1
พจน์ พันพิริยะ หนุ่มวัย 39 ปี กำลังขับรถมุ่งหน้าจากสวนลำไยของตนเองจากภาคเหนือ เพื่อเดินทางเข้าเมืองใหญ่ด้วยหัวใจอันว้าวุ่น เขาได้รับจดหมายจากหลานสาวนอกไส้ อันเป็นบุตรสาวของพี่ชายที่นับถือให้ไปช่วยเหลือโดยด่วน
ดรุณี เลิศสุรศักดิ์หรือหนูดีว่ากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก
ดรัณ ผู้เป็นบิดาของเธอเคยมีบุญุคณช่วยเหลือเขาเอาไว้ ดังนั้น เขาจึงไม่ลังเลที่จะรีบเร่งไปหาเธอให้เร็วที่สุด ด้วยเนื้อความในจดหมายมันทำให้เขาร้อนรุ่มหัวใจไม่น้อย
ถึงอาพจน์ที่รักของหนูดี
หนูตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้หาอาพจน์เพราะว่าตอนนี้น้าจินเป็นหนี้อย่างหนักด้วยว่าติดการพนันและมีสามีใหม่ ผลาญสมบัติของคุณพ่อจนหมดสิ้นแล้ว กำลังจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ที่ร้ายไปกว่านั้น น้าจินจะเอาหนูไปขายให้เสี่ยบ้ากามเพื่อใช้หนี้อีกด้วย หนูแอบส่งจดหมายให้อาพจน์ด้วยความช่วยเหลือของมณีเพื่อนรักของหนูดี ตอนนี้หนูดีโดนขังเอาไว้ในห้อง อาพจน์ได้โปรดมาช่วยหนูดีด้วย อย่าได้ชักช้า ไม่เช่นนั้นหนูดีคงจะไม่รอดจากเงื้อมมือของน้าจินและสามีใหม่แน่ๆ เลยค่ะ
รักอาพจน์เสมอ
หนูดี
พจน์สบถยาวเหยียดด้วยว่าเขานั้นอยู่ในสวนอันห่างไกล และไม่ได้สนใจโลกภายนอกมานานแล้ว
เขาไม่ใช้โทรศัพท์ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร การมีเพื่อนน้อยคนแต่จริงใจทำให้เขาไม่รู้สึกวุ่นวายใจ
พจน์ทำสวนลำไยและสวนผลไม้อื่นๆ อย่างมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตอันแสนเรียบร้อยง่ายของตัวเอง
ส่วนการค้าขายนั้นเขาให้น้องสาวเป็นคนติดต่อลูกค้าทั้งหมด ในขณะที่เขาปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วยว่าน้องสาวนั้นเป็นคนเก่งคนขยันและซื่อสัตว์ไว้ใจได้ เขาจึงไว้วางใจให้ดูแลทุกอย่างแทนรวมถึงเรื่องการเงินด้วย
หลายปีก่อนมารดาของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ยิ่งทำให้เขาเสียใจมากขึ้นไปอีก จึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครเพราะยังทำใจไม่ได้
ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีความรักและปรารถนาดีให้แก่กันเสมอ
ด้วยว่าเขาผูกพันกับมารดามาก เพราะท่านเลี้ยงเขากับน้องสาวมาโดยลำพังคนเดียว หลังจากบิดาประสบอุบัติเสียชีวิตตั้งแต่เขากับน้องยังแบเบาะ การจากไปของมารดาจึงทำให้เขาเสียใจอยู่นานหลายปี
มีเพียงงานศพของดรัณ บิดาของดรุณีเท่านั้น ที่ทำให้เขาออกมาจากสวนลำไยอันห่างไกลความเจริญเมื่อหลายปีก่อน
จินตนาดูรักใคร่ดรุณีมากในตอนนั้น เขาจึงไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้
ดรุณีเองก็คงรู้ว่าสิ่งเดียวที่จะติดต่อเขาได้คือการเขียนจดหมายเท่านั้น เขาไม่ใช้โทรศัพท์ ไม่ใช้โซเชียลและไม่ติดต่อกับใครมานานมากแล้ว จนตอนนี้ไม่รู้เรื่องโลกภายนอกเลยเสียด้วยซ้ำ
พจน์เลี้ยวรถเข้าไปในหมู่บ้านที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เขาก็จำมันได้ดี ขับรถมาถึงหน้าบ้านเขาก็เห็นว่าดรุณีโดนฉุดกระชากลากถูออกมาจากบ้าน พจน์รีบเบรกรถกะทันหัน ก่อนจะเปิดประตูลงไปขัดขวางเอาไว้อย่างทันท่วงที
“ทำอะไรน่ะ!” เสียงเข้มที่เอ่ยขึ้นถามทำให้ทุกคนหันไปมอง แม้จะนานหลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน แต่เขาจำเด็กสาวที่เจริญวัยเป็นสาวน้อยสะพรั่งวัยสิบแปดได้ดี
“อาพจน์” ดรุณีร้องเรียกคนที่จะมาช่วยเหลือเธออย่างดีใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้จินตนาเองก็ต้องอุทานออกมาเหมือนกัน
“ยุ่งอะไรด้วย ดันยายเด็กนี่ขึ้นไปบนรถสิ เสี่ยรออยู่” คนของเสี่ยภาสกร ตวาดกลับมา
“เดี๋ยวก่อน!” พจน์พูดเสียงกร้าว จับประตูรถเอาไว้ไม่ให้คนของเสี่ยภาสกรปิดประตูรถได้สำเร็จ
คนของเสี่ยภาสกรทำท่าจะต่อยพจน์ แต่โดนมือใหญ่จับข้อมือเอาไว้ ก่อนจะบิดจนหน้าเขียวหน้าเหลือง
“โอ๊ย!”
“บอกว่าเดี๋ยวก่อน”
“มึงเป็นใครวะ ไอ้เด็กนี่มันติดหนี้เสี่ย กูจะเอามันขึ้นรถ มึงเสือกอะไรด้วย”
“ติดหนี้เท่าไหร่”
“คุณพจน์มาได้ยังไงคะ” จินตนาที่หายตกใจรีบเอ่ยถามในทันที ก่อนจะตวัดสายตามองลูกเลี้ยงอย่างเอาเรื่อง มันต้องแอบติดต่อกับพจน์อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นพจน์จะมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง
“ผมมาเยี่ยมหนูดีน่ะครับ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นครับ” พจน์ตอบเสียงขรึม
“เอ่อ... คือว่า” จินตนาอึกอักเมื่อเห็นสายตาของพจน์ เพื่อนรุ่นน้องคนนี้ของอดีตสามีไม่ธรรมดาเลย เพราะเป็นคนเอาจริงและแลดูน่ากลัวเวลาโกรธ แต่ก็สนิทกับสามีของเธอมาก สมัยก่อนไปมาหาสู่กันบ่อย พอดรัณตายและมารดาของพจน์เสียชีวิต เขาก็หายเงียบไปนานหลายปี