[6] เด็กน้อยโหงวเฮ้งดี
"ก็ให้น้ำหวานจัดการเรื่องลูกทั้งหมด แค่นั้นก็จบแล้วไงครับคุณแม่" เขายังคงปฏิเสธอย่างไม่ยอมขยับตัวไปไหน
คุณหญิงก็ทำเป็นหูทวนลมเดินอุ้มเด็กน้อยไปหาเขมราชที่นั่งไขว่ห้างปั้นหน้ายักษ์อยู่ตรงข้ามกัน อย่างแกล้งๆ
"พ่อที่ไหนจะไม่เคยอุ้มลูกตัวเองกัน คิดแบบนั้นเมียคงเคืองตาย หอบหลานแม่หนี ทิ้งไปแน่ๆตาเขมเอ้ย! ให้เขาเลี้ยงลูกอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน ความคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะ!"
"ก็ผม....!"
เขมราชจำต้องยอมฝืนทนและส่งมือหนาไปรับเด็กตัวน้อยแล้วเอามาวางตรงหน้าตักของตนเอง คุณหญิงอมยิ้มในทันทีที่ได้แกล้งลูกชาย
เขาถอนหายใจพรืดยาวมองไปที่แม่ของเด็ก แถมสายตายังคาดโทษอีกด้วย ก็คนมันไม่ชอบเด็กจะให้ทำยังไงได้ และก็ยังไม่อยากแตะต้อง ยังไม่พร้อมยุ่งเกี่ยวกับเด็กเล็กในตอนนี้ แค่ทำงานก็ปวดประสาทจะแย่อยู่แล้ว
เอาไว้เขาใจร่มๆก่อนก็ไม่ได้ แล้วยัยเด็กรับใช้คนนี้ก็ดันมามีลูกให้แม่เขาคลั่งจนอดใจไม่ไหวอยากจะมีหลานเร็วขึ้นมาเร่งเขาอีก ทั้งที่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่หวานใจของเขา เธอไม่ค่อยจะมีเวลาว่างแล้วจะผลิตหลานให้คุณแม่ได้อย่างไรทันใจท่านกัน
"แอ้!"
"ชื่อหนูใบหม่อนนะเขม เป็นไงน่ารักไหม?"
"ครับน่ารักดี!"
ใบหน้าหล่อเหลาเองก็ก้มหน้าลงไปมองคนตัวเล็กในอ้อมกอดว่าจะน่ารักขนาดไหนกัน แต่พอเขมราชได้สบตากับเด็กน้อยก็ราวกับต้องมนต์สะกด รู้สึกได้เลยว่าเด็กคนนี้โหงวเฮ้งดี น่าตาน่ารักจริงๆ เขมราชมองไปที่มือแง้งขิงป้อมๆนั้นกำลังชูขึ้นมาราวกับอยากจะชกหน้าเขาอย่างไงอย่างนั้น
"นี่โบตั๋นสามีของเธอเขาหน้าตาดีหรือไง ลูกเธอโหงวเฮ้งดีจริงๆนะ!" เขมราชคิดอะไรได้ก็เอ่ยขึ้นมา เพราะว่าไหนๆก็ต้องจำยอมอุ้มเด็กน้อยอยู่แล้วเลยเปิดบทสนทนาขึ้นมาให้เพื่อไม่ให้ในที่นี้เงียบจนเกินไป
"กะก็ประมาณนั้นค่ะ!"
เธอไม่รู้จะตอบไปอย่างไร เพราะบทจะโพล่งถามมา ก็เอาสะไม่รู้จะตอบอย่างไรเลยจริงๆ เรื่องแบบนี้มันน่าสงสัยด้วยหรือ หรือเขากำลังเอ่ยอะไรเป็นนัยแฝงหรือเปล่า เพราะเคยได้ยินมาว่าเขมราชมักหลอกด่า หากไม่พอใจขึ้นมา....
เผลอๆคงคิดว่าเธอรีบมีลูกเกินไปแล้วทำให้เขาซวยเพราะคุณหญิงอยากจะมีหลาน และเขมราชก็รู้ว่าเธออายุเพียงยี่สิบปีต้นๆนี้เอง เพราะเธอก็เกิดและโตมากับบ้านนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพูดคุยกันก็ตาม
"แล้วทางฝั่งนั้นเขาคุมกำเนิดอยู่หรือเปล่าลูก ใจแม่หน่ะอยากให้ปล่อยได้แล้วนะ คุยกันไว้บ้างหรือยัง?"
"ยังเลยครับ ผมและเขาไม่ค่อยมีเวลาเลย"
พอนึกถึงน้ำหวาน เวลานี้เธอคงกำลังหัวหมุนดิวงานกับดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศษเพื่อนของเธออยู่ เขาละไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าผู้หญิงอะไรจะบ้างานขนาดนั้นกัน
เมื่อยามที่เขมราชไปนั่งเฝ้าเธอทำงาน เธอให้เขานั่งรอที่โซฟา สายตาคมก็มักจะมองกระโปรงพริวๆเดินฉับๆหมุนไปหมุนมา ใบหน้าเอาจริงเอาจังทำให้เขมราชคนดุมีรอยยิ้มขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
"ระหว่างนี้คุณแม่ก็ซ้อมเลี้ยงเจ้าหนูคนนี้ไปก่อนแล้วกันนะครับ!"
เขมราชพูดดี แต่ค่อยๆประคองส่งเจ้าหมูน้อยตัวหนักไปให้คุณหญิง ไม่อยากจะอุ้มนานเพราะยังไงสะก็ไม่ได้ชอบเด็กขนาดนั้น
"อย่าให้แม่ซ้อมนานนักหล่ะ!"
ถึงท่านจะรู้ใจว่าเขมราชกำลังเปลี่ยนเรื่องไม่ยอมซ้อมเลี้ยงเด็ก กลับกันยังส่งกลับคืนมาอย่างเเนบเนียนอีกด้วย คุณหญิงก็ถอนหายใจพรืดยาวไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
"แม่เห็นข่าวในทีวีว่าคีรินทร์เพื่อนรักของลูกได้ลูกแฝดนี่ใช่ไหม ลูกสนใจทำลูกแฝดหรือเปล่าหล่ะเขม?" คุณหญิงยังไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง
ส่วนคีรินทร์เพื่อนรักของเขมราช กลายเป็นคนดังไปแล้วเพราะได้เมียเป็นดาราแถมเจ้าตัวก็รวยระเบิดระเบ้อ ทำธุรกิจเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์นั่นเอง เขมราชไม่ได้นึกใส่ใจหรืออิจฉาเพื่อนรักเลยสักนิดที่มีลูกก่อน
อันที่จริงน้ำหวานและเขมราชก็มีนิสัยที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเหมือนกัน ส่วนที่เขาจะไปเร่งเธอนั้นก็เพราะคุณหญิงขจีเลยคนเดียว เรื่องแต่งงาน สร้างครอบครัวหน่ะ....
แต่พอมาคิดดูอีกที เขมราชก็สองจิตสองใจอยู่บ้าง เพราะอายุอานามและไหนจะความสวยที่เสน่ห์เกินต้านของแฟนสาว เขากลัวว่าจะมีฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามาแหย๋มเธอนะสิ ความคิดจึงคล้ายๆเอนอ่อนไปทางมารดาของเขาแล้วในตอนนี้
"ผมขอปรึกษาน้ำหวานก่อนนะครับ คุณแม่ก็ทำใจให้สบายๆ ผ่อนคลายนะครับ!"
คุณหญิงหน้ายู้ในทันทีเมื่อคล้ายกับกำลังโดนลูกชายตำหนิ
"โบตั๋นว่ายัยหนูคงหิวนมแล้วนะคะคุณท่าน!"
แม่ลูกอ่อนคอยชะเง้อมองลูกน้อยที่กำลังให้ความสนใจไปที่นิ้วก้อยของคนอุ้ม มองอย่างหิวโหยน้ำลายยืดตามประสา
"กินเก่งเกินไปแล้วนะเด็กอ้วนคนนี้ ทีหลังเอาขวดนมมาด้วยนะฉันอยากเล่นกับยัยหนูนานๆ!"
"ค่ะคุณท่าน!"
"ผ้าพันคอที่เธอเลือกสวยมากๆ ฉันชอบในรสนิยมการเลือกของของเธอที่รู้ใจฉัน คงได้ใช้ผืนของเธอยาวๆเลยหล่ะเพราะแมทช์ได้ทุกชุด ขอบใจเธอมากนะ" ก่อนจะไปคุณหญิงก็ขอเอ่ยชื่นชมโบตั๋นก่อน
"ค่ะคุณท่าน แต่โบตั๋นว่ารสนิยมของดีไซน์เนอร์แฟนของคุณเขมจะดีว่าคนธรรมดาๆอย่างโบตั๋นนะคะ!"
"จริงด้วยครับคุณแม่ ที่โบตั๋นพูดนั้นถูกต้องเลย น้ำหวานเธอเก่งมากๆเลยนะครับ รู้ใจผม ชอบเลือกชุดให้กับผมจนผมมีรสนิยมขึ้นมาหน่อย เอาไว้วันที่ผมพาเธอมา วันนั้นคุณแม่คงคุยกันถูกคอกับเธอแน่ๆ!"
เขมราชรีบเสริมเมื่อสาวใช้เปิดทางให้ได้เอ่ยชื่นชมแฟนสาวของเขา เขาคิดในใจว่าเด็กคนนี้ก็ชั่งพูด หัวไวในการสนทนาไม่เหมือนใครดี....
"อันที่จริงแล้วแม่ก็ชอบอะไรเรียบๆง่ายๆนะ แต่เอาเถอะ แม่จะรอวันนั้นนะ!"
คุณหญิงก็ยังคงว่าเหน็บแนม ส่งยิ้มหวานๆให้กับลูกชาย
"...."
โบตั๋นที่นั่งมองทั้งคู่ก็รู้สึกว่าสองคนแม่ลูกก็แสบใช่เล่นเหมือนกัน และหากคุณหญิงไม่ชอบไม่พอใจใครแล้ว ก็ยากที่จะเปิดใจ หากไม่ชอบในตัวแฟนสาวของเขมราชขึ้นมาหล่ะก็ เขาซวยแน่....
"โบตั๋นขอตัวก่อนนะคะคุณท่าน คุณเขม"
"อื้มจ่ะ!"
..................
.................................
เที่ยงวันเป็นเวลาที่แม่ครัวต่างก็ยุ่งอยู่กับการจัดโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเที่ยงที่เขมราชกลับมาบ้านทั้งทีนั้นก็จะมีแต่ของโปรดเสริฟขึ้นโต๊ะทั้งนั้น จนโบตั๋นก็เป็นแม่ครัวใหญ่และแม่ของเธอก็อาสาเลี้ยงยัยหนูให้
"โบตั๋น แม่ว่ายัยหนูไม่ได้ถ่ายปกติแล้วหล่ะตัวร้อนขนาดนี้!"
เดิมทีแล้วเด็กทารกจะถ่ายบ่อยอยู่แล้ว แต่อาการตัวร้อนที่ตามมานั้นคงไม่ใช่
"อะไรนะแม่ ไหนมาดูสิ!"
โบตั๋นรีบล้างมือที่ซิงค์ให้สะอาด เช็ดมือให้แห้งแล้วอังมือที่ตัวของลูกสาวในทันที เธอรู้ว่ามือที่ล้างมาจะเย็น แต่ยังไงสะแม่ของเธอก็ยืนยันแล้วว่ายัยหนูตัวร้อนจริงๆ
และโบตั๋นก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุจากตัวนิ่มๆของลูก
"ฉันจะพาลูกไปหาหมอ แม่ช่วยทางนี้ต่อทีนะจ๊ะ!"
"เออๆไปเถอะ!"
.................
.............................
@โรงพยาบาล
"จากที่หมอตรวจดูอาการเรียบร้อยแล้วเด็กกำลังท้องเสียจากเชื้อไวรัส โรคนี้เกิดจากการที่มีเชื้อไวรัสเข้ามาทางปากโดยตรงนะครับ!"
คุณหมอยังหนุ่มเอ่ยบอกกับแม่ลูกอ่อนที่ยืนรอฟังอย่างน้ำตาคลอเบ้าตรงหน้า
"อาการทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีไข้ หากมีอาการรุนแรงถ่ายเหลวมากๆ จะเกิดการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทำให้ช็อก อาจเสียชีวิตได้เลยนะครับ แต่ตอนนี้เด็กพ้นขีดอันตรายแล้วครับคุณแม่"
"ขอบคุณนะคะคุณหมอ ฮึก!ขอบคุณจริงๆค่ะ!"
แทบล้มทั้งยืน เพราะจากที่ฟังจากที่คุณหมอบอกมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา นี่หากพาหนูใบหม่อนมาไม่ทันป่านนี้ลูกเธอจะเป็นอย่างไร
มือเรียวได้แต่ยกขึ้นมาไหว้ขอบคุณคุณหมออย่างสะเทือนใจอยู่อย่างนั้น น้ำตาไหลอาบสองแก้ม หัวอกของคนเป็นแม่ทรมานทุกครั้ง เมื่อยามลูกเจ็บแสบปวดร้อนไม่สบายอะไรนิดๆหน่อยเธอก็แทบคลั่งแล้ว
แต่นี่มีเชื้อไวรัสที่ไม่รู้มาจากไหนทำให้ลูกสาวของเธอต้องเป็นแบบนี้อีก
"ยังไงรอดูอาการสักคืนก่อนนะครับค่อยกลับไปรักษาตัวที่บ้าน!"
"ค่ะๆคุณหมอ!"