๒.๕ ในอ้อมกอดนักรัก
“คุณจะทำอะไรฉัน?”
“ก็ทำในสิ่งที่สมควรทำกับผู้หญิงแสบๆ อย่างคุณไงล่ะ”
ร่างใหญ่ขยับขึ้นไปบนเตียง รวบมือของเธอด้วยมือข้างเดียว อีกมือที่ถือเนกไทอยู่จัดการผูกมันรอบข้อมือเล็กๆ แล้วผูกโยงกับซี่ของหัวเตียง ก่อนจะดึงข้อเท้าเล็กให้ร่างบางนอนราบลงกับเตียง ท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายที่ร้องอย่างตกใจ
“ปล่อยฉันนะคนบ้า! ชอบรังแกผู้หญิง!”
“ไม่!”
แมทธิวปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมทั้งขยับขามาคร่อมร่างบางเอาไว้ ได้เวลาที่จะต้องสอนบทเรียนแห่งความอวดดีให้กับเธอแล้ว จากนั้นมือแกร่งก็เริ่มลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ชญาดาใส่นอนออกทีละเม็ดๆ อย่างชำนาญและรวดเร็ว ในขณะที่สาวน้อยพยายามช่วยตัวเองด้วยการบิดมือออกจากพันธนาการนั้นเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถขัดขืนการรุกรานของเขาได้เลย
กระดุมที่เรียงกันอยู่หลุดออกจากรังดุมทีละเม็ดๆ จากบนลงล่าง ไม่นานก็หลุดทั้งแถว มือใหญ่กระตุกสาบเสื้อเพียงนิดเดียวมันก็ตกลงข้างลำตัวของร่างบางทันที จากนั้นมือใหญ่ก็เคลื่อนไปเบื้องล่าง ดึงกางเกงบอกเซอร์ผ่านสะโพกกลมมน ไม่ช้าร่างอรชรก็เปลือยเปล่า
ดวงตาคู่งามเบิกกว้างขณะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนร้ายกาจ ไม่คิดว่าจู่ๆ จะต้องมานอนอวดเรือนร่างเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้ชายคนไหนในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เช่นนี้ หน้าท้องแบนราบเกร็งขึ้นด้วยความกระดากอาย เมื่อเห็นว่าตอนนี้สายตาของ เขากวาดมองไปทั่วทุกอณูเนื้อ โดยเลือกที่จะหยุดจ้องมองบางส่วนนานเป็นพิเศษ ราวกับจงใจทำให้เธอสะเทิ้นอายมากขึ้นกว่าเดิม จนสาวน้อยรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแดงก่ำไปทั้งตัว
ร่างบางพยายามดิ้นอีกครั้ง อยากเอามือที่ถูกพันธนาการอยู่มาปิดบังร่างกายให้พ้นจากสายตาคมวาวของเขา แต่ก็ทำไม่ได้
แมทธิวผงกศีรษะขึ้นมองแล้วก้มลงประกบปากกับเรียวปากอิ่ม แล้วบดขยี้อย่างรุนแรง ทว่าไม่นานความรุนแรงก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน เรียกร้อง ซอกซอนเข้าไปปลุกเร้าสิ่งที่นิ่งสงบอยู่ในกายสาวให้ตื่นเพริดขึ้น
ชญาดาขัดขืนด้วยการเม้มปากไว้แน่น แต่ปากร้อนๆ ของเขาที่บดคลึงลงมาอย่างต่อเนื่อง มันก่อให้เกิดความซ่านสยิวเกินกว่าจะเสแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา สุดท้ายปากนุ่มก็ยอมเผยอให้เรียวลิ้นจัดเจนชำแรกเข้าไปข้างใน
ลิ้นอุ่นๆ ซอกซอนควานหาความหวาน แล้วตวัดพัวพันกับลิ้นนุ่มอย่างยวนยั่ว แม้มโนสำนึกจะร้องตะโกนว่าตัวเองกำลังถูกรังแก แต่สาวน้อยกลับส่งลิ้นตวัดตอบลิ้นเจนจัดของเขาอย่างอดไม่ได้
เขาจูบแรง เร่าร้อน ดูดดื่ม จนชญาดาคิดว่าริมฝีปากของตัวเองบวมเจ่อขึ้น แต่กระนั้นก็ยังจูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน
...นี่เป็นจูบแรกของเธอไม่ใช่เหรอชญาดา แล้วทำไมเธอถึงได้จูบเก่งขนาดนั้น เธอชักจะกล้าเกินไปแล้ว ไปแลกลิ้นกับเขาแบบนั้นได้ยังไง...
ท่ามกลางความสับสนของอารมณ์ ชญาดารู้สึกถึงไอเย็นชื้นๆ และกลิ่นสบู่จากร่างใหญ่ที่บ่งบอกว่าเขาเพิ่งจะอาบน้ำมาใหม่ๆ กลิ่นนั้นเมื่ออยู่บนร่างใหญ่เปลือยเปล่า มันยิ่งกระตุ้นให้หัวใจของเธอเต้นอย่างหวิวไหวมากกว่าเดิม
แมทธิวจูบนาน นานจนชญาดาคิดว่าเขาจะไม่หยุดจูบ แต่สุดท้ายเขาก็เลื่อนใบหน้าลงไปซุกซบซอกคอขาวเนียนของเธอ โลมเลียใบหูและปล่อยลมร้อนรวยรด ทำเอาสาวน้อยถึงกับขนลุกซู่ ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ลูบขึ้นมาตามส่วนเว้าส่วนโค้งเชื่องช้า จากโคนขาขาวอวบ เอวคอด จนกระทั่งเคลื่อนมากอบกุมสองเต้าทรวงอวบอิ่มที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน แล้วบีบเคล้นราวกับทดสอบความนุ่มหยุ่น เพียงสัมผัสแรกจากมือชายก็ทำเอาชญาดาเสียววูบจนหลุดเสียงครางแสนสยิวออกมา
“อ๊าาซ์...”
ร่างบางสั่นระริกยิ่งกว่าเดิมเมื่อปากของเขาไล่ลงมาถึงทรวงสาวอวบอิ่มอีกข้าง แล้วทาบริมฝีปากจูบปลายยอดเชิดงอนสีชมพูอ่อน
ไม่สิ...แบบนั้นมันไม่ใช่การจูบ แต่คือการ ‘ดูดเม้ม’ เพราะเขา ไม่ได้แค่เอาปากแตะ แต่อุ้งปากร้อนๆ ยังกลืนงับเอาเม็ดเนื้อสีสวยนั้น เข้าไปข้างใน แล้วออกแรงดูดจนเธอต้องผวาแอ่นอกป้อนสู่ปากของเขา
หญิงสาววัยกำดัดบิดส่ายแอ่นโค้งตามแรงปากแรงมือที่ช่วยกันโลมเลียเคล้นคลึง ตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใช้ลิ้นสากลากเลียไปทั่วเต้าทรวงขาวสล้าง ตวัดเน้นตรงปลายถันที่แข็งเป็นไตรับสัมผัสจากลิ้นของเขาอย่างเริงร่า ชญาดาแอ่นอกขึ้นรับการโลมเลียสุดเร่าร้อนนั้น พร้อมกับหลุดเสียงครางแสนกระเส่าออกมาอีกระลอกอย่างห้ามใจไม่ได้
ปากร้อนโลมเลียดูดดื่มความหอมหวานสลับไปมาจนสองเต้าทรวงเปียกชื้น เขาจึงค่อยๆ ลดตัวจูบต่ำลงมาที่หน้าท้องพร้อมกับใช้ สองมือจับเข่ามนผลักให้อ้าออกจนกว้าง
ร่างอรชรสะดุ้งวาบไปทั้งตัว เมื่อใบหน้าหล่อเหลาซุกซบลงไปตรงนวลเนื้อสาว แล้วประกบปากกลางรอยแยกของกลีบพธู ริมฝีปากหยักร้อนดูดเม้มหนักเบาสลับกัน บางจังหวะก็ดูดแรงเสียจนสาวน้อยรู้สึกเหมือนว่าส่วนสาวของตนสั่นระริกไปหมด ข้อมือเล็กๆ ที่ถูกผูกอยู่สะบัดแรงตามระดับอารมณ์ซ่านสยิวที่พุ่งวาบขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นรอยแดง แต่เธอกลับไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บเพราะถูกความรู้สึกอย่างอื่นกลบจนหมดสิ้น
ชญาดาไม่หลงเหลือความยับยั้งชั่งใจใดๆ อีกแล้ว กลีบปากเย้ายวนเผยอครางแสนกระเส่าอย่างไม่อาจต้านทานความปั่นป่วนภายในได้
“อ๊าซ์...โอ้ว”
เรียวลิ้นแสนร้ายยังคงไต่วนอยู่ภายนอก แต่เปลี่ยนจากการดูดเม้มมาเป็นลิ้มเลียปาดไล้ขึ้นลงๆ ความสากระคายซึ่งแฝงไว้ด้วยความนุ่มที่แตะลงบนเนื้อนวลซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น ทำเอาสาวน้อยดิ้นพราดๆหอบหายใจถี่กระชั้นราวกับจะขาดใจเสียให้ได้
“โอว...อยะ...อย่า...อูยยย...คนบ้า...”
ปากก่นด่ากระท่อนกระแท่น แต่กลีบกุหลาบอ่อนนุ่มที่กำลังถูกปาดเลียด้วยลิ้นร้อนชื้นกลับสั่นระริก หนำซ้ำหน้าขาก็แอ่นหยัดขึ้น เชิดชิดใบหน้าหล่อเหลา ตามอารมณ์ร่วมที่รุนแรงแบบไม่เคยคาดเอาไว้
แมทธิวจูบไซ้บริเวณความสาวสดนั้นอยู่นาน ก่อนจะใช้สองนิ้วคลี่แย้มกลีบนุ่มให้เบ่งบานยิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าเธอยังเปิดเปลือยไม่พอ จากนั้นลิ้นสากซึ่งห่อเป็นแท่งก็ดำดิ่งเข้ากลางกลีบพธูสุดกระชับทันที
ร่างบางดิ้นเร่าๆ เหมือนปลาถูกทุบหัว สะโพกผายพยายามถอยร่นหนีความซ่านเสียวเร่าร้อนที่ถาโถมโครมๆ เข้ามาเหมือนคลื่นซัด แต่ก็ถูกมือใหญ่ที่ช้อนอยู่ใต้สะโพกจับตรึงเอาไว้แน่น ก่อนจะจับขาสองข้างของเธอขึ้นพาดบ่า ขณะที่แท่งลิ้นร้อนยังคงเดินหน้าทะลุทะลวงเข้าไปควานสำรวจภายในนวลเนื้อสาวคับแคบฉ่ำเยิ้มอย่างลึกซึ้งต่อไป
ลิ้นสากๆ ที่กระดกหนักสลับเบาอยู่ภายในทำให้ชญาดาเกิดอาการตัวอ่อนระทวยไปในทันที ใบหน้าหล่อเหลาจึงเริ่มโยกคลึงแท่งลิ้นเข้าออกๆ อย่างจัดเจนจนน้ำค้างพร่างพราวหลั่งล้นเปรอะเปื้อนบนจมูกโด่งไปหมด ทว่าแทนที่จะล่าถอยเขายิ่งคลุกเคล้าหนักหน่วง โดยไม่ได้อนาทรสักนิดว่าเธออ่อนเดียงสากับเรื่องพวกนี้มากเพียงใด
“โอยยย...ซี๊ดดด”
ริมฝีปากนุ่มปล่อยเสียงคราง ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบที่แทรกลึกอยู่ภายในก็ยิ่งเร่งกระดกแรงรัว ซ้ำยังละมือข้างหนึ่งมากดปุ่มเกสรสวย แล้วคลึงเคล้าบดวนจนซอกหลืบสาวเปียกโชกไปด้วยหยาดน้ำค้างพร่างพราว
ขาเรียวตวัดรัดรอบคอแกร่งเอาไว้แน่น สะโพกผายยกค้างรับความซ่านสยิวจากลิ้นร้อนและนิ้วเรียวยาวที่สามัคคีกันทำงานดีเหลือเกิน คลื่นความเสียวสยิวอัดแน่นไปทั่วร่างจนมันจวนเจียนจะระเบิดเต็มที แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นเพียงเสี้ยววินาทีเขาก็หยุดแล้วถอนลิ้นออกมาเอาดื้อๆ
ความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น ทำเอาชญาดารู้สึกวูบโหวง ร่างบางถึงกับแอ่นสะโพกตามอย่างลืมตัว มันช่างทรมานเหลือคณา อยากให้เขาลิ้มเลียดูดกินให้ถึงที่สุด เพื่อดับความทุรนทุรายที่กำลังเล่นงานร่างกายของเธออย่างหนัก
“คราวนี้คงรู้ซึ้งแล้วสินะว่าอาการค้างเติ่งมันเป็นยังไง”
แมทธิวเงยหน้าขึ้นพูดหลังจากที่ปลดเรียวขาของเธอลงจากบ่าแกร่ง ก่อนจะพลิกร่างบอบบางให้นอนคว่ำ แล้วฟาดมือลงบนลอนสะโพกขาวผ่องสามครั้งติดๆ กัน
“ส่วนที่ตีนี่ก็เพื่อให้หลาบจำ ว่าอย่าคิดทำอะไรแผลงๆ อีกไม่อย่างนั้นคราวหน้าจะเอาให้หนักกว่านี้”
เขาทั้งตีทั้งขู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปคลายเนกไทออกจากข้อมือเล็ก ชญาดาปล่อยโฮออกมาด้วยความเจ็บใจและสับสนในอารมณ์ ร่างบางพลิกตัวหันหลังให้เขาแล้วสะอึกสะอื้นจนตัวโยน
ปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบ นึกสงสารเอ็นดูขึ้นมาครามครัน จนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปปลอบประโลม ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นเช่นนั้นแท้ๆ
“ชูววว์...อย่าร้องสิคนเก่ง”
แมทธิวกระซิบนุ่มข้างหู แขนข้างหนึ่งสอดเข้าเอวเล็กแล้วพลิกร่างบางให้หันกลับมาหา ก่อนจะค่อยๆ จูบซับน้ำตาที่ไหลรินเต็มสองแก้มอย่างอ่อนโยนลึกซึ้งอย่างไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมีปฏิกิริยาเช่นนั้นกับผู้หญิงคนไหนได้ เธอทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องการกำราบเด็กดื้อ แต่พอทำแล้วเด็กดื้อร้องไห้ แทนที่จะสาสมใจกลับเกิดอยากปกป้อง อยากปลอบโยน และรู้สึกอยากจะเตะตัวเองที่ทำเธอเสียน้ำตา...
บ้าเอ๊ย!...นี่เขากลายเป็นคนขี้สงสารตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วเคยมีที่ไหนที่นอนกอดผู้หญิงบนเตียงโดยไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่ากอดจูบลูบคลำ แม้จะจูบหลายที่ไปหน่อยก็เถอะ!