[EPISODE1 เสียเพื่อน]
สามีปีฉลู [สามีปีนักษัตร]
[EPISODE1 เสียเพื่อน]
[บันทึกพิเศษ: วอร์]
“วอร์! เจอนายก็ดีเลย ถามจริงนายเพี้ยนไปแล้วรึไงถึงบอกใคร ๆ ว่านายชอบฉัน ฉันเป็นผู้ชายแล้วก็เป็นเพื่อนนายนะเว้ย!”
เสียงโวยวายของคนตรงหน้าที่โพล่งขึ้นมาท่ามกลางผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ในงานเทศกาลสัตว์เลี้ยง ทำให้ผมหน้าชาวาบไปหมด ความตกใจระคนสับสนเพราะไม่รู้ว่าหมอนี่รู้ได้ยังไงว่าผมคิดกับเขาเกินเพื่อน ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยพูดหรือแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้เลย
“ไม่ใช่...นายไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ฉันเปล่านะ” ผมละล่ำละลักปฏิเสธเมื่อเห็นว่า ‘เตชินท์’ เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันกำลังมองมายังผมด้วยสีหน้าขยะแขยงอย่างชัดเจน ผู้คนรอบ ๆ ก็มองมายังผมราวเห็นตัวประหลาดทั้ง ๆ ที่ค่านิยมของโลกใบนี้มันผันเปลี่ยนมาไกลมากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงไม่ชอบใจคนที่รักชอบเพศเดียวกันอย่างผมสินะ
“นายอย่ามาแก้ตัว พิมพ์มี่บอกฉันหมดแล้ว วันก่อนที่นายเมามีผู้หญิงมาขอคบกับนาย แต่นายบอกว่านายชอบฉัน มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง” เตชินท์ย้อนผมกลับมา ทำเอาผมถึงกับมือไม้สั่นไปหมด
ไม่จริงน่า! คืนนั้นผมปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นด้วยคำพูดเหล่านี้งั้นเหรอ ผมพูดมันออกไปได้ยังไง
“ไม่ใช่นะ...ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันอธิบายได้” ผมรีบแย้ง แล้วจะเข้าไปอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ เพราะผมไม่อยากเสียความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่มีมานาน เพราะคำพูดพล่อย ๆ ของผม
“นายพูดไม่ขึ้นหรอกวอร์ พิมพ์มี่เอาคลิปที่นายเมาคืนนั้นมาให้เตดูแล้ว ฉันก็เห็นนะว่านายพูดแบบนั้นจริง ๆ” ยิ่งได้รับการยืนยันจากสาวสวยคนล่าสุดที่เตชินท์ควงมาด้วย ผมก็ยิ่งเหมือนคนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“นายคิดกับฉันแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ คิดบ้างไหมว่าฉันจะรู้สึกยังไง ทำไมนายทำกับฉันแบบนี้วะ!” เตชินท์ถามผมมาอีกคำ ทำให้ผมได้แต่ขอบตาร้อนผ่าวไปหมด
แม่ง! มันคงไม่เหลือแล้วสินะ ความเป็นเพื่อนที่มีมานานมันคงต้องจบสิ้นลงวันนี้แล้วใช่ไหม เพราะสายตาของหมอนั่นที่มองมายังผม มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
“มีอะไรกันเหรอ พวกเขาแย่งสาวสวยกันรึไง”
“ไม่ใช่เธอ ผู้ชายคนขาว ๆ เขาแอบชอบเพื่อนตัวเองน่ะ แต่เพื่อนดันไม่ใช่เกย์ ก็เลยโกรธกันน่าดู ทำตัวน่าอายจัง”
“จริงเหรอ น่าเสียดายนะ หน้าตาก็ดีขนาดนั้นไม่น่าเป็นเกย์เลย เสียดายจัง”
เสียงแว่วของผู้คนรอบข้างช่วยตอกย้ำสถานการณ์เลวร้ายนี้ให้ผมได้เป็นอย่างดี ทำให้ผมตระหนักได้แล้วว่าผมมันน่ารังเกียจแค่ไหนที่ทรยศความเป็นเพื่อนของเตชินท์ ผู้ชายที่คบหาแค่กับผู้หญิงมาโดยตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะเป็นพวกสนใจในเพศเดียวกัน
การที่หมอนี่ได้รู้ความรู้สึกของผม เขาก็คงจะรับเรื่องนี้ได้ยากเหมือนกัน ผมทำพลาดแล้วจริง ๆ ผมทำให้เตชินท์รู้สึกไม่ดีเสียแล้ว
“นายจะไม่พูดใช่ไหม ได้! นายไม่ต้องพูดก็ได้วอร์ แต่นายช่วยรู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วฉันก็ขนลุกกับความรู้สึกของนายจริง ๆ นะ” เตชินท์พูดขึ้นอย่างถนอมน้ำใจผมสุด ๆ แล้วผมรู้ดี แต่นั่นก็ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปทีเดียว น้ำเสียงของเขา สายตาของเขาที่แสดงออกมามันทำให้ผมเจ็บปวดไม่น้อยเลย
“เตคือว่าฉัน...”
“นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เรื่องที่ฉันจะพูดก็ได้พูดไปหมดแล้วด้วย หวังว่าเราจะจากกันด้วยดีนะ อย่าคิดจะพูดอะไรให้ฉันต้องรังเกียจและขยะแขยงนายไปมากกว่านี้เลย”
เตชินท์ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะให้ผมได้พูดอะไรอีก เขาตัดบทด้วยถ้อยคำร้ายกาจแค่นั้นแล้วเดินจากไปพร้อมกับคู่ควงสาวคนสวย ปล่อยให้ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางถ้อยคำนินทา และสายตาของผู้คนที่แสดงออกว่ารังเกียจเพศที่สามอย่างผมชัดเจน
ผมได้แต่เดินออกมาจากงานเทศกาล ราวกับร่างที่วิญญาณค่อย ๆ แตกสลายลง ผมอุตส่าห์เก็บซ่อนความรู้สึกที่มีต่อเตชินท์มาถึงเจ็ดปี ยอมอยู่ข้างกายเขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเตชินท์คบผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า แต่ผมก็ยังคิดว่าแค่เขายังอยู่ข้างกายผมมันก็น่าจะพอแล้ว ซึ่งพอทบทวนมาถึงตรงนี้ มันก็ดูโง่เง่าดีที่ผมยังคงยึดติดอยู่กับคน ๆ เดียว แต่ไม่ใช่ว่าตลอดเจ็ดปีมานี้ผมจะไม่ลองคบกับใครนะ แน่นอนว่าคนหน้าตาดีในระดับชะนียังเหลียวหลังอย่างผม ก็เคยลองคบกับใครมาบ้างแล้วล่ะ
แต่ไม่ว่าจะลองวันไนท์สแตนด์กับใคร สุดท้ายวันต่อมาผมก็มักจะรู้สึกผิดต่อเตชินท์ มันเป็นความคิดปัญญาอ่อนอย่างเช่น ผมควรจะเก็บเนื้อตัวไว้เพื่อเขา ไม่ใช่ไปเอากับคนอื่นเพื่อที่จะหาใครสักคนที่สามารถมาทดแทนคนที่ไม่มีทางมีใจให้ผมได้อย่างเตชินท์
พอคิดมาถึงตรงนี้แม่งก็ยิ่งน่าสมเพช เพราะผมต้องการหมอนั่นมาก เลยใช้ร่างกายคนที่เดินเข้ามาหาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง และเขี่ยคนเหล่านั้นทิ้งไป เมื่อต่างฝ่ายต่างพึงพอใจในค่ำคืน
ผมผูกติดความรู้สึกตัวเองไว้ที่เตชินท์ โดยไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าจะทำร้ายความรู้สึกของใครก็ตามที่เข้ามาและอยากสานความสัมพันธ์ต่อ
ผมเองก็เลว...สมควรแล้วที่โดนหมอนั่นรังเกียจ
หลังจากวันนั้นผมก็ได้แต่เก็บตัวอยู่ในคอนโดฯ ไม่คิดที่จะเข้าไปดูโลกโซเชียล รับสาย ตอบข้อความ หรือออกไปพบปะเพื่อนฝูงแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าข่าวของผมมันคงแพร่สะพัดไปไกลแล้ว แต่ผมก็ไม่คิดจะโทษใครหรอก มันต้องโทษที่ใจไม่รักดีของผมเอง ที่ดันคิดเกินเพื่อนกับเตชินท์ เพียงคิดว่าแค่เขาไม่รู้ ผมก็จะสามารถอยู่กับเขาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่คำที่ว่า ‘ความลับไม่ในโลก’ มันก็ยังคงเป็นคำที่ใช้ได้เสมอ ความลับของผมมันไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป และผมได้เสียเพื่อนสนิทไปแล้วเช่นกัน
[จบบันทึกพิเศษ: วอร์]