4
“ขอบคุณอาพจน์มากๆ เลยนะคะ”
“ได้เจอเพื่อนก็สบายใจแล้วสิ”
“ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆ หันมายิ้มให้เขา
“ถ้าง่วงก็นอนหลับก่อนได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูดีนั่งคุยเป็นเพื่อนอาพจน์ดีกว่าค่ะ” คนตอบว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อน ผ่านไปไม่กี่นาทีก็หลับลงอย่างง่ายดาย พจน์หันไปมองด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนจะขับรถต่อไปอย่างระมัดระวัง
เขาจอดรถหน้าโรงแรมที่จะเข้าพัก เหลือบมองสาวน้อยที่ยังนอนหลับสบายอยู่ข้างกายด้วยสายตาอ่อนโยน
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของคนที่กำลังหลับสนิททำให้เขาไม่อยากปลุกหรือรบกวนเธอ มือหนาค่อยๆ เลื่อนไปสัมผัสแก้มใสๆ ของเธออย่างบางเบา นั่นทำให้เธอค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาจากการนิทรารมย์อันแสนสุข
“ถึงไหนแล้วคะอาพจน์” เธอเอ่ยถามพลางหันไปมองรอบกาย
“ถึงที่พักแล้วครับ ไปเถอะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะลงไปเปิดประตูรถให้
เขาเปิดห้องเดียว ทำให้ดรุณีต้องเตรียมตัวเตรียมใจ แต่เพราะมัวแต่คิดว่าจะทำตัวยังไงดี เลยเดินสะดุดขาตัวเองเข้าให้
“วะ! ว้าย! ขอบคุณค่ะอาพจน์” เธอรีบเอ่ยขอบคุณเมื่อเขาช่วยประคองร่างน้อยเอาไว้
“ระวังหน่อยสิ เป็นอะไรถึงได้ใจลอย” ประโยคคำถามดุๆ นั้นทำให้ดรุณีกัดปากตัวเองพลางหน้าแดง
“เปล่าค่ะ” ตอบแล้วไม่กล้ามองหน้าเขาเพราะอาย ดรุณีอยากเขกหัวตัวเองแรงๆ นักที่อดจะคิดเรื่องลามกเสียไม่ได้
“อาบน้ำก่อนเลย จะได้สบายตัว แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน”
“ค่ะ” เธอรับคำตาปริบๆ นึกว่าเขาจะขออาบน้ำกับเธอเสียอีก
โป๊ก!!!
“โอ๊ย!!!” ดรุณีหมุนกายหันหลังเดินเข้าห้องน้ำ ก็ชนเข้ากับประตู พจน์รีบเดินเข้ามาดู ก่อนจะรีบเป่าให้เบาๆ
“เจ็บมากไหม ทำไมเดินไม่ดู”
“ไม่เจ็บค่ะ หายแล้ว”
คนตอบก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตา
“เป็นอะไร”
“คะ เอ่อ... ไม่ได้เป็นอะไรคะ”
“หลบหน้าหลบตาทำไม มีอะไรจะพูดกับอาหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ งั้นหนูดีอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอรีบบอกเขาก่อนจะเผ่นเข้าห้องน้ำโดยพลัน เข้าไปในห้องน้ำได้ ก็ต้องผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ อาพจน์ไม่ใช่คนที่จะฉวยโอกาสกับเธอหรอก ถ้าเขาจะทำเขาคงบอกเอง เธอก็ควรเลิกคิดลามกได้แล้ว
หลังมื้ออาหารในวันนั้น พจน์ก็พาดรุณีกลับมานอนที่ห้องพักโดยไม่พูดอะไร เขานอนเตียงเดียวกับเธอ แต่ไม่ยอมทำอะไร แถมยังหลับไปด้วยท่าทีสบาย ๆ ในขณะที่เธอนอนเกร็งอยู่แบบนั้นหลายนาทีถึงได้รู้ว่าเขานอนหลับไปแล้ว
ดรุณีพลิกร่างนอนตะแคงมาหาคนที่มีบุญคุณช่วยเหลือเธอเอาไว้ เธอขยับเข้าไปนอนใกล้ๆ เขา ตอนนี้ในชีวิตไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะจับพลัดจับผลูต้องมาอยู่กับพจน์และกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายของเขาแบบนี้
มือน้อยๆ ของเด็กสาว ค่อยๆ สัมผัสกับใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาหนุ่ม เธอมีความสุขที่ได้มองเขาแบบนี้ ไม่ได้เจอกันหลายปีแต่เธอยังจำคุณอาใจดีซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดาได้ดี
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว จู่ๆ คนที่เธอแอบมองก็ลืมตาขึ้น ดรุณีตกใจเบิกตากว้าง แต่หลบไม่ทัน เขาก็คว้ามือของเธอเอาไว้
“ทำอะไร” เสียงดุๆ ของเขาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย
“ขอโทษค่ะ หนูดีไม่ได้ตั้งใจ” เธอดึงข้อมือน้อยออกจากอุ้งมือใหญ่ของเขา พลิกร่างน้อยไปอีกด้าน คิดว่าเขาคงโกรธที่เธอไปแตะต้องหรือสัมผัสเนื้อตัวของเขา
“มีอะไรหรือเปล่า” ร่างแข็งแรงและแสนอบอุ่นแนบชิดมาจากทางเบื้องหลัง ก่อนที่มือหนาจะวางเบาๆ ที่แขนเล็กๆ ของเธอ
“อุ๊ย!” เธออุทานก่อนจะหันมามองเขาด้วยน้ำตานองหน้า นั่นทำให้พจน์ตกใจไม่น้อย
“ร้องไห้ทำไม”
“มะ... ไม่มีอะไรค่ะ”
เธอสะอึกสะอื้นก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาป่อยๆ
“เป็นอะไร” เขาถามซ้ำอีก มองร่างที่สั่นสะท้านแล้วรู้สึกว้าวุ่นใจไม่น้อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
“อาพจน์นอนเถอะค่ะ หนูดีขอโทษที่รบกวน”
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” พจน์ไม่อยากให้มีอะไรค้างคาใจ ไม่เช่นนั้นคืนนี้เขาคงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้
“หนูดีขอโทษค่ะ”
“ขอโทษอาทำไม”
“ขอโทษที่รบกวนอาพจน์ไงคะ หนูดีรู้ว่าอาพจน์จำใจต้องมาแต่งงานกับหนูดี อาพจน์หวงความโสดจะตายไป คุณพ่อก็เคยบอก หนูดีรู้ว่าอาพจน์รังเกียจหนูดี” ประโยคของเขาทำให้พจน์กะพริบตาปริบๆ รีบพลิกร่างน้อยมาหาในทันที ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน