บท
ตั้งค่า

1 ฟื้นขึ้นมาก็ถูกขังซะแล้ว [2]

ทางฟากของมานีรัตน์หลังจากที่ถูกขังในห้องเก็บฟืน จากที่คิดว่าเหล่าเพื่อนอำตนเองก็เริ่มตระหนักได้ว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง

“โอ้ย เจ็บ เจ็บ”

มานีรัตน์ถึงกับสูดปากออกมาเมื่อรับรู้ว่าที่ใช้มือหยิกลงไปที่แขนของตนเองแล้วนั้นมันเจ็บจริง ไม่มีแสตนอินใด ๆ

“เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ ไอ้พี่ทิตย์ไม่สนุกนะโว้ย ไหนกล้อง ไม่เอาแล้ว ไม่แกล้งแล้ว ยอมแล้ว ฉันกลัวจริง ๆ นะ ออกมาเถอะ” มานีรัตน์ที่หลังจากทรุดตัวลงนั่งบนหญ้าแห้งแล้วหันมองไปรอบ ๆ ตอนนี้ยังมีแสงสว่างลอดส่องเข้ามาตามรอยแตกของไม้ กลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ แม้แต่หนูที่วิ่งผ่านไปมาสองสามครั้ง มันเหมือนจริงจนเธอสติแตกไปแล้ว

หญิงสาวร้องให้คนช่วย อ้อนวอนขอให้เพื่อนเลิกแกล้ง แต่ร้องตะโกนมากว่าสิบนาทีแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มานีรัตน์รู้สึกหิวกระหายน้ำ แต่มองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีสิ่งที่พอจะกินได้เลยแม้แต่น้อย

อีกด้านหนึ่งในห้องครัวใหญ่ของจวน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงเก็บฟืนที่มานีรัตน์ถูกขังอยู่ไม่ไกลมากนัก

“ป้าจู ข้าละสงสารเสี่ยวฮวน พ่อแม่ก็มาตายจาก อยู่ตัวคนเดียวทุกวันก็ยังต้องถูกรังแกจากคุณหนูรอง ตัวก็เล็กนิดเดียว บางวันก็ไม่ได้กินข้าว ทั้งยังทำงานหนักกว่าคนอื่น นี่ถ้าท่านป้าจูไม่แอบเก็บอาหารเหลือไว้ให้ ข้าว่าป่านนี้เสี่ยวฮวนไปอยู่กับพ่อแม่นานแล้ว” บ่าวรับใช้ในห้องครัวเอ่ยขึ้นกับ เหมยจู แม่ครัวใหญ่ของจวนเสนาบดีการคลัง

“จะทำอันใดได้เล่า พวกเราก็บ่าวเหมือนกัน บางครั้งยังเอาตัวไม่รอด ถือว่าเสี่ยวฮวนเกิดมาอาภัพก็แล้วกัน” เหมยจูถอนหายใจอย่างปลงสังเวช ก่อนจะก้มหน้าทำงานตรงหน้าต่อไป

ทางด้านมานีรัตน์หลังจากที่ร้องไห้อย่างหวาดกลัว แม้แต่ร้องให้คนช่วย ร้องอ้อนวอนให้ปล่อยตนไป เวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงตนเองรู้สึกหมดแรง ทั้งยังรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาอย่างจับใจ บวกกับถูกน้ำเย็นสาดเธอจึงได้ทอดตัวลงนอนไปบนหญ้าแห้งเก่า ๆ ก่อนที่ร่างกายจะฝืนทนไม่ไหวแล้วหมดสติไปในที่สุด

มานีรัตน์ไม่รู้ตนเองอยู่ที่ไหน มันเหมือนตนเองกำลังนั่งดูซีรีส์จีนโบราณเหมือนเช่นทุกวัน ทั้งที่มีแต่ภาพที่เปลี่ยนไปในแต่ละฉาก ไม่มีแม้เพียงคำพูดสักคำ แต่ทว่าเธอกลับรับรู้ว่ามันเป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ฝูฮวน ที่เป็นเพียงบ่าวรับใช้ในจวนเสนาบดีการคลัง เป็นตัวประกอบที่นางเอกของเรื่องใช้สาเหตุการตายของตนทำลายนางร้ายซึ่งเป็นคุณหนูรองของจวนเสนาบดี

บิดามารดาของฝูฮวนป่วยหนัก เสนาบดีจ้าวหลินเจ้าของจวนกลัวว่าหากมีคนป่วยหนักในจวนจะทำให้ไม่เป็นที่ถูกพระทัยองค์รัชทายาทที่จะเสด็จมาที่จวนเพื่อพูดคุยถึงเรื่องหมั้นหมายของจ้าวหยางซินบุตรสาวคนโต ท่านเสนาบดีจึงสั่งให้บ่าวจับคนทั้งคู่ไปขังไว้ที่ห้องเก็บฟืน

ในที่สุดบิดามารดาของฝูฮวนก็ตายลง หญิงสาวถึงกับร้องไห้เสียใจปานจะขาดใจตาย ท่านเสนาบดีเป็นพวกหน้าบางมาก ถึงแม้เจ้านายจะทำอะไรกับบ่าวไพร่ก็ได้ แต่กฎหมายก็สั่งห้ามฆ่าโดยพลการ เกรงว่าถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูชาวบ้านตนเองจะถูกนินทา ทำให้ชื่อเสียงด่างพร้อยจึงได้ตกลงกับฝูฮวนว่าถ้ามีคนมาสู่ขอนางไปเป็นภรรยา ตนจะปล่อยให้นางเป็นอิสระไม่ต้องเป็นบ่าวอีกต่อไป

สาเหตุที่ท่านเสนาบดีมั่นใจว่าเขาจะไม่ต้องสูญเสียบ่าวคนนี้ คงต้องทำงานไปจนตายเหมือนพ่อแม่นาง เพราะฝูฮวนนั้นอัปลักษณ์ คงไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ เพราะแม้แต่บ่าวชายในจวนก็ไม่ได้ชายตาแลนางแม้แต่น้อย

ภาพตัดไปที่ตนเองในตอนที่เป็นมานีรัตน์ หญิงสาวอายุยี่สิบเจ็ดปี ทำงานเป็นคนทดสอบเกมส์ เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวในทีมที่มีอาทิตย์เป็นหัวหน้า ถึงแม้ว่าบุคลิกภายนอกเธอจะห้าวคล้ายทอมบอย แต่ภายในเนื้อแท้เธอก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เพียงแต่หน้าที่การงานและความชอบเล่นเกมส์ทำให้เธอต้องทำงานคลุกคลีกับผู้ชายเป็นส่วนมาก จะมาให้แต่งตัวเป็นสาวหวานก็เกรงว่าจะถูกรังแกและไม่เป็นที่ยอมรับในทีมเพราะเพศที่แตกต่าง

ตอนนี้บริษัทของเธอได้รับโปรเจคใหญ่โปรเจคหนึ่ง การทำงานที่หนัก เพื่อแข่งกับเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามาทำให้มานีรัตน์เหนื่อยสายตัวแทบขาดใจ แต่ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ก่อนนอนเธอต้องมาอ่านนิยายเรื่องโปรดทุกวัน อย่างน้อยก็สองสามหน้าก็ยังดี

คืนนี้ก็เป็นไปตามปกติ เธออ่านมาถึงตรงที่ฝูฮวนถูกคุณหนูรองจ้าวหยางซูกลั่นแกล้งแรงไปหน่อย ผลักบ่าวตัวน้อยไปชนกับขอบเตียงเพียงเพราะฝูฮวนเผลอทำน้ำหกลงพื้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะให้บ่าวชายลากร่างฝูฮวนไปทิ้งไว้ที่ห้องเก็บฟืน

“โธ่ เสี่ยวฮวน เจ้าช่างน่าสงสารเสียจริง” มานีรัตน์อ่านจบมาถึงตรงนี้ก็เปรยออกมาพลางร้องไห้สงสารชะตาชีวิตของบ่าวคนนี้ ก่อนที่จะทนความเหนื่อยและความง่วงไม่ไหวจึงได้ผล็อยหลับไปในที่สุด

ใครจะคิดว่าเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มานีรัตน์จะกลายเป็นคนที่น่าสงสารคนนั้นเสียเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel