่วงเวลากลางคืนที่แสนสงบเงียบ ความคิดและจินตนาการรวมทั้งแผนการต่างๆ จะบรรลุทะลุทะลวง หลั่งไหลออกจากสมองอันชาญฉลาดของสายธารไม่ขาดสาย
ยิ่งกว่าวิญญาณกาลิเลโอผสมกับโรเบิร์ต อัลสไตล์ รวมกันซะอีก สุดท้ายก็ไม่หลับไม่นอนจนกว่าจะคิดอะไรออก หลังจากนั้นพอทุกอย่างสำเร็จลง และหาทางออกได้ สายธารจะนอนยาวนานเป็นวันๆ ซึ่งสองสาวรู้ดีและจะไม่ก่อกวนเด็ดขาดนอกจากจะคิดอยากแกล้งเท่านั้น ซึ่งต่อให้แกล้งแค่ไหน สายธารก็ไม่มีวันตื่นเด็ดขาด สิ่งที่สองสาวต้องทำคือเตรียมอาหารไว้รอการตื่นของสายธาร
เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรเธอทานได้หมด แม้ว่าอาหารพวกนั้นจะเย็นชืด หรือไร้รสขาติสักเพียงใด ในเมื่อร่างกายที่เอาแต่นอน ลูกน้องในท้องย่อมหิวตามเจ้านายอย่างช่วยไม่ได้ ต่อให้อาหารนั้นไม่อร่อยเลย ยัยสายธารสามารถสวาปามได้ทั้งนั้น หลังมื้ออาหารสองสาวเข้านอนเพราะค่อนข้างเหนื่อยล้ากับงานที่ได้ทำ ตอนกลับมาไม่ลืมแวะหาผู้บังคับบัญชาก่อน เพื่อส่งมอบงานที่สำเร็จเรียบร้อย ไร้ซึ่งปัญหา เจ้านายมีงานใหม่สั่งมาจากเบื้องบน แต่กำชับให้ตามงานเอาที่สายธาร เห็นทีงานใหม่คงต้องรอสายธารตื่นคงเที่ยงคืน คืนนี้แน่ไม่ขาดไม่เกิน
เที่ยงคืนร่างบางๆ กับชุดนอนเบาหวิวขยับกายตื่นขึ้นเพราะลูกน้องในท้องเริ่มร้อง และเธอเองคิดว่าตัวเองนอนเต็มอิ่มร่างกายเธอจะส่งสัญญาณบอกเองโดยอัตโนมัติ หลังจากช่วง
เวลาหลับใหลผ่านไป คราวก่อนเดินก่อนเดินทางไปทำงานชิ้นล่าสุด เธอใช้เวลาศึกษางานถึงสองวัน เพื่อแกะรอยในการสืบค้นคดี เกี่ยวกับเจ้าพ่อค้าอาวุธ จากนั้นเธอก็นอนชดเชยถึงสองวันเต็มๆ พอตื่นขึ้นจึงเดินทางไปทำงานโดยแยกกับเพื่อนสาวทั้งสอง สายธารเด้งตัวลงจากเตียงนอน สาวเท้าเรียวเดินลงบันไดไป ด้วยความรู้สึกหิวและกระหายอย่างที่เรียกว่ามากมายมหาศาล ลูกน้องในท้องส่งเสียงราวกับคนกำลังทะเลาะด้วยความรุนแรง
“เออน่าเด็กๆ ใจเย็น เดี๋ยวหาอะไรให้ทาน” สายธารลูบท้องเดินลงบันได มือเอื้อมกดเปิดสวิชต์ไฟข้างผนังด้วยความเคยชิน สายตากำลังปรับให้เข้ากับแสง “เอ๊ย นั่นบนโต๊ะ” สายตาวาวๆ ส่งตรงไปยังโต๊ะอาหารในห้องครัวซึ่งมีฝาชีสานไม้ไผ่ที่มารดาฝากให้เธอนำมาใช้ที่กรุงเทพฯ หลังจากกลับไปเยี่ยมท่านเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอยังอิดออดที่จะไม่นำมันมา ด้วยเกรงมารดาจะเสียจริตที่ตั้งใจไปหาซื้อให้บุตรสาวคนเล็ก สายธารจึงจำใจนำมันติดรถหรูหราของเธอกลับมาด้วย ความลับยังคงเป็นความลับสำหรับอาชีพของเธอ
“ยัยสองคนนั้นกลับมาแล้วแน่เลย” สายธารกระวีกระวาดขึ้นไปบนชั้นสอง ที่มีห้องของน้ำรินและธาราอยู่ติดกัน ห้องด้านซ้ายเป็นของน้ำริน ห้องด้านขวาเป็นห้องธารา
“ตื่นๆ เฮ้ นี่แกยัยน้ำกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” มือบางจับสะโพกกลมของสาวผมสั้น ผิวสี้น้ำผึ้ง เขย่าเบาๆ เพื่อปลุกให้ตื่นทั้งที่อีกฝ่ายเพิ่งหลับสนิทเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“อื้อ อย่ากวนสิคนกำลังหลับสบาย” ธาราส่งเสียงทั้งที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา สายธารจึงตรงไปยังสวิชต์ไฟเพื่อมอบแสงสว่างให้กับเจ้าของห้องสีม่วงซึ่งเป็นสีโปรดของธารา “อี๋ แสบตา แกยัยธารเองหรือ นึกว่าหลับ แกตื่นมาทำไมกลางดึกวะ ฉันจานอน อย่ากวนได้ไหม” ธารางอแง “วันนี้ฉันเพลียและอยากนอนมากกกกกกก” เน้นคำว่าอยากนอนมากยาวๆ ให้สายธารได้รู้ว่าเธอง่วงถึงขีดสุด
“ไม่ต้องนอน ถ้าฉันได้ตื่นแล้วใครก็ห้ามนอนทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจะไปปลุกยัยรินด้วย รอแป๊บห้ามนอน” สายธารไม่ฟังเสียงหรืออาการงัวเงียของอีกฝ่าย เธอวิ่งตึงๆ เพื่อไปอีกห้องข้างๆ