บท
ตั้งค่า

4 หมั้นหมาย [สามีปีจอ]

4

หมั้นหมาย

“ได้จ้ะ หมั้นไว้แล้วดูใจกันก่อนก็เป็นวิธีที่ดีเหมือนกัน” อลินดาพูดอย่างเห็นดีเห็นงามจนอชิระแปลกใจที่แม่เขายอมรับง่ายขนาดนี้ ส่วนอัยย์ญาดาก็โล่งใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะชะงักกับประโยคถัดมาของอลินดาที่หันไปหารือกับเดวิด เอเดรียนและกาญจนา

“แต่ระหว่างนี้ ฉันจะให้ทั้งสองคนย้ายไปลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก่อนดีไหม?”

“แม่ครับ...” อชิระเตรียมแย้งแต่อลินดาก็เอ่ยต่อ

“เมืองนอกเขาก็ทำกันแบบนี้ จะได้รู้กันชัดๆ ไปเลยว่าเข้ากันได้ไหม” อลินดาพูดด้วยแววตาคมกริบ

“แต่ว่าอัยย์ญ่าเป็นผู้หญิงนะครับ” อชิระรีบสวมวิญญาณสุภาพบุรุษออกโรงเอ่ยปากปกป้องทันที

“ไม่งั้นจะให้ฉันเชื่อได้ไงว่าแกจะเอาเวลาไปเรียนรู้และทำความรู้จักกับหนูอัยย์ญ่าจริงๆ” อลินดาดักคอ

“นั่นสิ” เดวิดสนับสนุน

“แล้วลูกล่ะจ๊ะอัยย์ญ่า?” กาญจนาถามลูกสาวตัวเอง

“ถ้า...คุณป้าเห็นว่าดี หนูก็ว่าดีค่ะ” อัยย์ญาดาตอบอย่างเห็นดีเห็นงามด้วย

“ขอบใจนะจ๊ะที่เข้าใจพวกเรา หนูนี่น่ารักจริงๆ” อลินดากล่าวชม ไม่เสียแรงที่เธอเล็งอัยย์ญาดาไว้

“ส่วนเรื่องในการควบคุมตาอชิไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ป้าให้สิทธิ์หนูเต็มที่เลยนะจ๊ะ”

หญิงสาวยิ้มรับหน้าชื่นตาบานโดยไม่สะทกสะท้านต่อสายตาก่นด่าสาปแช่งของอชิระที่ได้แต่โวยวายในใจ ทำไมตอนนี้เหมือนเขาถูกรุมอยู่คนเดียว ส่วนยัยตัวต้นคิดลอยชายกลายเป็นนางฟ้าในสายตาทุกคน

แสบนักนะ!

“เดี๋ยวค่าใช้จ่ายต่างๆ ของหนูอัยย์ญ่าหลังย้ายไปอยู่ด้วยกัน ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” อลินดาเอ่ย

“ไม่เป็นไรค่ะ จะยังไงอัยย์ญ่าก็เป็นลูกของพวกเรา” กาญจนาปฏิเสธ

“ไม่เป็นไรเลย ฉันเองก็รู้สึกรักและเอ็นดูหนูอัยย์ญ่าเหมือนลูกแท้ๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอัยย์ทำพาร์ตไทม์หางานใช้ได้อยู่ค่ะ” อัยย์ญาดาปรามศึกที่กำลังเกิดขึ้นกลายๆ

เรื่องภายนอกกับธุรกิจ เดวิดก็เป็นผู้นำตระกูลที่มีหน้าที่บัญชาการนั่นแหละ แต่เรื่องภายใน เหมือนเขาจะเป็นช้างเท้าหลังแฮะ

“ได้ไงกัน!? เอาอย่างนี้ หนูก็รับเงินจากทั้งฉันทั้งกาญเลยละกัน” อลินดาหาข้อสรุปเสร็จสรรพ

“จะ...ดีเหรอคะ??” อัยย์ญาดาแสร้งถามเสียงเรียบ ผิดกับในใจที่รู้สึกลิงโลดกับการจะได้เงินเดือน 2 เท่า!

“ดีสิจ๊ะ” เป็นกาญจนาที่พูดขึ้นมา

“ถ้าอย่างงั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วครับ” อชิระที่ได้แต่ทำตาปริบๆ พูดคล้อยตาม ยังไงเขามันก็ตัวคนเดียวอยู่แล้วนี่หึ!

“อ้อ! ฉันลืมบอกอีกอย่าง ถึงพวกเธอจะยังเป็นแค่คู่หมั้นกันแต่...” อลินดาเว้นช่วงสักพัก แล้วกล่าวต่อ

“ถ้าวันไหนแกเกิดล่วงเกินหนูอัยย์ญ่าขึ้นมา แกต้องรับผิดชอบน้องเขา เข้าใจไหม!?”

“ครับแม่” อชิระรับคำอย่างหมดทางเลือก ขณะที่ในใจเอ่ยกับตัวเองหนักแน่นว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น!

--------------------------

“นี่เธอ!” อชิระถามเสียงลอดไรฟันหลังได้รับมอบหมายให้พาตัวอัยย์ญาดากลับไปส่งเลยมีโอกาสอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

“ฉันอุตส่าห์ช่วยเธอแท้ๆ ทำไมเธอไม่ช่วยฉันบ้าง?”

“จะให้ช่วยยังไงล่ะคะ!? คุณดูพ่อแม่คุณก่อนไหม” อัยย์ญาดากล่าว ก่อนจะพูดต่อ

“น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง คุณไม่เคยได้ยินเหรอ?”

“แต่เธอเป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมานะ!”

“ทุกอย่างปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ค่ะ” จากนั้นอัยย์ญาดาก็พูดพร้อมกับยักไหล่

“เอาน่า กว่าฉันจะเรียนจบก็ตั้งเกือบปี พวกเราแค่ทนอยู่บ้านเดียวกัน จากนั้นค่อยบอกเข้ากันไม่ได้แค่นั้นเอง”

“เฮอะ! เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าถึงตอนนั้น ยังไงแม่ฉันก็จะต้องบังคับให้พวกเราแต่งงานกันอยู่ดี”

“ฉันเชื่อว่าพวกท่านแฟร์พอ ถ้าอยู่ด้วยกันขนาดนั้นแล้วบอกพวกท่านว่าเข้ากันไม่ได้เลย คงไม่บังคับหรอกค่ะ” เธอเอ่ย

“แล้วมันเรื่องอะไรที่ฉันจะต้องทนเห็นหน้าเธอไปทั้งปีฮะ!?”

“คิดว่าฉันอยากทนเห็นหน้าคุณเหรอ!? เตรียมกั้นห้องแยกไว้ให้ฉันได้เลยค่ะ!” อัยย์ญาดาตอบกลับด้วยแววตาจริงจัง

“ผมต้องทำอยู่แล้ว!!” อชิระกล่าวพร้อมกับจ้องเธอกลับอย่างไม่ยอมแพ้

--------------------------

“อัยย์ญ่า ลูกโอเคจริงๆ ใช่ไหม?”

“โอเคค่ะ” อัยย์ญาดาตอบแม่พร้อมกับยิ้มบางๆ ไม่แปลกใจที่เอเดรียนกับกาญจนาจะเป็นห่วง เพราะตอนแรกคนที่มีทีท่าไม่โอเคที่สุดคือเธอ

“พอลองคุยดูแล้ว คุณอชิเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าสนใจดีค่ะ ลองหมั้นกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย” ตรงกลางประโยคขอสารภาพ เธอเกือบจะโก่งคออาเจียนออกมาแล้ว คนที่ดูเป็นผู้ใหญ่น่ะเธอต่างหาก

“อีกอย่าง อัยย์เข้าใจคุณป้าอลินดาค่ะ”

“โอเคจ้ะ ถ้าลูกคิดแบบนี้แม่กับพ่อก็สบายใจ” กาญจนาพูดด้วยรอยยิ้มโดยมีเอเดรียนพยักหน้าสนับสนุน

“แต่แม่ต้องคิดถึงลูกมากแน่ๆ เลย”

“อัยย์จะกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ทุกอาทิตย์เลยค่ะ” อัยย์ญาดาให้คำมั่น ก่อนที่ทั้งสามคนจะกอดกันกลมตามประสาครอบครัวอบอุ่น...

--------------------------

งานหมั้นของทั้งคู่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เป็นส่วนตัว มีเพียงพ่อกับแม่ทั้งคู่ที่มาเพื่อเป็นสักขีพยาน ทำให้อชิระโล่งใจที่อย่างน้อยอลินดาก็ยังยอมรับฟังคำขอไม่ประกาศสถานะของเขาไปจนเอิกเกริก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แน่นอนว่าจะบอกแค่กลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น เช่นเดียวกับอัยย์ญาดา

ถึงอย่างงั้น อลินดายังทุ่มเงินจัดธีมชุดไทยสุดวิจิตรตามความต้องการของกาญจนา

“ขอบคุณพ่อกับแม่มากๆ นะคะ” อัยย์ญาดาในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพนมมือไหว้ทั้งคู่ เธอจะถือว่านี่คือบททดสอบในชีวิตของเธอละกัน

“ป้าฝากอชิดูแลอัยย์ญ่าด้วยนะลูก” กาญจนากล่าวกับอชิระขณะเขาไหว้เธอ

“อัยย์ญ่าอาจจะดื้อไปบ้าง แต่น้องก็พูดคุยกันด้วยเหตุผลได้นะ” เอเดรียนกล่าว

“ครับ คุณลุงคุณป้าไม่ต้องห่วงนะครับ” อชิระในชุดไทยเข้ากับอัยย์ญาดาสวมบทบาทสุภาพบุรุษพูดพร้อมกับส่งยิ้มร่าเริง ก่อนจะรับศีลรับพรจากผู้หลักผู้ใหญ่แล้วสวมแหวนทองคำขาวประดับเพชรเม็ดเล็กให้อัยย์ญาดา หลังเสร็จสิ้นพิธีและเปลี่ยนเสื้อผ้า ทั้งคู่ก็ถูกพ่อแม่มอบหมายให้ไปซื้อของใช้เข้าบ้านร่วมกัน บ้านที่พวกเขารู้แค่ว่ามีสองชั้น อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดไฮของประเทศ

แต่หน้าที่ในการเลือกของส่วนมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นของลูฟา เลขาคนสนิทของอชิระเสียมากกว่า ส่วนอัยย์ญาดาไม่ได้ต้องการอะไรมากเลยมานั่งในร้านกาแฟหรู

“เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่าค่ะคุณอชิ” เธอพูดกับคนที่วางแก้วอเมริกาโน่ลงตรงหน้า

“ข้อตกลงอะไร?”

“ข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันไงคะ”

“ข้อแรก...” เธอเอ่ย วินาทีที่ยกนิ้วลูบเพชรที่หัวแหวน พลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ในวันที่ความสัมพันธ์จบลง เธอก็ไม่จำเป็นต้องคืนให้เพราะนี่คือของหมั้น เท่ากับได้แหวนไปใช้หรือหารายได้ต่อฟรีๆ การหมั้นครั้งนี้ไม่นับว่าเสียเปรียบนัก

“ว่ามาสิ” อชิระเอ่ยเสียงขรึม

“ก็...” อัยย์ญาดาที่ได้สติกลับมาเว้นช่วงแล้วเอ่ยต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ

“คุณห้ามล่วงเกินฉัน”

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่คิดพิศวาสอะไรผู้หญิงแบบคุณหรอก” อชิระพูดด้วยแววตาจริงจัง สวนทางกับมโนธรรมในใจ ก็นะ ผิวขาวเนียนที่โผล่ออกมาทำให้อดจินตนาการถึงเรือนกายใต้ร่มผ้าไม่ได้ ยิ่งนึกไปถึงค่ำคืนในคลับด้วยแล้ว

จะว่าไป...เขายังไม่ได้บอกจ้าวหมิงเลยว่ายัยน้องดาที่มันกะจะฟันกลายมาเป็นคู่หมั้นเขาแล้ว และในฐานะนี้คงปล่อยให้มันทำตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาหวงอะไรนะ แต่เรื่องนี้ไม่สมควรต่างหาก

“เหอะ!” อัยย์ญาดาแค่นเสียง เธอก็ไม่ได้อยากให้คนเจ้าชู้ตาถั่วมาคิดอะไรกับตัวเองอยู่แล้ว ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากอชิระ

“คุณน่ะอย่ามาล่วงเกินผมละกัน”

“ตลกละคุณ”

“เผื่อคุณเมาไง เห็นชอบเที่ยวนี่”

“คุณเก็บไว้บอกตัวเองเถอะ” เธอพูดพร้อมกับเชิดหน้า ก่อนที่อชิระจะพูดอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้

“แล้วก็คุณไม่มีสิทธิ์มาขอเช็กโทรศัพท์หรือยุ่มย่ามอะไรกับเสื้อผ้าผม”

“คุณคะ ดูละครมากไปหรือเปล่า? อีกอย่าง เวลาฉันมีค่ากว่ามาทำเรื่องไร้สาระพวกนี้นะ” อัยย์ญาดาพูดด้วยท่าทางสงบ

“ก็ดี” อชิระกล่าวแม้จะเสียหน้าเล็กน้อย

“ส่วนเรื่องบรรดาผู้หญิงทั้งหลายของคุณ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามวุ่นวายหรอกค่ะ ตราบใดที่คุณไม่ไปควงพวกหล่อนออกสื่อหรือทำอะไรให้เสี่ยงโป๊ะจนคุณแม่คุณสงสัย” อัยย์ญาดาเอ่ย

“และนั่นหมายความว่าระหว่างนี้ ฉันมีสิทธิ์ทำความรู้จักกับใครก็ได้เช่นกัน”

“อย่าให้มันเกินงามนักล่ะ ผมยังไม่อยากได้ชื่อว่าถูกคู่หมั้นสวมเขาหรอกนะ”

“แน่นอนค่ะ” เธอรับคำแล้วก้มลงดูดนมปั่นจนหมดแก้ว ไม่คิดจะบริหารเสน่ห์อะไรใส่คนตรงหน้าหรอก เพราะกลัวทำไปทำมาเขาจะเกิดติดใจจนไม่ยอมยกเลิกพันธะน่ะสิ!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel