4- คุกคาม
เขาเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ที่แสนจะเย็นชา
“สักวันเดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
และนี่คือคำตอบของเขา ให้ตายเถอะฉันไม่น่าถามคนอย่างเขาเลยจริง ๆ
“ลงไป ฉันมีธุระ” เขาออกปากไล่ฉันอีกครั้งฉันเลยลงจากรถตามที่เขาต้องการ ก็ไม่ได้อยากจะนั่งอยู่แบบนี้สองต่อสองกับคนเย็นชาพันนี้หรอก
เมื่อฉันลงจากรถอิตานั่นก็ขับรถออกไปจากคอนโดของฉันทันที เหอะ!! มีหรอคนอย่างสายธารจะขึ้นห้องไปนอนเวลานี้ ไม่มีทาง!!!
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรศัพท์ออกไปหาลีโอเพื่อที่จะให้มันมารับฉันที่คอนโด แน่นอนว่าลีโอมันต้องมารับฉันอยู่แล้ว รอไม่นานเท่าไหร่ลีโอก็ขับรถสปอร์ตหรูคู่ใจมาจอดที่หน้าคอนโดของฉัน
“กลับมาทำไมวะอิเจ้” พอเริ่มสนิทกันพวกมันก็พากันเรียกฉันว่าอิเจ้หมดทุกคน
“ยุ่ง !! รีบไปเร็วๆ เดี๋ยวคลับปิดก่อนพอดี”
“เอ้า!!” ลีโอทำหน้า งงๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรฉันต่อ มันขับรถออกจากคอนโดของฉันด้วยความเร็วราวกับว่าถนนเส้นนี้มีแค่รถมันคนเดียว
พอมาถึงคลับฉันก็บ่นลีโอเป็นชุดที่มันขับรถเร็วมาก แถมยังปาดซ้ายขวาอีก ครั้งสุดท้ายแล้วแหละที่ฉันจะให้มันมารับตอนเมา
ตอนนี้มันดึกมากแล้ว Dj เปิดเพลงแดนซ์ ผู้คนในคลับต่างพากันโยกย้ายส่ายสะโพกกันไปมา บางคนก็นัวเนียกันราวกับที่นี่คือโรงแรม ส่วนฉันส่างเมาแล้วเรียบร้อย เพราะอิตาเย็นชานั่นคนเดียว
“ไปเข้าห้องน้ำที่คอนโดเลยหรอวะอิเจ้ ท่าจะเมามากขนาดรถยังไม่เอาไป แล้วไปยังไง ?” เลย์ถามฉัน ฉันไม่ตอบแค่ไหวไหล่ให้มันไปทีหนึ่งก่อนจะนั่งลงดื่มเหล้าต่อ
มาเที่ยวทั้งทีมันต้องสุด ๆ สิ ถ้าเที่ยวไม่สุดจะมาทำไมถูกมั้ย
“มา ๆ ชนแก้ว” เตชินยื่นแก้วขค้นมาตรงกลางวง จากนั้นเสียงแก้วกระทบกันก็ดังขึ้น
ฉันดื่มเหล้าติด ๆ กันหลายแก้ว พอเมาได้ที่แล้วฉันก็ลุกขึ้นเต้นตามประสาฉันนี่แหละ สายตาแพรวพราวของฉันก็มองผู้ชายคนนู้นทีคนนี้ที เป็นเรื่องปกติที่ฉันมักจะมองผู้ชายรอบ ๆ โต๊ะ ก็อย่างที่เคยพูดว่ามันเป็นเพียงอาหารตาเท่านั้น
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนคลับปิดพวกเราทั้งสี่คนพากันเดินออกมาจากคลับ ตอนนี้เลย์มันเมามาก ส่วนเตชินก็ไปคุยกับต้นไม้แล้ว มีฉันกับลีโอที่ยังพอมีสติประคองตัวเองได้อยู่
“ไม่ได้ไปต่อนะอิเจ้วันนี้ ดูสภาพพวกมันแล้วคงไม่ไหว” ลีโอกำลังอยู่ในท่าที่ทุลักทุเลพยายามจะยัดเลย์ฝาแฝดของมันเขาไปในรถ เสร็จแล้วก็เดินไปลากเตชินที่กำลังยืนคุยกับต้นไม้มาขึ้นรถอีกคน
“โอเค ๆ ขับรถไหวใช่มั้ย” ฉันถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหว ตัวเองเถอะยังไงจะให้กระผมไปส่งด้วยมั้ย”
“ฉันกลับเองได้ วันนี้ไม่ได้เมามากขับรถไหว”
“โอเค พรุ่งนี้นี้เรียน 9 โมงเช้านะอิเจ้ โทรปลุกด้วย”
“อื้อ เครๆ”
หลังจากแยกกับลีโอฉันก็ขับรถกลับคอนโด วันนี้มันไม่สุดเลยอ่ะ ถามว่าเมามั้ยมันก็เมาแต่ยังประคองตัวเองขับรถได้อยู่ แต่มันรู้สึกสนุกไม่สุด เป็นเพราะอิตานั่นคนเดียว
พอเดินมาถึงหน้าห้องฉันก็ต้องชะงัก ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมมองร่างผู้ชายที่กำลังยืนพิงกายอยู่หน้าห้องของฉันอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เขาบอกว่ามีธุระแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มาอยู่หน้าห้องฉันแบบนี้กัน
“มาทำไม” ฉันถามคนที่ยืนขวางอยู่หน้าประตูห้อง เขามองหน้าของฉันด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนเคย ก่อนจะขยับปากพูดตอบคำถามของฉัน
“แรดดี” เขาพูดสั้น ๆ นี่หรอคำตอบ เขาไม่คิดบ้างเลยหรอว่ามันแรงเกินไปหรือเปล่าที่มาว่าฉันแบบนี้ ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ ไม่รู้จักกันเลยด้วย
“เรื่องของฉัน หลบไปฉันจะเข้าห้อง”
ฉันดันตัวเขาออกจากประตู ซึ่งเขาก็ยอมถอยออกไปแต่โดยดี เมื่อฉันเปิดประตูห้องยังไม่ทันที่ฉันจะได้เดินเข้าไปข้างในผู้ชายเย็นชาคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับฉันเขาก็ชิ่งเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องของฉันหน้าตาเฉยเลย
“นายควรรู้ว่าที่นี่มันไม่ใช่ห้องนาย !!” ฉันเดินตามเขาเข้าไปภายในห้องก่อนจะพูดอย่างเหลืออด
“รู้” เขาตอบสั้น ๆ พร้อมกับทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของฉันสักนิด
“ถ้ารู้ก็ควรจะกลับไป นายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันนายไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายกับชีวิตของฉันมากขนาดนี้ !!”
เขามองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาก่อนจะก้าวขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ ฉัน จนฉันต้องถอยหนีอย่างตกใจกับท่าทางแบบนี้ของผู้ชายตรงหน้า
“ต้องเป็นก่อนว่างั้น ?” เขาถามและยังเดินตรงเข้ามาหาฉัน
ฉันถอยหนีจนแผ่นหลังไปติดกับผนังห้องแล้ว เมื่อถอยไม่ได้ฉันก็จะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แต่ทว่ามันไม่ทันเพราะเขาได้เข้ามาประชิดที่ตัวฉันพร้อมกับยกแขนขึ้นมาดักทางฉันเอาไว้
ด้วยความที่เขาสูงกว่าฉันมาก ๆ เขาจึงโน้มใบหน้าลงมาหาฉัน ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเขาที่ค่อย ๆ รดใบหน้าของฉัน
ผู้ชายคนนี้เขาทำไมน่ากลัวจัง...เขาพยายามเข้าหาฉันแบบนี้สองครั้งแล้วนะ มันไม่ปลอดภัยเอาซะเลย
“เธอไม่ตอบคำถาม”
“อะ อะไรของนาย”
“เธออยากรู้จักฉันมากกว่านี้มั้ย ?”
เขาถามแล้วก็ค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันอีก คำถามที่เหมือนจะธรรมดาแต่มันกลับทำให้ขนฉันมันลุกซู่ไปทั้งตัวยังไงก็ไม่รู้ ฉันรู้สึกว่าคำถามนี้ของเขามันไม่ได้หมายความว่าเขาจะบอกกับฉันว่าเขาคือใคร