สาวน้อยร้อยรัก

20.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
17
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันพลิกชีวิตสัญญาทางรักอุ้มบุญแก้แค้นโรงแรม/มหาลัยพระเอกเก่งคนธรรมดา

บทที่ 1

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ

หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ

เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น

ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล

และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา

อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ

……….

นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา

ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์

ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง

ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง

*เราเตือนท่านแล้ว

สาวน้อยร้อยสามี

กรุงเทพฯ มหานคร

“เอ็งแน่ใจนะ… ว่างานมันไม่อันตราย”

ขณะกำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน ‘ฟ้าใส’ ผู้เป็นลูกสาว หลังจากได้รู้ว่าหล่อนตัดสินใจจะไปทำงานกับชายคนหนึ่งที่ภาคใต้

“ปลอดภัยจ้ะแม่… ไม่ต้องห่วง… ”

ฟ้าใสตอบให้มารดาสบายใจ และในระหว่างที่กำลังนั่งคุยกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีแสงประหลาดสว่างวาบเป็นทางยาวพาดผ่านท้องฟ้า

“อุ๊ย… ดาวตก… ”

ฟ้าใสอุทาน จากนั้นรีบหลับตาประสานมือสองข้างไว้ที่อก… ตั้งจิตอธิษฐานตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ

ประกายแสงวาบวับจับท้องฟ้าเมื่อครู่หายไปแล้ว แต่ฟ้าใสยังหลับตา พึมพำคำอธิษฐานซ้ำๆ อยู่ในใจ โดยหารู้ไม่ว่าระยะเวลาที่แสงดาวปรากฏแค่เพียงเสี้ยววินาที กำลังจะบันดาลพรให้หล่อนได้บรรลุผลตามที่หวัง

“นังฟ้า… เอ็งขอพรอะไรวะ… อธิษฐานนานจัง… ”

ยุพินถามขึ้นด้วยความสงสัย เห็นลูกสาวไหว้นาน ตั้งอกตั้งใจเอาจริงจังเหลือเกิน

“หนูอธิษฐานว่าชาตินี้ขอให้ได้มีผัวสักร้อยคนจ้ะแม่… ”

ฟ้าใสตอบอย่างนึกสนุก

“ห๊ะ… นังฟ้า… นี่เอ็งบ้าไปแล้วหรือ… นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เอ็งจะเอามาพูดเล่นๆ นะ… ”

ยุพินยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ ด้วยหล่อนเป็นคนที่มีความเชื่อในทางนี้มาแต่ดั้งแต่เดิม

“ทำไมล่ะจ๊ะแม่”

คำพูดของมารดาทำเอาสาวน้อยตกใจ ก่อนที่ยุพินจะอธิบายต่อว่าการโคจรของดวงดาวบนท้องฟ้าจะมีอิทธิพลกับเจ้าชะตาผู้ขอพร

และยังเชื่อกันว่าเหตุการณ์ดาวตกที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะว่ามีวิญญาณกำลังจะมาจุติบนโลกมนุษย์ ผู้ใดขอพรจะได้สมประสงค์

“เอ็งไม่ควรขออะไรพิเรนทร์แบบนั้น… ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่… คิดได้ยังไงวะ อยากมีผัวร้อยคน?”

“ไม่ทันแล้วละแม่… แต่หนูว่าแม่อย่าเป็นกังวลไปเลยนะจ๊ะ… ลืมหรือไงว่านี่มันยุค 5จี แล้วนะจ๊ะ”

ฟ้าใสกล่าวอย่างไม่กลัวเกรง

“เอ็งไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่”

นางยุพินว่า นั่งคุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ก็แยกย้ายกันเข้าห้องนอน

วันต่อมา

ตอนเช้าตรู่ ฟ้าใสทอดสายตามองมารดาที่กำลังนั่งเตรียมของไปขายในตลาดเช้า ทำแกงถุงขาย คืออาชีพดั้งเดิมที่ยุพินทำเลี้ยงครอบครัวมานาน หลังจากต้องเป็นม่ายมานานหลายปี ด้วยสามีของหล่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีผ่านมา

ทุกวันนี้ยุพินต้องเลี้ยงดูลูกสาวเพียงลำพัง ส่งให้เรียนหนังสือจนกระทั่งฟ้าใสจบชั้นมอหก อยู่ในระหว่างกำลังตัดสินใจว่าจะเรียนต่อหรือไม่

ยุพินอยากให้ฟ้าใสเรียนต่อปริญญาตรี แต่เท่าที่เห็นดูเหมือนว่าฟ้าใสอยากหางานทำก่อน

เรื่องเรียนต่อปริญญาฯ จึงกลายเป็นแผนการของอนาคต ด้วยหล่อนคิดว่าถ้าหาเงินได้ ถ้ามีงานทำแล้วค่อยเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเปิดจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้มารดาส่งเสีย

“แม้จ๋า… หนูมีข่าวดีจะบอก”

เสียงตะโกนพร้อมกับใบหน้าชะโงกผ่านประตูห้องครัวเข้ามา เห็นมารดากำลังทำกับข้าว

“ข่าวดีอะไรของเอ็งวะ”

“หนูได้งานแล้ว”

“งานอะไร”

“ดูแลร้านนวดจ้ะแม่”

ฟ้าใสกล่าว จากนั้นก็เล่าให้นางยุพินฟังว่าเป็นงานที่หล่อนติดต่อผ่านผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักกันทางเฟสบุ๊คเมื่อเดือนก่อน เมื่อเช้าเขาชักชวนให้หล่อนไปทำงานที่ร้านนวด

“เอ่อ… นวด… นวดแบบไหนวะ ฟังดูแปลกๆ”

ยุพินนึกห่วงลูกสาว

“นวดแผนโบราณจ้ะแม่”

ฟ้าใสตอบ

“แน่ใจนะว่ามันจะไม่หลอกเอ็งไปขายตัว แล้วเอ็งก็ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ทำไมมันไว้ใจให้เอ็งไปดูแลร้านนวด”

หัวคิ้วของยุพินชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย

“โถ… อย่ามองโลกในแง่ร้ายสิจ๊ะ… ลุงพงษ์แกมีธุรกิจหลายอย่างอยู่ทางใต้จ้ะ… มีทั้งบาร์ ทั้งร้านสนุ๊กเกอร์ มีร้านอาหาร แล้วก็ยังทำธุรกิจเรือเช่าด้วยนะแม่”

ฟ้าใสเผลอเอ่ยชื่อชายที่แอบคุยกันทางเฟสมาพักใหญ่ๆ

“เสี่ยพงษ์… ใครวะ… อย่าบอกนะว่าแฟนมึง”

“จ้ะ… จะเรียกว่าแฟนก็ได้ ก็คุยกันมาพักนึกแล้ว… เค้าขอหนูแต่งงานด้วยนะ… ”