ตอนที่ 1
รัฐอาริโซนา สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1940
บริเวณด้านหลังของไร่ข้าวโพดซึ่งลำต้นของมันเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามอยู่ท่ามกลางทุ่งกว้าง ใกล้กับฟาร์มเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าไปสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังยืนมองดูพระอาทิตย์ลอยดวงเรี่ยต่ำใกล้จะตกดิน ระบายแสงสีทองสุดท้ายของวัน สว่างไสวเหนือทุ่งข้าวโพดกว้างใหญ่ ฝูงนกพากันชักแถวบินกลับรัง แลเห็นเป็นทิวแถวรางๆ อยู่เหนือโค้งขอบฟ้าเบื้องทิศตะวันตก
“เป็นของผมนะ… ซูซาน”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงกระเส่าใกล้ๆ ใบหูนุ่มนิ่มของหญิงสาว พรมจุมพิตแผ่วละมุนไปตามลูกผมสีทองบริเวณท้ายทอย สองมือที่ประสานอยู่ใต้ทรวงอกของซูซานเริ่มซุกซนด้วยการลูบไล้ขึ้นมาเคล้นคลึงแล้วบีบขยำอย่างนึกกลัดมันในอารมณ์
“อีกสัปดาห์เดียว… รอก่อนได้มั้ยแฟรงค์”
ซูซานพยายามแกะมือของเขาที่บีบกุมอยู่กับทรวงอกอวบใหญ่ของเธอเหมือนแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หลังจากผลัดผ่อนมาหลายครั้ง เมื่อเขาพยายามโอ้โลมขอร่วมรักเหมือนเช่นทุกครั้งที่มีโอกาสพาเธอออกมาในสถานที่ลับหูลับตาเช่นในตอนนี้
“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว ช้าเร็วยังไงเรื่องนี้ก็ต้องเกิดขึ้นสักวัน คุณต้องเป็นเมียผมอยู่ดี… นะ เราควรสร้างความคุ้นเคยเอาไว้”
แฟรงค์ออดอ้อนเสียงอ่อน เขากอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ขัดขืนก็ระดมจูบไซ้ไปทั่วซอกคอขาวๆ อย่างได้ใจ สูดกำซาบกลิ่นสาบสาวซึ่งหอมกรุ่น นวลเนื้อละไมละมุนไปทั้งกาย เขากดปลายจมูกไปทั่วลาดไหล่สล้าง ทำเอาซูซานลู่ไหล่สะท้าน เส้นขนตั้งชันขึ้นด้วยความเสียวสยิว
เขายังคงไม่หยุดจูบไซ้ จมูกซุกซนไล่เรื่อยลงมาถึงเนินเนื้อขาวเนียนของทรวงอกอิ่ม ลอบกระหยิ่มยิ้มแล้วแนบเน้นใบหน้าลงจูบเน้นตรงทรวงอกข้างซ้าย ได้ยินเสียงหัวใจของซูซานเต้นแรงเร่าราวจะหลุดออกมาจากอก
“ขนลุกเชียว… สยิวใช่ไหม”
แฟรงค์รำพึงขึ้นเบาๆ อย่างนึกกระหยิ่มใจ เมื่อเห็นว่า
ซูซานหวามไหว เริ่มมีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มสนองตอบการเล้าโลมของเขา ยืนยันด้วยเส้นขนอ่อนๆ บริเวณต้นแขนของเธอที่ลุกซู่ชูชันจนเห็นได้ชัด
สาเหตุที่ซูซานยังไม่ยอมให้เขาล่วงล้ำร่างกายของเธอมากไปกว่ากอดจูบกันภายนอก ก็เพราะว่าอันที่จริงเธอกับเขาเพิ่งคบหากันได้เดือนกว่าๆ
แฟรงค์เป็นคนต่างถิ่น เป็นคนแปลกหน้าสำหรับหมู่บ้านแห่งนี้ เขาเพิ่งเข้ามาซื้อบ้านพร้อมฟาร์มต่อจากชาวบ้านคนหนึ่ง ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยได้เดือนกว่าๆ ไม่มีใครรู้ความเป็นมาของเขามากนัก ว่า ‘แฟรงค์’ คนนี้มีพื้นเพมาจากไหน เคยทำอาชีพอะไรมาก่อนหน้านี้ แต่ที่ทุกคนรู้ดีก็คือแฟรงค์เป็นคนมีเงิน ยืนยันด้วยบ้านและฟาร์มที่เขาซื้อด้วยเงินสด
“เดี๋ยวสิ… ใจเย็นๆ”
หญิงสาวพยายามทัดทาน หากแต่หลังจากที่โดนจมูกซุกซนของเขาระดมจูบไซ้อย่างเร่าร้อน มือทั้งสองข้างของซูซานก็อ่อนเปลี้ย ตกลู่ลงข้างลำตัว ไร้เรี่ยวแรงจะทัดทานการเล้าโลมอันร้ายกาจของเขา
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ต่อต้านขัดขืน ชายหนุ่มก็รีบถอดเสื้อแล้วปูลงกับพื้น จากนั้นก็หันมาประคองเรือนร่างเย้ายวน จัดท่าทางให้เธอลงนอนบนเสื้อของเขาที่ปูทับพื้นหญ้าเอาไว้อีกที
“กลัวใครมาเห็น”
ซูซานกระซิบบอก เกิดอาการเกร็งจนตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ เพราะตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้ เธอยังไม่เคยโดนกอดโดนจูบมาก่อน เมื่อเจอการรุกเร้าหนักๆ ของแฟรงค์ ก็ทำเอาจิตใจวูบไหวมิใช่น้อย
ถ้าถามว่าซูซานรักแฟรงค์หรือเปล่า หญิงสาวสามารถตอบได้ในทันที ว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อแฟรงค์นั้นยังไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ‘รัก’
แม้ว่าหน้าตาของแฟรงค์จะไม่หล่อเหลาเหมือนเทพบุตรในนิยายโรมานซ์ที่ซูซานเคยใฝ่ฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะได้พานพบ แต่เขาก็ไม่ได้ขี้เหล่จนดูไม่ได้ อีกทั้งหน่วยก้านของเขาก็สูงใหญ่องอาจสมชายชาตรี
ซูซานกับแฟรงค์พบกันครั้งแรกโดยบังเอิญ ในวันที่เธอไปซื้อของในตลาด หลังจากแมรี่ซึ่งเป็นพี่สาวของซูซานรู้เข้า เธอก็สนับสนุนให้ทั้งสองคบหากันอย่างออกนอกหน้า ด้วยเหตุผลที่ว่าท่าทางของแฟรงค์ดูเป็นคนมีฐานะ
แมรี่ตระหนักดีว่าสักวันหนึ่งซูซานจะต้องออกเรือนไปมีครอบครัวของตัวเอง และตอนนี้ยังไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าแฟรงค์ซึ่งมีทั้งบ้านและที่ดินทำกินเอาไว้พร้อม
“เป็นของผมนะซูซาน”
แฟรงค์ออดอ้อนเสียงหวาน
“ไม่… ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว… รอเอาไว้คืนเข้าหอไม่ดีกว่าหรือ?”
ความยับยั้งชั่งใจทำให้ซูซานบอกออกไปเช่นนั้น
“รังเกียจผมหรือ”
แฟรงค์ทำสุ้มเสียงน้อยใจ มือใหญ่ง้างหน้าขาของซูซานซึ่งหนีบแน่น จากนั้นก็แทรกลำตัวหนาลงไประหว่างหน้าขาของหญิงสาวที่เขาพยายามง้างเข่าทั้งสองข้างของเธอให้เปิดรับจนได้
“แค่ภายนอกก็ได้… ผัวอยากชื่นชมเมียว่าสวยแค่ไหน ไม่เห็นต้องกลัวว่าจะมีอะไรเสียหาย… รับรองว่าคุณจะชอบ”
เขาพยายามหาเหตุผลมาหว่านล้อม ไหล่ทั้งสองข้างของ
ซูซานถูกมือใหญ่ของแฟรงค์กดแนบเอาไว้กับพื้น
หญิงสาวนอนเกร็งตัวแข็งทื่อ กำลังสับสนใจว่าจะขัดขืนหรือปล่อยให้มันดำเนินต่อไป ขณะที่กำลังครุ่นคิดตัดสินใจก็ยอมให้มือของแฟรงค์ค่อยๆ ไล้ลูบทรวงอก แกะกระดุมเสื้อผ้าฝ้ายของเธอออกทีละเม็ดอย่างใจเย็นว่าเธอคงไม่หนีไปไหน
“อย่า… ”
ปากร้องทัดทาน แต่ร่างกายกลับไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น ครู่ต่อมาได้ยินเสียงแฟรงค์อุทานเบาๆ ดวงตาของเขาเหลือกลานไปชั่วขณะ กับภาพงดงามอันน่าตะลึงพรึงเพริด หนั่นเนื้ออวบใหญ่ผุดเผยออกมาตรงหน้า หลังจากเขาแหวกเสื้อออกจากกัน
“สวยเหลือเกินแม่สาวน้อยของผม”
เม็ดหัวนมน้อยๆ ของหญิงสาวสดสวยราวกับลูกเชอร์รี่อ่อนๆ ซึ่งยังเป็นสีชมพูระเรื่อ ตูมตั้งประดับเด่นอยู่เหนือวงป้านสีเนื้อละเอียดลออ