บทย่อ
ข้าคือจันทร์ขาวในดวงใจของฮ่องเต้ ผู้จากไปก่อนวัยอันควร ทว่าพระองค์กลับทอดรักให้เงาแทนข้าในภายหลัง อ้างความคิดถึงข้าเป็นเหตุ ทำสิ่งเหลวไหลเพียงเพื่อเอาใจนาง ปล่อยให้นางทำลายรูปสลักของข้า เผาสุสานของข้า ฆ่าผู้ที่ข้ารัก… ยามที่ เงาแทนข้าสำคัญตนว่าสามารถควบคุมฮ่องเต้ได้ทั้งหมดนั้นเอง ข้าก็ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว!
บทที่ 1
ข้าคือจันทร์ขาวในดวงใจของฮ่องเต้ ผู้จากไปก่อนวัยอันควร ทว่าพระองค์กลับทอดรักให้เงาแทนข้าในภายหลัง
อ้างความคิดถึงข้าเป็นเหตุ ทำสิ่งเหลวไหลเพียงเพื่อเอาใจนาง
ปล่อยให้นางทำลายรูปสลักของข้า เผาสุสานของข้า ฆ่าผู้ที่ข้ารัก…
ยามที่ เงาแทนข้าสำคัญตนว่าสามารถควบคุมฮ่องเต้ได้ทั้งหมดนั้นเอง
ข้าก็ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว!
——
ข้าคือผู้ทำชะตาภารกิจที่ถูกระบบชะตาภารกิจส่งมาเพื่อช่วยเซี่ยหลิวจืงผนึกแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว
ในการศึกสุดท้ายของภารกิจ ข้าฉุดผู้นำศัตรูโดดลงเหวไปด้วยกัน แลกชีวิตเพื่อปิดฉากสงคราม
หลังความตายของข้า เซี่ยหลิวจืงเสด็จขึ้นครองราชย์ รวมผืนแผ่นดินทั้งปวง สถาปนาแคว้นอันกว้างใหญ่ไพศาลนามว่า แคว้นต้าเซี่ย
เขาได้สร้างเทพสักการะของข้า สร้างหลุมศพไร้สรีระ และตั้งแผ่นวิญญาณของข้าไว้ใน มหาวิหารบรรพกษัตริย์
แม้เหล่าขุนนางจะคัดค้านสักเพียงใด พระองค์ก็ยังทรงพระราชทานพระอิสริยศักดิ์ให้ข้าเป็นจื๊อเทียนฮองเฮาในที่สุด
ทว่าความลึกซึ้งในรักนั้นกลับคงอยู่ได้เพียงสามปีเท่านั้น
ครั้นล่วงเข้าปีที่สาม เมื่อพระองค์เสด็จออกตรวจแผ่นดิน ก็ได้บังเอิญพบนางขับเพลงผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายข้าอยู่หลายส่วน
แรกเริ่ม ทุกผู้คนล้วนคิดว่าพระองค์เพียงแสวงหาเงาแทนข้าเพื่อปลอบประโลมใจเท่านั้น
จนกระทั่ง นางขับเพลงผู้หลงอำนาจความโปรดปราน ทุบทำลายเทพสักการะของข้า เผาสุสานของข้า ฆ่ามิตรสหายและญาติผู้ใกล้ชิดของข้า
ผู้คนถึงได้ตระหนักว่า เซี่ยหลิวจืงได้ลืมเลือนข้าไปเนิ่นนานแล้ว
และสิ่งที่ถูกลืมเลือนหายไปพร้อมกับข้า ก็คือปณิธานในวันวานที่จะเยียวยาปวงชน และเทิดกู้แผ่นดินให้รุ่งเรืองอีกครั้ง
เขาฆ่าฟันเหล่าขุนนางผู้มีความชอบ รีดภาษีอย่างทารุณ จนเสียงเดือดร้อนของผู้คนดังก้องไปทั่วแผ่นดิน
ผืนดินที่เพิ่งกลับมาสงบสุขได้ไม่นาน ก็ถูกไฟสงครามลุกโหมขึ้นอีกครั้ง
เมื่อระบบชะตาภารกิจเห็นดังนั้นก็ไม่อาจทนเฉย จึงส่งผู้ทำชะตาภารกิจ นับไม่ถ้วนที่ผู้มี เค้าหน้าใกล้เคียงข้าอย่างยิ่ง ไปทำหน้าที่“ชี้นำและแก้ไขเส้นทางชะตา”ของเซี่ยหลิวจืง
หวังจะดึงเขากลับจากหนทางอันวิปลาสให้จงได้.
แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เหล่านางกลับเลือกไปแก่งแย่งชิงดีแข่งเด่นกับนางขับเพลง แย่งความรักความโปรดปรานจากเซี่ยหลิวจืง
ทว่า การช่วงชิงความโปรดปราน เหล่านั้น กลับค่อย ๆ บั่นทอนความชื่นชมแรกเริ่มที่เซี่ยหลิวจืงมีต่อพวกนางจนหมดสิ้น
ท้ายที่สุด เมื่อพวกนางและนางขับเพลงตกสู่ห้วงความเป็นความตายพร้อมกัน เซี่ยหลิวจืงกลับเลือกยื่นมือช่วยนางขับเพลงโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
บรรดาผู้ทำชะตาภารกิจจึงตายอย่างน่าอนาถทีละคน แต่ละนางล้วนสิ้นใจไปพร้อมกับความไม่ยอมรับชะตา และความงุนงงที่ตามหาคำตอบไม่ได้
เหตุใดพวกนางเหล่านั้น ไม่ว่าชาติกำเนิด ความงาม ความสามารถ ซึ่งล้วนเลิศล้ำกว่านางขับเพลงเป็นร้อยเท่า กลับมิอาจเป็น “จันทร์ขาวในดวงใจ” ได้อย่างแท้จริง?
เหตุใดถึงยังพ่ายแพ้นางอยู่ดี?
ความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกระทั่งระบบชะตาภารกิจเองยังรู้สึกเหมือนจะเข้าสู่ความหม่นหมอง
สุดท้ายระบบชะตาภารกิจจึงทำได้เพียงมาหาข้า
ข้ามองบันทึกการ “ชี้นำชะตา” ทั้งหลายที่มันมอบให้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่น
นี่มัน…ตรงไหนกันที่บอกว่าเหมือนข้า?
ข้า มู่เทียนเกอ หาใช่นางอ่อนหวานที่มัวแต่หวงรัก ชิงดีชิงเด่นกับสตรีอื่นเพื่อหนุ่มผู้หนึ่งไม่
ข้าคือแม่ทัพผู้ควบม้าโผนทะยานในสมรภูมิ คือเทพแห่งสงครามที่ทำให้ศัตรูหวาดผวาเพียงได้ยินชื่อ
ไปเอาใจชายผู้คนเดียว พี่น้องทั้งหลายเอ๋ย ความคิดเช่นนี้มันแคบเกินไปจริง ๆนะ!
คำว่าจันทร์ขาวในดวงใจนั้นควรเป็นดวงจันทร์ที่สถิตสูงบนฟากฟ้าให้บุรุษได้เงยหน้ามองอย่างหลงใหล แต่ไม่มีวันเอื้อมถึงได้เลยแม้แต่น้อย
ข้าไม่อาจทนเห็นเซี่ยหลิวจืงทำลายความสงบของแผ่นดินซึ่งข้าแลกมาด้วยเลือดเนื้อ และชีวิตของตนเอง
ดังนั้นข้าจึงรับภารกิจของระบบชะตาภารกิจ และไต่ขึ้นมาจากก้นเหวอเวจีอีกครั้ง

