ตอนที่ 1 เจ้าสาวของซาตาน ep.1
เจ้าของสีผิวที่เย็นตา ขาวอมชมพูในชุดแต่งงานสีพาสเทลคือชมพูแชมเปญ กระโปรงทรงหางปลา ตัวเสื้อเกาะอก เผยให้เห็นรูปร่างแบบนาฬิกาทรายอวดสัดส่วนที่เย้ายวนจนทำให้แขกเหรื่อ
ซึ่งล้วนแต่เป็นคนงานที่ทำงานกับเขา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชนในความสวยงามของเจ้านายสาว
ดวงหน้าเรียวหวานหมดจดดูงดงามและยวนตา เรือนผมยาวเกล้าเป็นมวยไว้ด้านหลังเปิดเครื่องหน้าที่สะอาดเอี่ยมผุดผ่อง ดวงตากลมโตดูสุกสกาวสดใสราวกับพูดได้ ปลายจมูกเล็กโด่งเป็นสันสวยงามรับกับเรียวปากอิ่มรูปกระจับที่เย้ายวนอย่างที่สุด
ทั้งผิวพรรณและรูปร่างแบบบางอรชรดูอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม เธอช่างเป็นเจ้าสาวที่สวยงามเสียจริง ไม่ว่าใครที่ได้เห็นต่างออกปากชมแทบไม่หยุดหย่อน
ยกเว้นเพียงคนเดียวที่มองมาด้วยสายตาที่เจือความแค้นและชิงชังอย่างที่สุด เขาไม่ได้ชื่นชมในความสวยงามของเธอเหมือนที่คนอื่นชื่นชม แม้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวของเธอก็ตาม
พฤกษ์ ธิติดำรงกุล นายหัวเจ้าของสัมปทานรังนกที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคใต้ ชายหนุ่มวัยสามสิบปี เจ้าของผิวสีแทน ผู้มีดวงตาที่คมกริบราวแสงพระอาทิตย์ในยามเที่ยงวัน เจ้าของดวงหน้าคร้ามคมที่หล่อเหลาแต่งแต้มไว้ด้วยหนวดเครายาวจนแทบปิดเครื่องหน้า ปลายจมูกโด่งเป็นสันอย่างสวยงามรับกับริมฝีปากได้รูปอมชมพูตามธรรมชาติที่บอกได้อย่างชัดเจนถึงสุขภาพที่ดีของเขา
แต่รักษ์สิยา รู้จักเขาในนามของ นายกีรติ เกียรติกานต์ มหาเศรษฐีสูงวัยเจ้าของบริษัทผลิตรังนกสำเร็จรูปที่ร่ำรวยอย่างมาก แต่ขี้เหล่และชราภาพ
มือเรียวบางของรักษ์สิยาส่งไปหาเขาที่ยื่นมามือรับพร้อมกับโน้มใบหน้าจรดริมฝีปากลงยังหลังมือบางก่อนจะรั้งร่างเข้ามาโอบไว้หลวม ๆ แล้วฝังปลายจมูกและริมฝีปากที่รุมร้อนลงไปยังพวงแก้มขาวที่หอมกรุ่นของเธอ รักษ์สิยา ปราณนต์อุทัค ทำให้หัวใจดวงน้อยหวีดหวิวอยู่ลึก ๆ กับสัมผัสที่อ่อนโยนและอบอุ่นอ่อนละไมของเขา
“เจ้าสาวของนายหัวสวยราวเทพธิดามาจุติ..”
“จริงด้วย คนเมืองกรุงนี่ จะสวยเหมือนกันทุกคนหรือเปล่านะ..”
“เมียนายหัวของเราสวยจริง ๆ พวกเราจะมีนายหญิงที่ทั้งเด็กและสวยงาม..”
“ไม่รู้ว่าหากคุณอ้อมดาวรู้ นายหัวจะทำอย่างไร..”
“พวกเรานอกจากถูกตะเพิดออกจากงาน อาจจะโดนเอาอะไรยัดปากก็ได้ หากเรื่องนี่แพร่งพรายออกไป..”
“แต่เจ้าสาวของนายหัวเธอสวยมากนะ แถมยังเด็กอีกด้วย มีหวังนายหัว ต้องหยุดงานยาวแน่”
“แต่ทำไมงานแต่งงานของนายหัว ไม่เห็นนายแม่รัตนามาร่วมงาน หรือนายแม่จะไม่พอใจเจ้าสาวคนนี้..”
“คงไม่รู้หรอก ขนาดคุณอ้อมดาวยังไม่รู้ นายแม่จะรู้ได้ยังไง..อาจจะเป็นการแต่งงานแบบลับ เอามาเป็นเมียเก็บก็ได้..”
คนงานของนายหัวพฤกษ์ต่างซุบซิบพูดคุยแทบไม่หยุดหย่อนด้วยความชื่นชมในตัวเจ้าสาว จนกระทั่งงานแต่งงานผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ผู้เป็นเจ้าสาวกลับรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นทุกขณะ ยิ่งใกล้เวลาส่งตัวเข้าหอเธอก็ยิ่งหวาดกลัว เหมือนมีปมบางอย่างที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจและความรู้สึกของเธอ
“แม่ขา..”
รักษ์สิยา ร้องเรียกผู้เป็นแม่เบา ๆ
“รักษ์กลัว..”
เธอตัดสินใจบอกผู้เป็นแม่ ที่รีบวางมือบีบมือเรียวบางที่สวยงามของเธออย่างปลอบโยน
“หวังว่า การแต่งงานครั้งนี้ จะทำให้ลูกสาวของแม่ ได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม..”
“แม่คะ!..”
รักษ์สิยารู้สึกปวดร้าวในหัวใจอย่างมาก
“แม่รักคุณพ่อของหนูมาก แล้วแม่ก็รักหนูมากด้วย ไม่ว่าแม่จะลำบากอย่างไรก็ขอให้แม่ได้อยู่กับคุณพ่อ แต่ว่าสำหรับลูก คุณพ่อบอกว่าผู้ชายคนนี้เพียบพร้อมทุกด้าน แม่หวังว่า จากนี้ไปลูกของแม่จะมีความสุข..”
“พ่ออยากให้หนู ลืมเรื่องราวที่ผ่านให้หมดแล้วเริ่มต้นใหม่..”
นายโกสินทร์ยกมือลูบศีรษะเล็กของเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดูรัก
“ค่ะพ่อ”
เธอหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น ความหวาดกลัวก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเธอจนหนาวเหน็บ อยากจะบอกใครสักคนว่าเธอได้พบเจออะไรมาบ้างกับการแต่งงานครั้งแรก แต่ก็ไม่สามารถจะบอกกับใครได้ โดยเฉพาะพ่อกับแม่ของเธอ เพราะท่านทั้งสองหวังว่าเธอจะมีความสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้นกับการแต่งงานครั้งนี้
แต่ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นกลับหวนมาให้เธอรำลึกนึกด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต วันที่ได้แต่งงานกับชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าบ่าวคนแรกของเธอ
ค่ำคืนนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวสุดชีวิต แล้วคิดว่า นี่คือนรก! เมื่อเธอได้เผชิญหน้ากับเขา เจ้าบ่าวของเธอ ชายรุ่นพ่อที่กวาดสายตามองเธอด้วยสายตาที่เหมือนเสือมองเห็นเหยื่อ
นายธีรยุทธก้าวเข้าใกล้ พร้อมกับยิ้ม แต่เธอกลับรู้สึกหวาดกลัวในรอยยิ้มนั้น และแล้วเธอก็ต้องผวาเมื่อฝ่ามือใหญ่ของเขายื่นมาแตะที่ปลายคางมนของเธอเชยให้เงยหน้ามองเขา
“สวยเหลือเกิน แบบบาง อรชร อ้อนแอ้น เธอถูกใจฉันมากจริง ๆ รักษ์สิยา ขอเพียงเธอทำให้ฉันพอใจเท่านั้น ไม่ว่าสิ่งใดที่เธอปรารถนา ฉันจะหาทางเอามาให้เธอให้จงได้ มาเถอะนะ มาเป็นของฉัน”