บทนำ
ณ บ้านอัครวิทยเดชากุล
สีหน้าวิตกกังวลของชายชราวัยเลยห้าสิบปีเผยออกมาอย่างชัดเจนเมื่อในตอนนี้ธุรกิจร้านทองของเขากำลังมีปัญหาหนักถึงล้มละลายด้วยความนายภานุพงศ์เป็นพวกบ้าเล่นการพนันทำให้เป็นหนี้มากมายโดยเฉพาะเพื่อนเก่าอย่างนฤชัย วรโชติวาทิน รวมนับยี่สิบล้านหลายเดือนมานี้ชายชราไม่มีเงินไปผ่อนแม้กระทั่งดอก
ด้วยความไม่พอใจในตัวเพื่อนเก่าที่ติดการพนันนฤชัยจึงเร่งหนี้สินโดยให้ข้อเสนอสองข้อคือหนึ่งยกบ้านและทรัพย์สินทั้งหมดของอัครวิทยเดชากุลให้เขาทั้งหมดซึ่งจะทำให้ภานุพงศ์ไม่เหลืออะไรเลย และข้อสุดท้ายคือการยกลูกสาวของภานุพงศ์ให้แต่งงานกับลูกชายของเขา นฤชัยจึงจะยกหนี้ให้ทั้งหมด
“คุณพ่อแล้วเราจะทำยังไงดี พิมพ์เกลียดพวก วรโชติวาทินที่สุดจะให้แต่งงานไปอยู่กินกับพวกชาวไร่ชาวสวนแบบนั้น แค่คิดก็ขนลุกแล้ว” พิมพ์ หรือ พิมพ์ประพาย อัครวิทยเดชากุล หญิงสาวอายุ 27ปี เปิดธุรกิจโรงแรมร่วมกับเพื่อน นิสัยชอบโวยวายอยากได้อะไรก็ต้องได้ด้วยความเป็นลูกคนโตที่นายภานุพงศ์เลี้ยงดูมาอย่างตามใจ พิมพ์ประพายเดินไปเดินมาพร้อมโวยวายใส่ผู้เป็นพ่ออย่างไม่พอใจ
“ยิ่งเจ้าลูกชายนายอะไรนั่นอ่ะ พิมพ์ยิ่งไม่ชอบหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ คุณพ่อต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยนะคะ"หญิงสาวยังโวยวายไม่หยุด ยิ่งทำให้ชายชราคิดหนักมากกว่าเดิม
“แต่ถ้าเราไม่ยอมแต่งงานบ้านเราจะล้มละลายนะลูก” ภานุพงศ์พยายามอธิบาย
“พิมพ์ไม่ยอมเป็นคนตกอับหรอกนะคะ และพิมพ์ก็ไม่ยอมแต่งงานแน่ๆ ถ้าคุณพ่ออยากให้ครอบครัวของเรามีหน้ามีตาเชิดชูอยู่ในสังคมนี้ คุณพ่อต้องให้ยัยน้ำข้าวแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวนั่นซิคะ ดีซะอีกพิมพ์เบื่อหน้ามัน”
น้ำข้าวหรือ รัศมิ์ภัชสรณ์ อัครวิทยเดชากุล ลูกสาวคนเล็กของบ้าน ที่ทั้งคุณพ่อและพี่สาวต่างไม่มีใครสนใจเธอเลย
“อืม….. พ่อก็คิดแบบนั้นเราก็ไม่ต้องเสียเงินยี่สิบล้านไปฟรีๆ ลูกรักของพ่อทำไมฉลาดแบบนี้ ว่าแต่นังน้ำข้าวมันหายไปไหน แจ่มๆ ไปตามตัวน้ำข้าวมาหาฉันเดี๋ยวนี้” ภานุพงศ์บอกแม่บ้านไปตามลูกสาวคนเล็ก
น้ำข้าวนั่งช่วยแม่นมทำกับข้าวในครัว เธอจบทางด้านการท่องเที่ยวจากมหาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ยังไม่ได้ทำงานเป็นกิจจะลักษณะแต่เธอต้องมาช่วยพี่สาวอยู่ที่โรงแรม ซึ่งเธอไม่อยากทำที่นั่นแต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ น้ำข้าวเข้าใจดีว่าทำไมทั้งพ่อและพี่สาวถึงไม่ชอบเธอเลย จนตอนนี้เธอพยายามยอมรับมันได้แล้วเพราะเธอมันตัวซวยใครๆ ก็ไม่เห็นค่า
“คุณหนูคะ นายท่านให้มาตามคุณหนูให้ไปที่ห้องนั่งเล่นค่ะ” แจ่มพูดพร้อมทำหน้าเศร้าๆ แทนเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างน้ำข้าว พอได้ยินว่าชายชราให้ไปหาสีหน้าของหญิงสาวก็ดูเศร้าลงทันที
‘วันนี้เราจะเจอคุณพ่อด่าเรื่องอะไรอีกเนี้ย’หญิงสาวคิดในใจแต่ก็ต้องรีบเดินไปหาชายชราอย่างว่าง่าย
“มาแล้วเหรอ ให้ฉันกับคุณพ่อรอตั้งนาน” พิมพ์พูดกระแทกใส่ด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายหญิงสาวอีกคน
“ขอโทษค่ะพี่พิมพ์” เธอนั่งลงพื้นเหมือนคนใช่คนอื่นๆ ในบ้านเพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็ทำแบบนี้มานานแล้ว
“ยัยน้ำข้าว เธอรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้สถานการณ์บ้านเราเป็นยังไง”
“รู้ค่ะ”
“ดีที่แกรู้ ฟังฉันนะฉันจะให้แกแต่งงานกับเจ้าหนี้ของครอบครัวเรา เข้าใจไหม” ภานุพงศ์บอกลูกสาวอย่างไม่รีรอ น้ำข้าวได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจไม่น้อย หญิงสาวร่างบางอรชรตัวสั่นขึ้น
“แต่หนูไม่อยากจากคุณพ่อกับพี่พิมพ์ไปนี่คะ หนูไม่อยากแต่งงาน” น้ำข้าวร้องไห้ออกมาทันที เธอไม่อยากแต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้
“ถ้าแกรักฉันรักพี่แก แกก็ต้องทำเพราะครอบครัวเรากำลังแย่ ฉันขอแค่นี้ให้ไม่ได้รึไงฉันเลี้ยงแกมาให้ที่อยู่ที่อาศัยเคยสำนึกบ้างไหม” น้ำข้าวยิ่งร้องไห้เข้าไปอีก หญิงสาวเข้าไปกอดขาพ่อแน่นอย่างอ้อนวอน จะต่อว่าจะด่าอะไรเธอ เธอทนได้แต่อย่าผลักไสให้เธอออกไปจากบ้านหลังนี้เลยเธอทำใจไม่ได้ แต่ทว่าสายตาที่ชายชรามองมานั้นกับคำพูดขอร้องทำให้หญิงสาวยากจะปฏิเสธ
“หนูรู้ตัวดี คุณพ่อและพี่พิมพ์ดีกับหนูมาตลอดพ่อดูแลไม่เคยให้หนูต้องลำบาก” ถึงแม้ว่าภานุพงศ์จะเกลียดลูกสาวคนนี้มากก็ตาม แต่ก็ไม่ปล่อยให้น้ำข้าวต้องอดยาก
“งั้นแกก็ต้องทำตามที่คุณพ่อสั่ง เข้าใจไหม” พิมพ์ประพายกำชับน้องสาว
“ค่ะพี่พิมพ์” ในที่สุดเธอก็ยอมรับปากทำเอาทั้งสองพ่อลูกยิ้มออกนอกหน้ากันใหญ่ น้ำข้าวไม่อยากแต่งงานแต่เธอเองก็อยากตอบแทนพ่อและพี่ของเธอ เลยยอมที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น
“ดีมาก บางทีนะทางฝั่งนั้นเขาอาจจะดีกับแกก็ได้ แกจะมาหาพ่อมาหาแม่นมของแกก็มาอย่าร้องไห้อีกนะ ฉันไม่ชอบ” พิมพ์บอกน้องสาว ทำเอาน้ำข้าวรีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว