[5] หัดอุ้มเด็ก
"อย่าตบแรงสิแม่ เดี๋ยวก็ได้พังกันพอดี!"
"ก็มันของขึ้นนี่ ไอ่ตอนสำคัญๆเวลาพระเอกนางเอกจูบกันก็เป็นอยู่เรื่อย เอ็งจะไม่ให้แม่โมโหได้ยังไงหล่ะ!!!"
ปึกก!!! ปึก!
ยังคงตบไม่หยุด
"แต่แม่ก็เลือกที่จะใช้ทีวีเครื่องเก่าเนี้ยนะ?"
โบตั๋นเอียงคอถาม ในมือถือขวดนมที่ถูกปั๊มนมใส่มาถึงครึ่งขวดจนเสร็จสรรพแล้วยัดเข้าปากเล็กของเด็กน้อยที่นอนมองตาแป๋วแหวว เวลาสี่ทุ่มแม่เธอยังดูละครอยู่เลย แค่ฝากหนูใบหม่อนไว้แป๊ปเดียวก็แทนที่จะลดเสียงเบาๆหน่อยกลับทึ่งทีวีเสียงดังสะนี่ แม่นะแม่
"โบตั๋น ไอ่อะไรนะ ผัวเอ็งหน่ะมันขับแท็คซี่มาจอดคอยเอ็งอยู่หน้ารั้วตั้งพักนึงนะวันนี้ สงสัยคงมาง้อขอคืนดีเอ็งแล้วหล่ะ จะเอายังไงต่อหล่ะ!"
ดวงใจเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าพ่อตาหนูมา ถอนหายใจพรืดยาวตามมาเมื่อรู้สึกได้ว่าแม่ยายอย่างตนจะเชียร์ให้ลูกสาวไปใช้ชีวิตครอบครัวให้พร้อมหน้า หรือเชียร์ให้ออกจากขุมนรกดี ดวงใจกำลังสับสนแทนโบตั๋นไปแล้ว มือหยาบยกขึ้นมากุมขมับทันที
"พี่กบแม่ เขาชื่อพี่กบ" โบตั๋นบอกกับแม่เเละเเม่ก็ไม่เคยรู้จักชื่อและเคยเห็นหน้าคร่าตาเขาเลยสักครั้ง
"มันระหองระแหงเกินไป แม่ว่าไปกันไม่รอดก็อย่าฝืนเลยนะ!"
"ฉันก็ไม่ได้อยากจะคืนดีกับเขาสะหน่อย!"
สองแขนอุ้มลูกขึ้นมาจากเปลอย่างทำหน้าไปตามความรู้สึกโจม เพียงแค่สองเดือนก็โตเกินอายุจริงๆเลยนะใบหม่อนเด็กอ้วน โบตั๋นคาดโทษให้ลูกสาวในใจ
"แม่จะไม่ยุ่งแล้วกัน!"
โบตั๋นอุ้มลูกไปที่ห้องนอนของเธอ วางเด็กน้อยลงที่เตียงฝั่งที่ติดกับผนังห้อง ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆลูกน้อยไปอย่างหวงแหน ด้วยความรัก ถึงแม้ว่าลูกจะเกิดมาจากความรักของเธอเพียงฝ่ายเดียว
เขาก็คือก้อนเนื้อที่บริสุทธิ์ เป็นผ้าขาว เขาไม่ผิดอะไร เธอรักหนูใบหม่อนมากยิ่งกว่าชีวิต ให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
.
.
เช้าวันใหม่สองแม่ลูกยิ้มร่าสดใส เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะจากเด็กน้อยดังลั่น ยิ้มโชว์เหงือกสีชมพูระเรื่อ หนูใบหม่อนมีลักยิ้มเหมือนกับผู้เป็นแม่
โบตั๋นแกล้งลูกโดยเอาจมูกโด่งไปเขี่ยแก้มนุ่มๆให้จักกะจี้ แล้วไหนจะเอ่ยชมเด็กน้อยที่หัดจับขวดนมอย่างเก้ๆกังๆ
"เก่งจังเลยนะเราตัวแค่นี้!"
ฟอดดด!!!!!
ในช่วงเช้าโบตั๋นยังคงอยู่กับลูกน้อยจะช่วยงานในครัวก็ตอนสายๆใกล้เที่ยงและอันที่จริงคุณหญิงท่านบอกว่าให้โบตั๋นอยู่เลี้ยงลูกไปก่อน หากไม่มีเวลาว่างก็ไม่ต้องมาช่วยงาน เพราะสาวใช้ของบ้านนี้มีมากโขแทบจะเดินเบียดกัน
แต่คุณหญิงก็รับคนรับใช้เอาไว้จำนวนมากเพราะเป็นคนมีเมตตาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ป้อนงานให้ทำ มีเงิน มีข้าวกิน อยู่ฟรีกินฟรี บ้านพักก็แยกเป็นหลังๆทำห้องหับให้อย่างดิบดี
Hrrrrrr!!!!
"ใครโทรมานะ"
จู่ๆเสียงจากมือถือก็ดังขึ้นมามีคนโทรเข้าและก็อยู่ข้างลำตัวพอดี โบตั๋นกดรับเพราะเบอร์ที่โชว์คือคนที่คิดถึงเอามากๆ
"เป็นยังไงบ้างโบตั๋น เธอคลอดลูกแล้วใช่ไหมตอนนี้?"
เสียงจากปลายสายแว่วมานั่นคืออะตอม เพื่อนรักของเธอที่เป็นลูกคนไฮโซ เธอได้เรียนโรงเรียนมัธยมปลายดีๆเพราะคุณหญิงบังคับนั่นเอง และนี่เธอก็เกรงใจมากแล้ว จะให้เรียนต่อปริญญาตรีด้วยเงินจากท่านก็นึกเกรงใจอยู่มาก
"คลอดน้องใบหม่อนมาสองเดือนแล้วนะอะตอม เธอหายไปไหนมาตั้งนานโครตคิดถึงเลย!"
เพื่อนรักของเธอหายเข้ากริบเมฆไปประมาณเกือบครึ่งปีได้ หลังจากที่พักหลังๆแชทคุยกันและโทรคุยเพียงเท่านั้น อะตอมรู้ว่าเธอตั้งท้องได้สองเดือนในตอนนั้น
"โทษทีนะโบตั๋นที่เรียนจบมัธยมปลายก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่อกลับไปเลย ฉันก็โครตคิดถึงเธอเหมือนกัน แต่ว่าฉันเรียนหนักมาก ฉันกำลังต่อโทอยู่หน่ะ แล้วก็วันนี้ย้ายจากรัฐหนึ่งมาอีกรัฐหนึ่ง มาอยู่บ้านพี่สาวคนละแม่หน่ะ ที่กัดกันอย่างกับหมามานาน เพิ่งจะดีกันก็ตอนที่คุณพ่อเสียนี่เอง!"
ร่ายยาวอย่างไม่หยุดหายใจตามแบบฉบับของคนชั่งพูด โบตั๋นยกยิ้มให้กับปลายสาย พอนึกถึงใบหน้าของอะตอมก็อยากจะขำ เวลานางไล่ยาวอะไรละก็....
"อ๋อๆ ดีใจด้วยนะเธอเก่งจัง ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเธอเฉยเลยขนาดยังไม่จบเอกนะนั่น!" โบตั๋นเอ่ยแซวว่าที่ดอกเตอร์ เป้าหมายในชีวิตของอะตอม
"ฮ่าฮ่าฮ่า! ขอบใจนะโบตั๋น เธอเคยดียังไงก็ดีสม่ำเสมอจริงๆ คิดถึงเธอสุดๆไปเลย เอาไว้ฉันกลับไทยสิ้นเดือนพร้อมกับพี่สาวจะแวะไปหานะยัยคุณแม่ลูกอ่อน!"
"กลับมาเยี่ยมเอาของฝากมาด้วยหล่ะ โทษฐานที่ไม่เจียดเวลาและหายไปนาน ขอเป็นช็อกโกแลตแพงๆสักกล่องก็พอ!"
"ได้สิเพื่อนรัก เดี๋ยวสันหาช็อกโกแลตดังๆไปให้ชิมเล่น!"
"แอ้!!!!"
"ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะอยากได้ของขวัญด้วยนะนั่น!"
"ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ!"
ทั้งสองหัวเราะลั่น ไม่นานก็วางสายเพราะต่างฝ่ายต่างมีเวลาน้อย อีกอย่างเวลาของคนละซีกโลกก็ไม่เท่ากันอีกด้วย
และโบตั๋นก็ได้ทราบว่าอะตอมจะอาศัยอยู่กับพี่สาวของเธอตลอดจนจบปริญญาโท จากนั้นก็ยังไม่ทราบชะตากรรม และที่ต้องแยกออกมานั้นเพราะพี่สาวนางหมั้นและกำลังได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว
กลับมาให้ความสนใจเด็กอ้วนที่กินนมเก่งตรงหน้า โบตั๋นอุ้มลูกขึ้นมาหอมแล้วกระเตงลูกเดินเข้าไปในครัวเพื่อไปหายายและหวังผลัดเวรช่วยแม่ของเธอ
"แม่เหนื่อยก็บอกหนูนะ มานั่งอุ้มหลานนี่มา!"
"นังหนูมีคนอยากอุ้มแล้วหล่ะ คุณหญิงรออยู่ที่ห้องรับแขกโน่น!"
"อ้าวเหรอ!!!"
"คุณเขมก็อยู่ด้วยนะ ไปพร้อมกันตอนนี้เลยโบตั๋นฉันจะไปเสริฟกาแฟอยู่พอดี ฉันหน่ะมีเธอไปเป็นเพื่อนก็จะอุ่นใจ เพราะสายตาของคุณเขมดุอย่างกับอะไรดี"
องุ่นแสดงใบหน้าขยาดกลัว เธอเป็นสาวใช้ที่มีใบหน้าคร่าตาสะสวยอีกคนของบ้านนี้ แต่กลับไม่ชอบเขมราช เพราะเขานั่นมาดนิ่งสะจนเยือกเย็น เข้าถึงยากสุดๆ
"อื้ม....ไปสิ!"
...............
...........................
"นี่มีแต่ของหวานๆหรือไง ฉันก็เป็นเบาหวานนะเผื่อเธอลืมหน่ะองุ่น เธอเอากาแฟกับขนมมาให้ตาเขม ฉันก็นั่งกลืนน้ำลายไปเถอะ! ขอผลไม้หน่อยแล้วกัน!!"
คุณหญิงเห็นคุ้กกี้ก็ตาลุกวาวท่านก็เอ่ยตำหนิองุ่นอย่างไม่จริงจังนัก กลับกันแบบนี้แล้วสร้างความสนิทสนมกับสาวใช้ได้อีกด้วย
"กลับตอนเย็นเถอะนะลูก มื้อเที่ยงอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน" ท่านหันมาให้ความสนใจอ้อนวอนเขมราชต่อ ที่บอกว่าจะกลับเข้าไปในเมืองในตอนเที่ยงวัน
"สักบ่าย2เต็มที่แล้วครับคุณแม่ ผมต้องเข้าไปดูบ้านอีก เห็นว่ามีปัญหาตรงติดฝ้านิดหน่อย!"
"อื้มๆจ่ะ"
โบตั๋นไม่ได้เดินตามองุ่นมาติดๆหรอก เพราะเมื่อครู่หนูน้อยอึกลัวจะส่งกลิ่นเหม็น จึงกลับไปเปลี่ยนก่อน
"แอ้!!!! เอิ้ก!"
"อ้าวมาแล้วเหรอโบตั๋น" ยิ้มร่าทันทีเมื่อเจอกับหนูน้อยใบหม่อน
"หนูใบหม่อนจะไม่รบกวนคุณท่านกับคุณเขมจริงๆใช่ไหมคะ?"
โบตั๋นย้ำถามในขณะที่นั่งลงตรงพรมวางลูกไว้ที่ตักในท่าที่พาลูกหันหน้าออก น้ำลายใสๆกำลังไหลอาบมือของผู้เป็นแม่ โบตั๋นจึงเอื้อมเอาผ้าที่พาดไหล่มาเช็ดให้กับคนน้ำลายยืด
"รบกวนอะไร นี่ฉันจะถือวิสาสะให้ตาเขมทำความคุ้นชินกับเด็กนะ ขออนุญาตเธอตอนนี้เลยแล้วกัน!" ท่านเอื้อมตัวมาอุ้มแล้วโบตั๋นก็อุ้มลูกส่งไปให้ด้วยความสงสัยงุนงง
"มานี่ตาเขมมาหัดอุ้ม" คุณหญิงกวักมือเรียกยิกๆ
"ผมไม่ชอบเด็กนะครับ ผมอุ้มไม่ได้หรอก"
"ไม่ชอบแล้วจะมีลูกได้ยังไงหล่ะตาเขมก็....!"
"ก็ให้น้ำหวานจัดการเรื่องลูกทั้งหมด แค่นั้นก็จบแล้วไงครับคุณแม่" เขายังคงปฏิเสธอย่างไม่ยอมขยับตัวไปไหน