ตอนที่ 3 หาใครสักคนมาดูแล
คริสเดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือ
"คุณพ่อ คุณแม่ครับ ผมกลับมาแล้ว" คริสยื่นกระเป๋าเอกสารให้กับสาวใช้ในบ้านก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ภายในห้องรับแขก
"พี่ชายเรากลับมาตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้ว" คุณแม่บอก
"ครับ พี่คัพบอกว่าปวดหัว แล้วก็โยนงานมาให้ผมทำเต็มไปหมด นี่ผมเอากลับมาทำที่บ้านต่อด้วยนะครับ"
"ถ้ามันไม่ได้ด่วนอะไรก็เอาไว้ค่อยทำก็ได้ลูก" คุณแม่ลูบหัวลูกชายคนกลางอย่างรู้สึกเป็นห่วง
คนเป็นพ่อแม่ระวางมือจากการทำงานได้หลายปี มอบหมายงานทุกอย่างให้ลูกชายคนโตและคนกลางเป็นคนดูแลโรงพยาบาลแห่งนี้แทน ส่วนลูกสาวคนเล็กอีกคนตอนนี้เธอแต่งงานมีครอบครัวไปได้สักพักแล้ว
"ทำให้เสร็จๆ ทีเดียวเลยดีกว่าครับ ไม่อยากค้างเอาไว้เป็นดินพอกหางหมู"
"อย่าหักโหมมากนักล่ะ ดูสิสภาพลูกวันนี้ดูอิดโรยมากนะ ได้ทานข้าวบ้างไหม หืม"
"ทานครับ หน้าผมมันอิดโรยขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณแม่ ผมคงใช้สายตาดูเอกสารมากไปหน่อย ไม่ค่อยได้ลุกยืดเส้นยืดสายเท่าไหร่ พรุ่งนี้ผมก็มีเคสผ่าตัดด้วย"
"งั้นเอกสารก็เอาไว้ทำทีหลังเถอะ พักผ่อนก่อนนะลูก"
"อีกนิดก็จะเสร็จแล้วครับ เคสผ่าตัดมีช่วงบ่าย คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง"
"เอาเถอะๆ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วย"
"ลูกชายสองคนนี้เหมือนกันจริงๆ ทั้งเรื่องงานและนิสัย จะต่างกันแค่เจ้าคริสไม่เป็นคนเผด็จการเหมือนอย่างตาคัพ รายนั้นเกินกว่าจะกู่กลับ" คุณพ่อบ่นอุบลูกชายคนโต
"ไปพักเถอะลูก นี่ก็จวนจะสามทุ่มแล้ว"
"ครับคุณแม่"
หลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่เขามารับหน้าที่ในตำแหน่งรองประธานควบคู่กับการเป็นคุณหมอ คริสและพี่ชายคนโตแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย พี่น้องสองคนเอาแต่ทำงาน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาและพี่ชายยังจะพอมีเวลาไปรับไปส่งน้องสาวไปมหาวิทยาลัยได้ แต่ตอนนี้เรื่องน้องสาวของเขาก็หมดห่วง เพราะเธอมีผู้ชายที่พร้อมจะดูแลแทนพี่ๆ ไปตลอดชีวิตและได้แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อย
แล้วอย่าถามถึงเขากับพี่ชายล่ะว่าทำไมถึงไม่มีแฟนหรือแต่งงานสักที ทั้งที่น้องสาวคนเล็กแซงหน้าคนเป็นพี่ชายไปก่อนแล้ว แถมยังมีลูกแฝดน้อยๆ มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ
ถ้าวันไหนว่างจากการทำงานคริสกับพี่ชายก็จะแวะไปเยี่ยมเยียนน้องสาวกับหลานๆ อีกสองคน แต่ช่วงหลังมานี้งานที่โรงพยาบาลก็ล้นมือ ไหนจะต้องรับบทเป็นคุณหมออีก แทบจะไม่มีเวลาได้ไปไหนนอกจากบ้านและโรงพยาบาล
ดีที่โรงพยาบาลกับบ้านของเขาอยู่ไม่ไกลนัก ใช้เวลาขับรถประมาณยี่สิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่ถ้ารถติดล่ะก็ บอกเลยว่าเกือบๆ สองชั่วโมงได้
ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนพักสายตาลงบนเตียงกว้างภายในห้องนอนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
วันนี้เขาใช้สายตามากเกินไปจริงๆ ถึงได้รู้สึกล้าแบบนี้ เขาขอเวลาพักสายตาสักสิบนาทีก่อนที่จะลุกขึ้นมาดูเอกสารต่ออีกสักหน่อยเพราะใกล้จะเสร็จแล้ว
ในระหว่างที่คริสกำลังดูเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องทำงานที่อยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ ภาพใบหน้าของเด็กสาวก็ฉายขึ้นมาอยู่บนเอกสารแผ่นสีขาวที่มีตัวอักษรเต็มแผ่นหน้ากระดาษ
"อะไรกัน" คิ้วหนาขมวดเพ่งมองกระดาษแล้วหยิบขึ้นมาพลิกหน้าหลัง
แว่นตากรองแสงที่ถูกสวมใส่ถูกเขาถอดออกแล้ววางบนโต๊ะ "ตาฝาด" เขาส่ายหัว
เอกสารวันนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน จู่ๆ เขาเห็นภาพเด็กมอมแมมคนนั้นขึ้นมาได้ยังไง มันไม่น่าเป็นไปได้เลยสักนิด คริสเพิ่งจะเคยเจอเธอเป็นครั้งแรก แต่กลับมีภาพจำใบหน้าของเธอขึ้นมาทั้งที่ตัวเขาไม่เคยมีความคิดเรื่องผู้หญิงมาก่อนนอกจากเรื่องงานเท่านั้น
วันนี้คงจะเหนื่อยมาก สมองเขาคงทำงานหนักเกินไป ถึงเวลาควรที่จะต้องพักผ่อนได้แล้วเสียที พรุ่งนี้มีเคสผ่าตัดของแขกวีไอพีด้วย ใช้เวลาผ่าตัดก็ร่วมหลายชั่วโมง
ดวงตาคมเคลื่อนสายตามองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน "เที่ยงคืนกว่าแล้วเหรอ"
ร่างหนาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเคลื่อนย้ายตัวเองขึ้นไปบนที่นอนกว้างแล้วเอนตัวลงนอนก่อนที่จะคล้อยหลับในทันทีที่ศีรษะลงหมอน
เหนื่อยมากจริงๆ
ช่วงสายของวันต่อมาในบ้านทวีพัฒนา คริสตื่นขึ้นมาในเวลาเก้าโมง ความจริงเขาตั้งใจจะตื่นแปดโมงด้วยซ้ำ แต่คงเพราะเหนื่อยมากทำให้เขาตื่นช้ากว่าที่ตั้งใจไปหนึ่งชั่วโมง
"ตื่นสายเหรอเรา" พี่ชายคนโตเอ่ยทักเมื่อเห็นน้องชายเดินเข้ามาในห้องอาหาร
"ครับ" เขาตอบกลับพี่ชายเพียงคำสั้นๆ
"เราสองคนหาเวลาพักผ่อนบ้างนะลูก" คนเป็นแม่อดห่วงลูกชายทั้งสองไม่ได้ บ้างานกันเสียจริง
"นั่นสิ หรือไม่ก็หาใครสักคนมาดูแล น้องสาวเราแซงหน้าไปหลายโข มีหลานให้พ่อกับแม่อุ้มไปแล้ว แล้วเราสองคนล่ะเมื่อไหร่" คุณพ่อถาม ด้วยอายุลูกชายของทั้งสองคนก็เลขสามเข้าไปแล้ว ก็ควรที่จะมีคนดูแลข้างกายสักที ไม่ใช่วันๆ เอาแต่โหมงานหนักอยู่แบบนี้
"ผมกับพี่คัพมีความสุขดีครับ ดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแล"
"จริงครับ คุณพ่อ" พี่ชายคนโตเอ่ยสมทบ
"แล้วเด็กที่ชื่อตีน่า พี่สาวแฟนน้องสาวเราล่ะ ไม่สนเหรอตาคัพได้ข่าวว่า..."
"ผมขอตัว" พี่ใหญ่ของบ้านทวีพัฒนาลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินออกจากห้องอาหารด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่อยากให้ทุกคนพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อตีน่า
เขาไม่ได้ชอบเธอ
แต่เธอนั่นแหละ...ที่เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตของเขา
"ที่คุณพ่อพูดก็เก็บเอาไปคิดหน่อยก็ดี แม่เองก็อยากให้เรามีคนดีๆ ดูแลข้างกาย ไม่อยากเห็นลูกชายแม่อยู่อย่างโดดเดี่ยว" คุณแม่พูดด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่อยากออกคำสั่งหรือบังคับลูก
คริสถอนหายใจ "ครับ ผมจะเก็บไว้พิจารณา แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากจะมีใคร ยังอยู่สุขสบายอยู่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ได้อีกนาน"
"จ่ะ ทานข้าวก่อนนะลูก แล้วค่อยตามพี่ชายจอมเผด็จการของเราไป"
"ครับ"
°°°°°°°°°