บท
ตั้งค่า

หลงตั๋วไท่จือ

“ข้าบอกพวกเจ้าแล้วอาจารย์ล้วนมีเหตุผลทุกอย่างเป็นอาจารย์ที่ตัดสินใจได้ถูกต้องเสมอ”

เหล่าศิษย์น้องทั้งหลายพยักหน้าหงึกหงักต่างยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจที่ตัวเองคิดถูกผ่าด่านค่ายกลหฤโหด มาขอเป็นศิษย์ต่อไปเมื่อสำเร็จวิชาแล้วจึงจะไม่ต้องอายใคร

“ศิษย์พี่ใหญ่ ไท่จือขึ้นเขามาตอนนี้อีกคน อาจารย์ยินดีรับเขาเป็นศิษย์หรือไม่เพราะอาจารย์เคยบอกไว้แล้วว่า เดือนจิวเยว่ไม่รับศิษย์”

“ไท่จือ”

“หลงตั๋วไท่จือผู้ยโสที่ใครต่างเล่าขาน”

“เจ้ารีบไปรับหน้าไท่จือข้าจะไปรายงานอาจารย์ให้ทราบ”

สะพานชมจันทร์

“อาจารย์ ทำไมต้องฝึกจิต”จี้โม่ถามเมื่อปู้ตานซินให้นั่งฝึกจิตห้ามขยับกาย

“จิตใจเจ้าจะได้สงบ ยิ่งสงบก็ยิ่งทำให้ซึมซับสิ่งที่ข้าต้องการสอน”

“ข้าอยากเรียนเพลงกระบี่และฝึกยุทธ์”

จี้โม่ มีความกระตือรือร้นตั้งแต่อายุยังน้อย มิน่าเมื่อภพก่อนเข้าถึงได้รู้สึกว่าจี้โม่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ผิดกับหยางหว่านที่พูดน้อย ไม่แสดงท่าทีอยากได้ใคร่มีสิ่งใดเหมือนจี้โม่

“รอจนกว่า ข้าเห็นสมควรพวกเจ้าจึงจะฝึกยุทธ์ได้”

“อาจารย์ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”หวังต้าฉินลนลานเหมือนเคย และเป้นเรื่อง

ใหญ่เหมือนเคย

“หวังต้าฉินข้าสอนเจ้าสามปีผ่านไปให้เจ้าส่งเสียงเรียกข้าแค่พอดี อย่าได้ร้อนรนเพียงนั้น”

อยากจะพูดต่อว่าทุกอย่างเขาแก้ไขได้ไม่จำเป็นต้องร้อนรน แต่กลัวว่าจะเสียภาพพจน์

“อาจารย์”เสียงเบาลง

“มีสิ่งใดว่ามา”

พูดจาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนจะสอนหวังต้าฉินกลายๆ ว่าให้วางท่าทีให้ได้เช่นอาจารย์

“หลงตั่วไท่จือ ขึ้นเขามาแล้ว อาจารย์พร้อมจะรับเขาเป็นศิษย์หรือไม่หรือว่าจะให้ ศิษย์ปฏิเสธไปเสีย”

“ให้เขามาพบข้า”

จะดูว่าไท่จือผู้นี้มีท่าทีเช่นไรเหมาะที่จะรับเป็นศิษย์หรือไม่หรือว่าควรไล่กลับไปเสียแต่หากจะไล่ไป ฮ่องเต้จะต้องไม่พอใจเขาอย่างมากอาจจะส่งทหารมา จัดการกับสำนักของเขา ไม่ได้กลัวแต่ทว่าหากรับไท่จือ คนทั่วไปก็จะพูดว่า ไหนว่าไม่รับศิษย์ในเดือนจิ่วเยว่ พอมีฐานะเป็นถึงไท่จือกลับรับไว้ทันที ข้อดีของการรับไว้ก็คือคนทั่วไปอีกเช่นกันก็จะพูดว่า แม้กระทั่งไท่จือ ฮ่องเต้ในอนาคตก็ยังต้องมาร่ำเรียนกับเขาแทนที่จะปฏิเสธ อย่างไท่จือจะไปร่ำเรียนวิชาที่ไหนก็ได้ และอาจทำให้สำนักกระบี่ของที่นั่นมีชื่อเสียงเพราะขึ้นชื่อว่าไท่จือใครๆ ก็ต้องอยากเอาใจ

“หลงตั่วไท่จือขึ้นเขามาเพื่อให้ท่านรับเป็นศิษย์ ตามบัญชาของเสด็จพ่อ”

ใบหน้ายโสของไท่จือหน้าหมั่นไส้ยิ่งนัก ปู้ตานซินทำสีหน้าเรียบเฉยวางตัวสูงส่งบริสุทธิ์เช่นเดิม คิดในใจบัญชาพ่อเจ้าไม่มีผลกับข้านั่นไม่ใช่บิดาข้าเสียหน่อย ข้าอยู่เหนือการปกครองทั้งปวงมีเพียงคำร้องขอ ข้าจึงจะยอมอ่อนข้อให้

“ท่านรับน้ำชา ข้านำชาดีจากทางใต้ของแคว้นที่สามารถผลิตชาได้ปีละครั้ง แบกขึ้นเขาผ่านค่ายกลขึ้นมาคารวะอาจารย์”ยิ้มบางๆปรากฏที่ริมฝีปาก อยู่เป็นหลงตั๋วผู้อยู่เป็น

“ปกติข้าไม่รับศิษย์ในเดือนจิ่วเยว่” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของหลงตั๋วบ้าง

“ศิษย์ทั่วไปอาจารย์ไม่รับแต่ข้าเป็นถึงไท่จือ อีกอย่างข้าได้ยินมาว่าอาจารย์ รับศิษย์มาสองคนในเดือนนี้ ในเมื่อพวกเขามาได้ทำไมข้าจะมาไม่ได้ ในเมื่อข้าเป็นถึงไท่จือ”หมายถึงหยางหว่านกับจี้โม่

"เจ้าต้องเรียกพวกเขาว่าศิษย์พี่ ในเมื่อเขาทั้งสองขึ้นเขามาก่อนเจ้า”จะอย่างไรก็ต้องรับไท่จือโอหังคนนี้อย่างเสียไม่ได้

“อ๋อแน่นอนหากอาจารย์รับข้าข้าจึงต้องเรียกเขาว่าศิษย์พี่”

“เจ้ายินดีคารวะศิษย์พี่ทั้งสองไหม”หลงตั๋วยิ้มยียวน

“ยินดี”

“หยางหว่านจี้โม่ออกมานี่ มาให้ศิษย์น้องของพวกเจ้าคารวะเสียหน่อยจึงดี”

หยางหว่านกับจึ้โม่เดินออกมาทันที หลงตั๋วไท่จือเลิกคิ้วสูงหน้าชาด้วยคาดไม่ถึงว่า ศิษย์พี่ที่พูดถึงหมายถึงพวกเขาทั้งสองที่ยังเป้นเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ศิษย์น้อยใหญ่ที่มามุงดูต่างอมยิ้มขบขัน

“อาจารย์ล้อข้าเล่น ทำไมข้าต้องคารวะเด็กตัวกระเปี๊ยกอย่างพวกเขาด้วย”

“เด็กตัวกระเปี๊ยกแต่ก้าวหน้ากว่าเจ้าไม่น้อย อย่างน้อยเขาทั้งสองก็เรียนรู้ว่า จะต้องไม่สร้างปัญหาให้กับอาจารย์ยินยอมทำในสิ่งที่ข้าสอนสั่ง ตอนนี้เขาก้าวหน้ากว่าเจ้าไปไกล หยางหว่านกับจี้โม่ ฝึกจิตจนถึงขั้นสองแล้ว”

“อาจารย์ ข้าไม่อยากคารวะพวกเขา ข้าเป็นถึงไท่จือ”

“เช่นนั้น ข้าก็คงจะต้องให้หวังต้าฉินเชิญไท่จือลงเขา ที่นี่เรานับพี่น้องใครมาก่อนล้วนเป็นพี่ ไม่มีใครฐานะสูงส่งกว่าใคร เช่นนั้นหากอ้างฐานะแล้ว ใช้ฐานะที่สูงส่ง มาข่มขู่เหล่าศิษย์ที่คารวะข้า เป็นศิษย์อยู่ก่อนแล้วเช่นไรจึงจะมีศิษย์พี่ศิษย์น้อง ต่อไปหากจะอยากฝึกวรยุทธ์กับข้าเจ้าจะต้องมีหน้าที่ ตบตูดให้สองศิษย์พี่หลับใหลในทุกค่ำคืน ”

หลงตั๋วหน้าจ๋อยไม่คิดว่าความเป็นไท่จือของเขาจะใช้ที่นี่ไม่ได้

“แต่”

“มีสองทางเลือกจะฝึกปรือวรยุทธ์อยู่ที่นี่หรือจะลงเขาไปเสีย ถึงคราวนั้นผู้คนก็จะต้องอดที่จะสอบถามไท่จือเสียไม่ได้ว่าเช่นไรข้าจึงไม่รับเป็นศิษย์หรืออาจถามว่าเมื่อข้ารับเป็นศิษย์แล้ว ทำไมไม่ยอมฝึกวรยุทธ์อยู่บนเขา คนเขาก็จะพากันนินทาว่าเป็นเพราะไท่จือไร้ความเพียรพยายาม”

ลุกขึ้นยืนไม่สนใจหลงตั๋วไท่จืออีกต่อไป เพียงแค่ทดสอบความอยากและความอดทนของหลงตั๋ว ศิษย์หลายคนของปู้ตานซิน กว่าจะถูกรับเป็นศิษย์มิใช่จะง่ายดายเช่น หยางหว่านกับจี้โม่ทุกคนไป จึงนับว่าเขาให้อภิสิทธิ์ กับสองคนมากกว่าผู้ใดเพียงเพราะอยากไถ่โทษหรือว่าทำดีเพื่อพวกเขาจะได้สำนึกบุญคุณ

หวังต้าฉินยิ้ม เมื่อเห็นว่าหลงตั๋ว ประสานมือตรงหน้าคารวะ สองเด็กน้อยอย่างอายๆ ศิษย์พี่ทั้งหลายต่างเบือนหน้าหนีแสร้งว่าไม่เห็นเสียเพื่อให้เกียรติไท่จือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel