บท
ตั้งค่า

เริ่มนับหนึ่ง

รับรู้ปัญหา ผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง อีกครั้งจึงเป็นเรื่องง่าย ศิษย์รุ่นแรกถูกรับขึ้นเขา สูงส่งบริสุทธิ์เช่นนี้ ปู้ตานซินไม่จำเป็นต้องเกลือกกลั้วกับหนอนแมลง ปรมาจารย์ปู้ตานซินที่ถูกกล่าวขานในเวลาสามปีให้หลัง ฝึกศิษย์เพียงรุ่นแรกรุ่นเดียว ต่อจากนั้นเป็นศิษย์ที่จะดูแลกันเอง เคล็ดวิชาที่สำคัญ ไม่เคยจะส่งถึงใครรับศิษย์หญิง ปีละสองคน คนหนึ่งซักล้าง อีกคนทำอาหารแจกจ่าย ตัวเขามีเพียงสร้างค่ายกลฝึกศิษย์ สามเดือนปรากฏค่ายกลหนึ่งครั้ง และอาศัยเวลาทั้งหมดสุขสบายบนเขา

ค่ายกลมีไว้คัดคน คนไหนอ่อนแอก็แพ้ไป เก็บของลงเขา อย่าได้กลับมาอีก ศิษย์ที่เหลือจึงไร้เทียมทานเป็นที่เล่าขานสืบไป เกาซิ่งจึงโด่งดังในด้านความยากที่จะสำเร็จ

เพียงได้ยิน ว่าเป็นศิษย์จากสำนักเกาซิ่ง พรรคมารถึงเข่าอ่อนทรุดลงกองกับพื้น แต่ภายใต้หน้ากากเย็นชา ความนึกคิดของเขา ช่างขบขันนักทุกอย่างล้วนน่าขันสำหรับปู้ต้านชิน แต่ถูกค้ำคอด้วย คำว่าสูงส่งบริสุทธิ์

“อาจารย์ ฮ่องเต้ส่งไท่จือขึ้นเขาเพื่อฝึกวิชา มีราชสาสน์ส่งมา ไหว้วานฝากฝังให้อาจารย์ดูแลไท่จือ”

ปู้ตานซินมีสีหน้าเรียบเฉย อยากให้อยู่สบายจะต้องส่งคนมาร่วมฝึกเพื่อแทรกซึมปกป้อง ใช่จะให้ปรมาจารย์ที่สูงส่งเช่นข้าดูแลลูกไม่รู้จักโตแทนเจ้า อยากมาก็มาแต่ข้าคงไม่ไปดูแลหรือเอาใจ หากสามเดือนแรกผ่านค่ายกลไปได้จึงนับว่าเก่ง แต่คาดว่า คงต้องร้องไห้ลงเขาตั้งแต่วันแรกเพราะไม่เก่งจริงเช่นไรจะขึ้นเขามาคารวะเขาเพื่อรับเป็นศิษย์ แต่หาพูดออกมาไม่ เพียงแต่หลับตาลงช้าๆ ไม่ต่อความ

เหตุนี้เอง สำนักเกาซิ่งจึงเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเพียงสามปีก็ยืนหยัด โด่งดังไปทั่วยุทธ์ภพ เป็นที่หมายปองของเหล่าผู้ต้องการความเทพทั้งปวง

ปู้ตานชิน สาวเท้ายังด้านล่างหุบเขา รอเวลานัดหมายกับศิษย์พี่ทั้งสอง,

ปอก้านกันกับปอคุณมาทันเวลานัดหมายพอดี

ปู้ตานชินไม่แม้แต่จะประสานมือคารวะศิษย์พี่ทั้งสอง ด้วยว่าตัวเขาเป็นถึงปรมาจารย์ ไม่จำเป็นต้องคารวะยกย่องใคร

“ศิษย์พี่ทั้งสองที่ผ่านมาท่านสบายดีหรือไม่”

เอื้อนเอ่ยวาจา ด้วยถือเพียงว่าสมควรจะทักก่อน ปกติแล้วไว้ตัวยิ่งนัก

“เราสองคน แม้ไม่ยิ่งใหญ่เท่าเจ้า ทว่าก็ก่อตั้งสำนักของตัวเองจนสำเร็จ แต่จะให้โด่งดังเท่าสำนักเกาชิ่งคงไม่อาจ ที่ผ่านมาตรากตรำยิ่งได้ยินเพียงข่าวคราวของศิษย์น้อง ยิ่งสร้างแรงใจให้เร่งก่อร้างสร้างสำนัก และสร้างชื่อมให้เทียบเคียงสำนักเกาซิ่ง”

“ปู้ตานชินแม้จะยิ่งใหญ่เพียงใดแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์น้องของท่านทั้งสอง อย่างไรเสียก็ยังคงเป็นพี่น้อง”

อยากจะพูดเสียจริง ว่าข้าเหนือกว่าพวกเจ้าที่มัวแต่ใจดี มีเมตตา สิ่งนี้นั่นล่ะที่ทำให้ปู้ตานซินประสบความสำเร็จรวดเร็วเกินเจ้าทั้งสอง

“เราสองคนเลื่อมใสเจ้ายิ่ง เพียงเวลาสามปีที่เลยผ่านเจ้าก็สามารถก่อตั้งสำนักที่ยิ่งใหญ่เพียงลำพัง”

แน่นอนอยู่แล้ว ปู้ตานซินหาใช่คนที่คิดอะไรแล้วไม่ลงมือประสบการณ์ผ่านมาสอนให้รู้ว่า อะไรควรทำและอะไรไม่ควร ข้าเป็นต่อพวกเจ้าอยู่ไม่น้อย

“ศิษย์พี่กล่าวเกินไปแล้ว ถึงอย่างไรเราก็เป็นพี่น้องร่วมสาบาน ไม่อาจแปลเป็นอื่น อย่างไรก็ต้องพึ่งพากันอยู่ดี ข้าเพียงแค่อาศัยโชคเพียงน้อยนิดจึงสร้างเกาซิ่งในวันนี้”

“นับว่าเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่เสียงจริง”ป้อก้าน อดที่จะพูดเสียไม่ได้เขากับป้อคุน ก่อตั้งสำนักมีปัญหามากมายจนป่านนี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอาศัยแค่ชื่อว่าเป็นศิษย์สำนักเดียวกับปรมาจายรย์ปู้ตานซิน จึงมีคนอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์

“ ข้ามาครั้งนี้มีบางอย่างจะขอร้องศิษย์พี่ทั้งสอง”อ้อนน้อมถ่อยกายเพียงมาดหมายในใจ เรื่องผิดพลาดนี้จะต้องไม่บังเกิดซ้ำรอย

“เจ้าเป็นถึงปรมาจารย์ เช่นไรจึงเรียกว่าขอร้องเพียงแค่จะไหว้วาน เราทั้งสองก็มิอาจปฏิเสธสิ่งที่เจ้าร้องขอ”

ปอคุนกล่าวขึ้นอย่างขันอาสา

ปู้ตานชินถอนหายใจ ลูกทั้งคนหาใช่ผักปลาศิษย์พี่ทั้งสองจะยอมยกให้เขาง่ายดาย จะว่าไปในเมื่อขอแล้วสิทธิ์ขาดในการเลี้ยงดูก็ย่อมต้องเป็นของปู้ตานชินอยู่แล้ว จะบังคับก็หาดีไม่ เช่นนั้นพูดจาหว่านล้อมจึงจะดีที่สุด

“ลูกหญิงชายของท่านทั้งสอง ข้าตั้งใจนำเขาทั้งสองมาเลี้ยงดู ตั้งใจจะถ่ายทอดเคล็ดวิชา เพื่อให้เคล็ดวิชาไม่สูญหายหรือตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้ศิษย์ในสำนักคนอื่น เพียงแต่ตั้งใจจะมอบมันให้กับ…. กับเลือดเนื้อเชื้อไขของศิษย์พี่ทั้งสอง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel