2.เจ้าสาวของซาตาน Ep2
เขาหัวเราะเบา ๆ เมื่อก้าวขึ้นเตียงคืบคลานเข้าไปหาเธอวางมือลงที่ปลายเท้าเรียวสะอาดของเธอ แต่รักษ์สิยาพยายามจะสลัดมือของเขาให้หลุด ทว่าเขากลับกระชากรั้งปลายเท้าของเธอเลื่อนลงไปหาและวางฝ่ามือกดที่คองามระหงของเธอไว้เมื่อโน้มใบหน้าต่ำลงมาหา
สายตาคมกวาดมองพวงแก้วขาวที่เอี่ยมอ่องนวลสะอาดของเธอ ในขณะที่รักษ์สิยารู้สึกใจเต้นแรง นายธีรยุทธโน้มปลายจมูกลงใกล้ ๆ หมายจะชื่นชมดอมดมกลิ่นแก้มขาวที่สุกปลั่งของเธอ แต่ฝ่ามือบางกลับยกขึ้นแล้วผลักใบหน้าของเขาให้ถอยห่างพร้อมกับเตรียมจะก้าวหนี แต่ฝ่ามือใหญ่กระชากรั้งคอเสื้อของเธอให้กลิ้งกลับมาที่เดิมก่อนจะกระชากเสื้อนอนสีสะอาดจนฉีกขาด
รักษ์สิยารู้สึกตกใจมาก พยายามที่จะปกป้องตนเองแต่ไม่อาจทำได้เมื่อเขาฝังริมฝีปากลงมายังซอกคองามของเธอพร้อมกับดูดซับอย่างหนักหน่วง พร้อมกับวางมือลูบไล้หมายจะสำรวจความงามของเธอ แต่ฝ่ามือบางยกขึ้นหมายจะผลักร่างเขาแต่ปลายเล็บที่แหลมคมตวัดพลาดไปถูกที่ซอกคอของเขาจนเลือดซึม
เพียงแค่เขารับรู้ถึงความเจ็บแสบ อาการหนึ่งที่พยายามซุกซ่อนเอาไว้ก็เหมือนถูกระเบิดออก เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปก่อนจะกระชากร่างบางของเธอกดให้ลู่แนบลงกับพื้นที่นอนนุ่ม แต่รักษ์สิยาก็พยายามดิ้นรนขัดขืนจนสามารถก้าวลงจากเตียงแต่เขาก็กระโจนตามติด
“ฤทธิ์มากนักใช่ไหม ดี ดีมาก ดีเลย ได้เลย ได้เลย แบบนี้แหละที่ฉันต้องการ”
เขาคำรามอยู่ในลำคอก่อนจะกระตุกเสื้อนอนที่ยังเหลือติดร่างของเธอจนหลุดล่วงเผยให้เห็นโฉมสะคราญที่มีเพียงบราไร้สายกับซับในตัวจิ๋วที่ปกปิดอำพลางความงามเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
เมื่อเขาได้มองเห็นความงดงามที่เอี่ยมอ่องของเธอ อาการตื่นตัวของความเป็นชายก็โลดแล่น เขาบอกตัวเองว่า จะไม่ยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด
เขาย่างสามขุมเข้าหาเธออีกครั้งแต่รักษ์สิยารีบไปที่ประตูห้อง แต่ทว่าฝ่ามือใหญ่ของเขาก็เร็วมากพอที่จะกระชากรั้งแขนของเธอไว้แล้วกระตุกให้หันกลับมาหา เขาพยายามจะจูบเธอให้ได้ แต่ฝ่ามือบางก็ยกยันผลักไส จนเขายากที่จะระงับอารมณ์ลึกเอาไว้ได้
หลังมือใหญ่จึงตวัดใส่ใบหน้าหวานอย่างหนักจนเลือดซึมที่มุมปาก ทำให้เธอยิ่งหวาดผวาแล้วปรารถนาจะหลีกหนี ในขณะที่เขาก็อยากจะเชยชม เมื่อฝ่ายหนึ่งอยากหนีอีกฝ่ายหนึ่งไล่ตาม การต่อสู้จึงเกิดขึ้น ทำให้เขาตบตีทำร้ายเธออย่างไม่ยับยั้ง
เมื่อเขาได้ทำร้ายเธอ ได้เห็นเธอเจ็บปวด ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ ความต้องการของเขาก็ยิ่งสูง เขารู้สึกอิ่มเอมและมีความสุข
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย แม่ขา พ่อขาช่วยรักษ์ด้วย”
รักษ์สิยาตะโกนสุดเสียงเมื่อนายธีรยุทธตะปบฝ่ามือลงที่บราไร้สายหมายจะกระชากมันออกจากดอกบัวตูมทั้งสองข้าง
รักษ์สิยาหลับตานิ่งเมื่อไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ที่มันทำให้เธอไม่อาจจะข่มตาให้หลับสนิทได้มานานแล้วและต้องมาแต่งงานอีกครั้งทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นนักหนา
“รักษ์สิยา เป็นอย่างไรบ้างลูก เหนื่อยมากไหมจ๊ะ..”
คุณจุฑาดาเดินเข้ามาในห้องหอพร้อมกับส่งเสียงร้องทักมาแต่ไกลก่อนเดินเข้ามาแล้วรั้งร่างบางของรักษ์สิยาไปกอดไว้ราวกับรักเสียหนักหนา ท่ามกลางสายตาของคนงานที่ได้ปลอมตัวว่าเป็นญาติฝ่ายเจ้าบ่าว พวกเขากำลังตามเข้ามา
“หนูมีครอบครัวแล้วนะลูก นับจากนี้ ที่นี่คือบ้านของหนู ขอให้หนูมีความสุขกับชีวิตใหม่นะจ๊ะลูก..”
จุฑาดากอดเธอไว้แน่นแล้วค่อย ๆ ซบใบหน้าลงมาที่ใบหูสะอาดของเธอ
“ขอให้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขนะจ๊ะ..”
หล่อนพูดจบก็ยันร่างออกห่างพร้อมกับประคองดวงหน้าเรียวหวานของรักษ์สิยาไว้แล้วจุมพิตที่หน้าผากมนเบา ๆ ราวกับถนอมรักเสียนักหนา ในขณะที่รักษ์สิยามองหน้าอุษณีผู้เป็นแม้แท้ ๆ ด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ
“เอาล่ะค่ะ นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว พวกเราจะขอทำพิธีให้บ่าวสาวก่อนนะคะ..”
หญิงวัยสี่สิบคนหนึ่งเอ่ยออกมาก่อนจะให้ผู้เฒ่า ผู้แก่ที่แต่งงานกันและอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ขึ้นไปนอนบนเตียงวิวาห์แล้วก็พร่ำพูดในสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นมงคล หลังจากนั้นทุกคนก็ออกไป
“คุณนายแม่คะ อุบลล่ะคะ..”
รักษ์สิยารีบร้องถามหาอุบล ที่เคยอยู่กับเธอเมื่อครั้งที่เธอแต่งงานครั้งก่อนและหวังว่าครั้งนี้อุบลจะมาทำหน้าที่เหมือนครั้งก่อน
แต่จุฑาดาส่ายหน้า ทำให้รักษ์สิยารู้สึกหวาดกลัวอย่างมากกับการที่จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าบ่าวของเธอในค่ำคืนโดยไม่มีตัวแทนมาทำหน้าที่ให้
นี่เธอจะทำอย่างไรดี จะปกป้องตนเองได้อย่างไร หากเธอต้องเจอกับเจ้าบ่าวโรคจิต ชอบความรุนแรงเหมือนเจ้าบ่าวคนก่อน เธอจะทำอย่างไรดี มันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากล้น
“เรียบร้อยไหมคะแม่..”
จุฑาดาระบายลมหายใจออกมาเมื่อได้ยินเสียงของนริศฌาผ่านมาทางสายโทรศัพท์
“เรียบร้อย แล้วนี่ลูกอยู่ไหนหรือจ๊ะ..”
คำถามที่ย้อนกลับไปทำให้ฝ่ายนริศฌาโปรยยิ้มบาง ๆ ผ่านไปยังร่างของพงศธรที่ยังแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำ
“ไม่สำคัญหรอกค่ะแม่ขา สำคัญที่ว่า สินสอดจำนวนมหาศาลเป็นของเราสองคนใช่ไหมคะ..”
“ใช่..มหาศาลเชียวล่ะ..”
“ในที่สุดเราก็ขายนางรักษ์สิยาได้อีกครั้ง คราวนี้เมื่อเทียบกับสินสอดคราวก่อน มันมากกว่ากันใช่ไหมคะ..”
“ใช่แล้วล่ะลูก ไม่นึกว่านายหัวเจ้าของสัมปทานรังนก จะร่ำรวยมากมายขนาดทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้เจ้าสาว เพื่อหวังจะมีทายาทสืบสกุล..”
“แต่วาสนาของไอ้แก่นั่นก็ได้นางลูกกาฝากไปเป็นเมีย นางลูกคนรับใช้ ไม่มีสมบัติติดตัว..”
คำพูดของลูกสาวคนเดียวที่ผ่านมาตามสายทำให้จุฑาดาต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะนริศ..”
คำพูดของแม่ทำให้หล่อนรีบยันกายลุกนั่งพร้อมกับรั้งผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของหล่อน
“ทำไมหรือคะ..”
“เขาจัดงานแต่งที่บ้านของเขา แม่ไม่รู้จะบอกว่า มันเป็นบ้านหรือพระราชวัง ทั้งใหญ่ ทั้งโอ่อ่า สวยงาม ข้าวของในบ้านมีราคาและเป็นของเก่าที่หายาก ที่สำคัญ..”
“อะไรคะแม่..”
“นายกีรติ เกียรติกานต์ อายุแค่สามสิบปีเท่านั้น..”
“จริงหรือคะ..”
“แม่จะโกหกหนูทำไมล่ะลูก..มันเป็นความจริง..”
“แล้วที่เราเห็นในภาพถ่ายที่เขาส่งมาให้เราล่ะคะ..”
“แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจ้าบ่าวที่เข้าพิธีแต่งงานกับนางเด็กโง่นั้น เขาเป็นชายหนุ่ม ท่าทางภูมิฐาน องอาจและสง่างามที่สุด..”
“นริศอยากเห็นจังค่ะแม่..”
“แม่ได้ถ่ายภาพของเขาไว้ เดี๋ยวจะส่งผ่านโทรศัพท์ไปให้นะจ๊ะ..”
ทันทีที่จุฑาดาวางสาย นริศฌาก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อชายหนุ่มคู่ขาของหล่อนเดินมาหาพร้อมกับฝังริมฝีปากดูดซับเรียวปากอิ่มของหล่อนหนักหน่วง
“คุยกับใครหรือจ๊ะที่รัก..”
“คุณแม่ค่ะ..เดี๋ยวนะคะ ขออ่านข้อความเดี๋ยวเดียว..”
หล่อนรีบผลักอกกว้างของเขาให้ถอยห่างแล้วกดเปิดรับข้อความภาพจากจุฑาดาผู้เป็นมารดา
“นี่มันอะไรกัน!..”
นริศฌาอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อมองเห็นภาพของ นายกีรติ เกียรติกานต์ อย่างชัดเจน เขาเป็นคนละคนกับที่หล่อนได้เห็นในภาพถ่ายที่เขาส่งไปให้ดู พร้อมเสนอสินสอดจำนวนมหาศาลเป็นค่าตัว
“ใครหรือครับ..”
พงศธรคู่ขาของหล่อนกระซิบถามก่อนจะพยายามองภาพถ่ายในโทรศัพท์แต่ดูเหมือนหล่อนจะหมดอารมณ์จึงพยายามจะลุกจากเตียงแต่ฝ่ามือใหญ่กลับรั้งร่างบางให้กระเด็นลงไปนอนที่เตียงกว้าง
“แก!?..”
นริศฌามองหน้าพงศธรแทบทันทีด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ
“ยังไม่หมดเวลาของผมไม่ใช่หรือ..”
“หมดแล้ว..ฉันไม่มีอารมณ์..”
“เดี๋ยวผมจะสร้างให้..”
“เอ๊ะ!..”
หล่อนจ้องหน้าเขานิ่งด้วยความไม่พอใจในขณะที่ฝ่ามือใหญ่กดลงที่ท่อนแขนทั้งสองของหล่อนให้แนบอยู่กับพื้นที่นอนนุ่ม
“ปล่อยฉันนะพงศธร..แกไม่มีสิทธิ์ หมดหน้าที่ของแกแล้ว ปล่อย..อย่าบังอาจมาทำแบบนี้กับฉัน ไอ้ขี้ข้า ไอ้คนชั้นเลว ต่ำ..”
“แต่ก็ทำให้คุณสุขสมในยามที่หาเหยื่อไม่ได้..จริงไหม..”
“ไอ้สารเลว..”
นริศฌารู้สึกแค้นเคืองอย่างมากกับชายหนุ่มวัยสามสิบที่เป็นเพียงแค่ลูกชายของคนสวนในบ้าน ที่นายโกสินทร์พ่อของหล่อนอุปการะส่งเสียงให้เรียนหนังสือจนจบปริญญาและให้ดูแลงานที่บริษัท
ในยามที่หล่อนเปล่าเปลี่ยวมักจะเรียกหาเขาเพื่อมาผ่อนคลายความกำหนัดให้หล่อน และมันก็ไม่บ่อยมากนักที่หล่อนกับเขามีความสุขกัน
“ผมเป็นเสมือนทาสทางเพศที่คุณจะเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แล้วผมได้อะไรตอบแทนบ้าง..นอกจากสายตาที่ถากถาง ถ้อยคำที่แสลงหู..”
“ไอ้สารเลวแกมันขี้ข้าในบ้าน ชั้นต่ำ แค่ฉันให้แกมาทำหน้าที่นี้ ถือเป็นบุญของแกมากแล้ว..”