ตอนที่ 6 เอ็งต้องแต่งงานกับไอ้หนุ่มคนนั้น
คนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องต่างสูดหายใจเข้าลึกเมื่อขุนเดชเปล่งวาจาออกมา และลุ้นว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นเช่นไร หากเขาพูดออกไปแล้ว มันหอมเกิดอาละวาดขึ้นมา กับข้าวที่อยู่ตรงหน้านี้จะยังอยู่ดีหรือไม่ ทำไมเขาไม่พูดตอนกินข้าวอิ่มแล้ว
“เอ็งต้องแต่งให้กับไอ้หนุ่มคนนั้น” ขุนเดชโบ้ยหน้าเข้าไปด้านในห้องโถงของบ้าน
มันหอมเงียบไป หลุบตามองข้าวเหนียวในมือ ริมฝีปากเม้มแน่น เหมือนทุกคนกำลังลืมหายใจไปชั่วขณะ
หลายอึดใจที่มันหอมไตร่ตรองเหตุผลที่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น เธอส่ายหน้าในใจกับกฎของหมู่บ้านนี้ เมื่อวานเธอตกใจกลัวเขาตายจนไม่ทันคิดว่าการแตะเนื้อต้องตัวกับผู้ชายจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซ้ำร่างกายของเธอกับเขายังแนบชิดกันขนาดนั้น มีหรือเธอจะหาทางบ่ายเบี่ยงความเชื่ออย่างหัวชนฝาของชาวบ้านได้ ถึงเรื่องนี้จะเป็นเพียงช่วยชีวิตเขาไว้ก็ตาม เธอผ่อนลมหายใจออกมายืดยาว “ได้ ฉันจะแต่งกับเขา”
“หา!” คนทั้งสี่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอุทานออกมาพร้อมกันอย่างเหนือความคาดหมาย มันหอมไม่โวยวาย ไม่ตีโพยตีพายใหญ่โต และยังไม่ถามหาเหตุผล เป็นไปได้หรือ
สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ พวกเขาทำหน้าตาตลกจนมันหอมขำออกมา
“ฉันย่อมรู้ดี หากฉันไม่ทำตามกฎก็ต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เช่นนั้นแล้วฉันจะไปอยู่ที่ใด” ไม่รู้จักใคร ไม่รู้จะเดินทางอย่างไร ในหมู่บ้านนี้มีเกวียนเพียงสองเล่มที่เดินทางเข้าตลาดได้ ระยะทางจากหมู่บ้านนี้เข้าไปในตัวอำเภอก็เกือบสามสิบกิโลเมตรเข้าไปแล้ว ที่มากกว่านั้นคือ… เธอไม่มีเงิน
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ และยินดีที่มันหอมรู้จักเข้าใจอะไรง่าย ๆ บ้าง
“แต่เขาจะยอมเหรอคะ” มันหอมถามขึ้นอีกครั้ง หากเขาตื่นขึ้นมาทุกคนมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะยอมแต่งงานกับคนบ้านป่าอย่างเธอ ดูแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะยอมแต่งงานกับใครง่าย ๆ เขาเป็นใครมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ หน้าตางดงามราวกับภาพวาดเทพเซียนในนิยายก็ไม่ปาน
“เรื่องนั้นพ่อเฒ่าจะเป็นคนจัดการเอง” ขุนเดชบอกกับลูกสาว
ไม่มีใครคุยเรื่องนี้อีก หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมอุปกรณ์ไปหาของป่า
ส่วนเขื่อนพอได้ยินว่าสาวที่ตนแอบหลงรักแต่พ่อกับแม่ไม่ยอมไปสู่ขอให้ กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายต่างเมืองก็รีบมาหาที่บ้านทันที
“หอม!” มันหอมกำลังเตรียมตะกร้าขึ้นเขา เงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มเรียก
ไอ้เขื่อนนี่เอง มันเดินหน้านิ่วเข้ามาหาเธอ
“มีอะไร” จะกล่าวว่าไม่มีใครไม่ชอบมันหอมเลยก็ไม่ใช่ เพราะอย่างน้อยยังมีเขื่อนคนหนึ่งที่แอบหนีพ่อกับแม่มาหาเธอที่บ้านบ่อย ๆ ทั้งที่มันหอมไม่เคยสนใจผู้ชายคนนี้เลย ผู้ชายคนนี้อายุยี่สิบสองปี หน้าตาหล่อเข้ม มีผิวสีแทน แต่มันหอมคนเดิมชอบคนขาวเธอจึงไม่ยอมรับรักกับชายคนนี้สักที และพ่อกับแม่ฝ่ายชายก็ไม่เห็นด้วย
“เอ็งจะแต่งงานกับไอ้คนต่างเมืองจริง ๆ เหรอ” น้ำเสียงมีแววคาดคั้นไม่พอใจ
“แต่งไม่แต่งแตกต่างกันยังไง” อย่างไรเธอกับเขื่อนก็ไม่มีทางได้ลงเอยกัน
“แต่หอมไม่รู้จักนิสัยใจคอมัน”
จะต่างอะไร อยู่ในหมู่บ้านนี้เธอก็เหมือนคนบ้านอื่น ไม่ได้รู้จักมักจี่ใครเช่นกัน “ถ้าฉันไม่แต่งแล้วเกิดโรคระบาดขึ้นมาจะทำยังไง” เธอแค่พูดตัดความรำคาญเท่านั้น มันหอมมองหน้าชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เขาพูดไม่ออก “หรือพี่ไม่กลัวตาย” ถ้าการผิดผีทำให้เกิดเหตุร้ายจริง ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้าน แล้วมีใครบ้างที่ไม่กลัว
“พ่อเฒ่าน่าจะฆ่ามันให้ตายไปซะ ถ้ามันนำความเดือดร้อนมาสู่หมู่บ้านเราจะทำยังไง” รู้ว่าเป็นคนเมืองอื่น ทำไมต้องเก็บมันไว้
“เรื่องนั้นพ่อเฒ่าคงรับผิดชอบเอง เขาเป็นหมอ มีหน้าที่รักษาคน ไม่ใช่ฆ่าคน” มันหอมชี้แจงอย่างใจเย็นต่างจากมันหอมคนเดิม เขามีความคิดแบบนี้ถึงไม่มีใครอยากแต่งงานด้วย
เขื่อนทำท่าจะพูดอีกหลายคำ แต่มันหอมที่จิตวิญญาณโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่อยากพูดหลายความจึงกล่าวตัดบท “ฉันขึ้นเขาก่อนนะ พ่อกับน้องรอนานแล้ว” อีกทั้งพ่อเฒ่ากับผู้ใหญ่บ้านก็เดินมาถึงพอดี
มันหอมพูดจบก็เดินไปหาทุกคนที่ยืนรออยู่ เขื่อนได้แต่ทำท่าทางอึดอัดใจ มองไปที่มาลาแล้วจึงเดินเข้าไปหา มันหอมไม่ได้สนใจเขาอีก
“ผมขอขึ้นไปเยี่ยมเขาได้ไหมน้ามาลา”
“ได้สิ” คนมาเยี่ยมชายคนนี้จนบันไดบ้านของเธอขึ้นเงา
เขื่อนก้าวเท้ายาว ๆ ขึ้นมาบนเรือน เมื่อเห็นใบหน้าของชายผู้นั้นเขาก็นิ่งไป แววตาเกิดความริษยาขึ้นมาวาบหนึ่ง ผู้ชายคนนี้จะกล่าวว่าหล่อเหมือนชายก็ไม่ใช่ จะว่าสวยเหมือนหญิงก็ไม่เชิง รูปร่างสันทัดสมส่วนไม่อ้วนหรือผอมเกินไป เขื่อนเป็นผู้ชายยังรู้สึกอิจฉา ใบหน้าดั่งสวรรค์ปั้นแต่ง ผิวพรรณขาวเนียนนั่นอีก ถ้าตามแขนขาไม่มีเส้นขนหรือเส้นเลือดปูนนูนขึ้นมาก็กล่าวได้ว่าคล้ายกับสตรีมากกว่า ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีจนใจเจ็บ
มองจนเต็มอิ่มแล้วเขื่อนก็เดินลงเรือนไปโดยไม่พูดกับมาลาสักคำ หรือมันหอมเห็นว่าชายผู้นี้หน้าตาหล่อมากกว่าเขา ผิวขาวมากกว่าเขา เธอจึงยอมแต่งงานด้วย ต้องใช่แน่ ๆ เธอเคยบอกว่าชอบคนขาว คิดได้เช่นนั้นหน้าตาของเขื่อนก็บิดเบ้คล้ายจะร้องไห้
มันหอมเดินนำหน้าทุกคนไปตามทางเดิมที่เธอเก็บเห็ดเมื่อวาน พ่อเฒ่าจึงกล่าวเตือนทุกคนว่า พื้นที่แห่งนี้ไกลจากหมู่บ้านเกินไป และเป็นรอยต่อระหว่างม่านพรางตากับพื้นที่ภายนอก มันค่อนข้างอันตราย พ่อเฒ่าเข้าใจแล้วว่าทำไมชายผู้นั้นถึงพลัดหลงเข้ามาในอาณาบริเวณของหมู่บ้านไพรพนาได้ เขาน่าจะวิ่งหนีเสือมาไกลมาก เพราะเขตที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาเดินป่ากางเต็นท์อยู่ห่างจากที่นี่เกือบสองร้อยเส้น
จากนั้นขุนเดชปล่อยให้ลูกทั้งสามเก็บเห็ดและผักป่าไปก่อน ส่วนเขากับพ่อเฒ่าและผู้ใหญ่บ้านปลีกตัวไปเดินสำรวจทางที่ชายหนุ่มผู้นั้นวิ่งหนีเสือมา เผื่อจะได้หลักฐานอะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง