บทที่ 5
.
..
...
“นายท่านเจ้าคะ นายท่านอยู่ไหน ถึงเวลาทานมื้อเที่ยงแล้วเจ้าค่ะ”
“...”
“หายไปไหนนะ ถ้าเจอจะจับตีก้นซะให้เข็ดเลยคอยดู คนอะไรจะดื้อขนาดนี้” นางบ่นอย่างไม่เก็บเสียงเพราะตรงนี้ไม่มีใคร แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังยืนอยู่ด้านหลัง ทำหน้าถมึงทึง ส่งปลายกระบี่อันแหลมคมชี้มายังสาวใช้จอมจุ้นจ้าน
“เจ้ากำลังว่าให้ใคร”
ได้ยินเช่นนั้นเหม่ยหวาก็เบิกตาด้วยความตกใจ ยืนตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัว ยกมือขึ้นมาตบปากตัวเองเบา ๆ สองสามที หมุนตัวกลับไปหมายจะแก้ต่างให้ตัวเอง ทว่าเมื่อเห็นปลายกระบี่กำลังชี้มายังคอตนก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“นะ...นายท่านอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ”
“ก็นานพอจะได้ยินว่าเจ้ากำลังนินทาข้า”
“บ่าวไม่ได้นินทานะเจ้าคะ บ่าวกำลังบ่นให้น้องชายของบ่าวเจ้าค่ะ จู่ ๆ ก็คิดถึงขึ้นมา พอดีว่าน้องชายของบ่าวดื้อมาก เลยพูดอย่างนั้นออกไป นายท่านลดกระบี่ลงเถอะนะเจ้าคะ บ่าวกลัวแล้วจริง ๆ”
“สีหน้าเจ้าเหมือนไม่ได้กลัวข้าเลย” สายตาคมกริบปานคมกระบี่จับจ้องมองใบหน้าเรียวรูปไข่ ใบหน้าอันอ่อนเยาว์งามไร้ที่ติ ทว่าเขากลับมองเห็นเพียงความดื้อและกวนประสาทนั้น
เหม่ยหวารีบทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า แล้วคลานเข้าไปกอดขาของนายท่านเอาไว้แน่น แสร้งร้องไห้ร้องห่มเสียงดัง เล่นละครตบตา หวังว่านายท่านของนางคงจะยอมยกโทษให้
“ฮือ ๆ นายท่าน บ่าวผิดไปแล้ว ยกโทษให้บ่าวด้วยนะเจ้าคะ ต่อไปนี้บ่าวจะไม่ปากพล่อยอีกแล้วเจ้าค่ะ”
“ปล่อยขาข้า” คนพูดพยายามสลัดขาตนเองออก แต่กลับไม่เป็นผล
“ไม่ปล่อย จนกว่านายท่านจะยอมยกโทษให้บ่าว ยกโทษให้บ่าวด้วยนะเจ้าคะ”
“ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย ฮือ ๆ นายท่านสัญญาก่อนว่าจะไม่เอาโทษบ่าว”
“เฮ้อ ข้าปวดกบาลกับเจ้าจริง ๆ ทำตัวน่ารำคาญ”
“ฮือ ๆ”
“ก็ได้ ข้าจะไม่เอาโทษเจ้า ปล่อยข้าได้แล้ว”
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะนายท่าน บ่าวซาบซึ้งในน้ำใจนายท่านเหลือเกิน” ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มประดับเมื่อแผนการสำเร็จจนได้ นางยอมปล่อยขาแล้วลุกขึ้นยืนส่งยิ้มให้ท่านแม่ทัพผู้มีสีหน้าเย็นชาเช่นเคย
“ออกไปข้างนอก แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาหากข้าไม่เรียกใช้”
“เจ้าค่ะ แต่ตอนนี้นายท่านรีบมาทานข้าวก่อนเถอะเจ้าค่ะ กำลังร้อน ๆ เชียวนะเจ้าคะ” เหม่ยหวาถือวิสาสะจูงมือท่านแม่ทัพมายังโต๊ะไม้ที่มีข้าวและกับข้าววางไว้รอ
หยางจื่อถงรีบสะบัดมือออกโดยเร็ว ชักสีหน้าใส่ให้รู้ว่าไม่พอใจ แล้วก็อย่ามาบังอาจแตะเนื้อต้องตัวหากไม่ได้รับอนุญาต
“เจ้านี่ช่างไม่รู้ความเอาเสียเลย หากไม่ได้รับอนุญาตอย่ามาแตะตัวข้าอีกเด็ดขาด”
“ทำไมล่ะเจ้าคะ ก็บ่าวเป็นห่วงนายท่านนี่นา ไม่ได้จะทำร้ายสักหน่อยนะเจ้าคะ” เหม่ยหวาขมวดคิ้วทำหน้าฉงนให้นายท่าน นางไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกเสียจากอยากให้เขาทานข้าวให้ตรงเวลาเท่านั้น เพราะฮูหยินได้กำชับเอาไว้นั่นเอง
“ออกไป ข้าอยากอยู่คนเดียว”
“ก็ได้เจ้าค่ะ”
สาวใช้ตัวป่วนยอมแพ้แต่โดยดี ทำหน้าบึ้งแล้วเดินกลับออกไป แม้จะมายืนอยู่ด้านนอกก็ไม่วายส่องสายตาเข้าไปดูว่าอีกฝ่ายได้ทานอาหารเที่ยงมากน้อยแค่ไหน เมื่อเห็นว่าท่านแม่ทัพยอมทานแต่โดยดี นางจึงนั่งชันเข่าค้ำคาง วางสายตาไว้ที่ท้องฟ้าด้านนอกจวน นั่นทำให้คิดถึงบิดามารดาและน้องชายขึ้นมาเสียอย่างนั้น เมื่อไหร่จะถึงวันที่จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านก็ไม่รู้