ตอนที่ 3 บรรลุขั้น
หลังจากหลี่เซียวเหอบรรลุขั้นแรกด้วยพลังสีฟ้าอันเข้มข้น นางต้องนั่งรวบรวมพลังวิณญาณเพื่อสร้างรากฐาน
รากฐาน คือ ฐานพลังของแต่ล่ะคน ซึ่งมีสีต่างตามพลังที่ได้รับมานั่นเอง หากรากฐานแข็งแกร่ง พลังก็จะรุนแรงตามไปด้วย
หลี่หลงเทียนได้ออกจากห้องมาและบอกทหารที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าบางเข้าห้องบ่มเพาะคนหนึ่งไปเชิญหัวหน้าตระกูลมาอย่างเร่งด่วน!
ตรงหน้าประตูบ่มเพาะซึ่งมีทหารยามเฝ้าอยู่ด้านหน้าสองคน ตามปกติแล้วจะมีหัวหน้าทหารหรือรองหัวหน้าทหารมาคอยเฝ้าด้วย แต่ทว่าเซียวเหอนางไม่เคยสำเร็จขั้นแรกเลยสักครั้งนางจึงถูกปล่อยปะละเลยจากหัวหน้าทหารไป
“หลงเทียนเจ้าเรียกพ่อมาทำไมมีอะไรงั้นรึ” เมื่อห่าวเทียนเดินเข้ามาในห้องบ่มเพาะจึงเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ท่านพ่อมาดูเองเถิดขอรับ” หลงเทียนใช้มือเชื้อเชิญบิดาและเดินนำไปยังห้องบ่มเพาะขนาดกลาง
ห้องบ่มเพาะมีทั้งหมด 5 ห้องด้วยกัน ห้องใหญ่ 4 ห้องส่วนห้องขนาดกลางเป็นของเซียวเหอนั่นเอง
“ทำไมเจ้าต้องอ้ำอึ้งด้วยมีความลับอะไรนักหนากัน”
“ดูนี่เถิดท่านพ่อ”
เมื่อเปิดประตูห้องขนาดกลางก็เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักกำลังบีบอัดรากฐานอยู่ ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือพลังออร่าโดยรอบตัวนางนั่นเป็นสีฟ้า
“นั่น! ...นั่นมันสีฟ้านิ”
เขาตกใจเป็นอย่างมากสีฟ้าเข้มข้นอย่างงั้นรึมิน่าบุตรชายถึงได้ไม่พูดจา
“เจ้า! ...เร็วเข้ารีบไปเชิญอาจารย์ปู่และท่านปู่มาบัดเดี๋ยวนี้” ห่าวส่งเสียงดังด้วยอาการตื่นเต้น
“เอะอะอะไรกัน ข้าอายุป่านนี้แล้วยังต้องเรียกข้ามาด้วยงั้นรึ” ท่านปู่กล่าวพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้ามาห้อขนาดกลาง
“ท่านพ่อ...ท่านดูเถิด”
ห่าวเทียนพ่ายมือไปทางลูกสาวที่รวบรวมบีบอัดพลังออร่าอยู่ด้วยมืออันสั่นเทา
“ไหนให้ข้าดูซิ!”
อาจารย์ปู่รีบเดินตามมาติดๆ และได้รับรู้ถึงพลังและกลิ่นอายแห่งความตายอันรุนแรง ใครกันบรรลุขั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก กลิ่นอายยิ่งแรงขึ้นทวีความรุนแรงเป็นอย่างมาก
ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มแปรปวนเกิดเสียงฟ้าร้องคำครามสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมือง มวลเมฆาก่อตัวเป็นเมฆสีดำ ลมพัดโหมกระหน่ำนี่คือการเกิดใหม่ของพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นพลังที่น่ากลัวที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมีเพียงระดับราชาเท่านั้นที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ฝูงชนด้านนอกพากันแตกตื่นวิ่งอลมานเข้าที่หลบภัย ลมพายุพัดรุนแรงสายฟ้าฟาดผ่าทุกหนแห่งฟ้าร้องดังกึ่งก้องสั่นสะเทือนทั่วแผ่นดิน
“ในเมืองของเรามีราชาปรากฏตัวงั้นหรือ ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน”
“เจ้าดูนั่นสิข้าคิดว่านี่ไม่ใช่ระดับราชา ต้องเป็นระดับเทวราชาเป็นแน่”
บนท้องฟ้าตอนกลางที่มืดมิดเชกเช่นตอนกลางคืนถูกปกคลุมด้วยเมฆดำไปทั่วเมือง และมีแสงสีทองส่องลงมาจากฟากฟ้า
ณ ตระกูลหลี่
เสียงสีทองนั่นส่องลงมาปกคลุมทั้งตระกูล ทำให้ข้ารับใช้ผู้สนิทคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องบ่มเพาะเพื่อแจ้งให้หัวหน้าตระกูลได้รับทราบ
“ท่านหัวหน้าตระกูลขอรับ ด้านนอกเกิดเรื่องประหลาดขึ้น เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยเมฆดำ พายุรุนแรงโหมกระหน่ำ มีเสียงฟ้าร้องดังสะนั่นสายฟ้าฟาดผ่าไปทั่วทั้งเมืองและ...และ...เอ่อ...” ข้ารับใช้อ้ำอึงไม่พูดต่อ
“เจ้าพูดมาเถิด” ท่านปู่กล่าวช้าๆ เสียงไม่ดังนัก
“และมีลำแสงสีทองส่องลงมาห่อหุ้มทั้งจวนเราในตอนนี้ขอรับ” ข้ารับใช้ตอบเสียงดังฟังชัด คาดว่าตระกูลของนายท่านต้องมีต้องผู้เลื่อนขั้นเป็นราชา มหาราชา หรือเทวราชาเป็นแน่ ทำให้เขาตื้นตันอย่างเหลือล้น
“ข้าจะออกไปดูเอง” ห่าวเทียนกล่าวและเดินตามข้ารับใช้ออกไป
“ทางด้านนี้ขอรับ ท่านผู้นำ” ข้ารับใช้รีบนำทางห่าวเทีนออกไป