1 ถูกทิ้ง
ทันทีที่แฟนหนุ่มที่คบหากันมายาวนานกว่าสี่ปี บอกกับว่าเธอว่าเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ครอบครัวเขาเลือกให้ ณิชาก็รู้สึกกับโลกทั้งใบกำลังแตกสลาย หญิงสาวพยายามอ้อนวอนขอร้องให้แฟนหนุ่มเห็นใจในความรักของเธอที่มีต่อเขา
พยายามอย่างเต็มที่ในการเรียกร้องให้ผู้ชายคนนั้นหันหลังกลับมาหาเธอ
“หนีไปด้วยกัน เราหนีไปด้วยกันได้ไหมคะพี่วี” หญิงสาวพยายามร้องขอและยื่นข้อเสนอให้กับปรวีร์
“พี่ทำแบบนั้นไม่ได้” ชายหนุ่มปฏิเสธ
แฟนหนุ่มตัดสายเธอทิ้งทุกครั้งที่ณิชาพยายามโทรหา เพราะมัวแต่วุ่นวายวนเวียนกับเรื่องของแฟนหนุ่มทำให้เจ้าหล่อนไม่มีเวลาในการทำวิจัยเพื่อสอบขอชิงทุนในการไปเรียนต่อต่างประเทศ
“ณิชา ทำอะไรอยู่” ปณิตาเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนสาวที่กำลังนั่งหัวฟูอยู่ในอาคารห้องสมุด
“...” คนตัวเล็กไม่ได้ตอบเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ได้แต่ยิ้มแบบเศร้า ๆ ให้กับเพื่อนสนิท
“โธ่ ชาพอเถอะเลิกคิดเรื่องพี่วีได้แล้ว ในเมื่อเขาไม่สนใจเธอก็ช่างหัวเขาเหอะ สนใจเรื่องทำวิจัยดีกว่าไหม อีกแป๊บเดียวก็จะถึงกำหนดส่งแล้วนะ” ปณิตาพยายามเตือนสติเพื่อนสาว เพราะทั้งเธอและณิชากว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ฉันยังไม่มีอารมณ์ทำเลยอ่ะแพรว” ณิชาพูดพลางถอนหายใจ
“แกเปิดคอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้เลย” ปณิตาพยายามกระตุ้นเตือนให้เพื่อนมีสติสักที กะอีกแค่ความรักมันจะสักเท่าไหร่กัน
“.....”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทยังไม่กะจิตกะใจที่จะทำอะไร ปณิตาเลยอาสาเปิดคอมพิวเตอร์ของยัยคนที่นั่งซึมให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวเปิดคอมพิวเตอร์ของเพื่อนและของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน และเริ่มตรวจเช็กงานวิจัยของเพื่อนว่าทำไปถึงไหนแล้ว
เพราะปณิตารู้ดีว่าทุนเรียนต่อครั้งนี้สำคัญมาก จะให้พลาดไปสักนิดก็ไม่ได้ ในความเป็นจริงแล้วเธอกับณิชานับว่าเป็นคู่แข่งกัน เพราะทุนเรียนต่างประเทศทุนนี้จะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ได้การรับเลือก การที่ ณิชาเอื่อยเฉื่อยแบบนี้นับว่าเป็นประโยชน์กับเธอ
แต่เพราะเห็นว่ามันไม่แฟร์ เธออยากได้คู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีกว่านี้ ไม่ใช่ชนะตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
เพราะเห็นความตั้งใจของเพื่อนสาวณิชาจึงตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อให้ตัวเองมีสติกับงานตรงหน้า หญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษา กระชับเสื้อคาดิแกนของตัวเองให้แน่นกว่าเดิมนิดหน่อย และขยับเข้าไปซบอิงกับเพื่อนสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน
“ขอบคุณมากนะแก” ณิชาบอกกับเพื่อน
“อย่ามาทำซึ้งจ่ะ ฉันขนลุก” ปณิตาบอกในขณะที่สายตาก็นั่งจดจ่อกับงานของเพื่อนและเปรียบเทียบวิธีวิจัยของตัวเอง “เฮ้ย ชา ของแกก็เหลืออีกนิดเดียวแล้วนี่หว่า ขยับนิ้วมาเคาะแป้นพิมพ์เดี๋ยวนี้ย่ะ” หลังจากเลื่อนผ่านหน้างานวิจัยของเพื่อนมาพักใหญ่ ก็พบว่ามันเสร็จไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ซึ่งอีกแค่เพียงนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัย ปณิตาไม่อยากให้เพื่อนยอมแพ้
“โอเคค่ะ คุณแม่” ณิชาหยอกเย้า ก่อนจะยกโน้ตบุ๊กของตัวเองขยับมาอยู่ตรงหน้า
เพราะเป็นช่วงที่ใกล้ไฟนอล อาคารห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจึงเปิดจนถึงดึก หญิงสาวทั้งสองคนพร้อม ๆ กับนักศึกษาคนอื่น ๆ กำลังนั่งทำงานในส่วนของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งปณิตาดันโน้ตบุ๊กของตัวเองออกไปและฟุบหน้าลงกับพื้นโต๊ะ
“แกเป็นอะไร” ณิชาถามไถ่
“นี่กี่โมงแล้ว” คนที่ตัวเล็กที่ก้มหน้าอยู่เอ่ยถาม
“สี่ทุ่ม” ณิชาผินหน้าไปดูนาฬิกาในคอมพิวเตอร์อยู่แวบหนึ่งก่อนจะส่งเสียงบอกกับเพื่อน
“สี่ทุ่มเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันไม่มีสมาธิแน่ ๆ” ปณิตาบ่นอิดออด ก่อนจะใช้สองแขนยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“จะไปไหน?”
“ซื้อกาแฟน่ะ เดี๋ยวมานะต้องรีบไปซื้อก่อนร้านใต้อาคารจะปิด” พูดจบเจ้าหล่อนก็หอบกระเป๋าเป้เปล่า ๆ ลงไปพร้อมกับตัวเอง เพราะจะได้แอบเอาขนมใส่ติดกระเป๋ากลับมาเป็นเสบียงด้วย
จนตอนนี้ณิชาเพิ่งค้นพบว่าที่นั่งรอบ ๆ ตัวไม่มีใครอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว จะมีก็นั่งถัดไปอีกสี่ห้าโต๊ะ
หญิงสาวเปิดหนังสือและอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ ของตัวเอง กับงานวิจัยที่กำลังลงมือทำ พลางแอบชะโงกหน้าไปอ่านงานวิจัยของปณิตาที่หน้าจอ
เธอพบว่างานวิจัยของเจ้าหล่อนสำเร็จไปแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เหลือแค่เพียงการจัดรูปเล่มและใส่ข้อมูลอีกนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อหันกลับมามองของตัวเองและเทียบกับระยะเวลาอีกสองสัปดาห์ก็เห็น อยู่ว่างานของเธอมันจะออกมาเสร็จไม่ทันตามกำหนดแน่ ๆ
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ความคิดชั่วร้ายบางอย่างก็เข้ามาในหัวสมอง ณิชาอาศัยเวลาที่เพื่อนลงไปซื้อกาแฟและขนมรีบฟอร์เวิร์ดไฟล์งานทั้งหมดของเพื่อนส่งให้กับตัวเองและลบร่องรอยประวัติการส่งทั้งหมด
มือเล็กของณิชาสั่นเทาเพราะความตื่นเต้น ทันทีที่เธอลบร่องรอยสุดท้ายเสร็จ ปณิตาก็กลับมาถึงที่โต๊ะพอดี
“นี่มอคค่าเพิ่มช็อกโกแลตของแก” ปณิตายิ้มและส่งกาแฟเย็นแก้วหนึ่งให้กับเพื่อนสนิท ส่วนตัวเองก็นั่งดูดลาเต้หวาน 200% อย่างสบายใจ
ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งทำงานต่อไปจนกระทั่งถึงเวลาที่อาคารห้องสมุดจะปิด จึงได้เก็บของและพากันกลับที่พักของตัวเอง
หลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนแล้ว ณิชาก็จัดการเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูอีเมลที่ฟอร์เวิร์ดหาตัวเองอีกครั้ง
ทันทีที่ไฟล์งานทั้งหมดถูกเปิดขึ้นมือเรียวก็ค่อย ๆ จัดการปรับแต่งเพิ่มเติมข้อมูลต่าง ๆ ให้วิจัยเล่มนั้นกลายเป็นของตัวเอง อย่างแนบเนียนที่สุด
“แพรว ฉันขอโทษนะ แต่ว่า...ฉันต้องได้ทุนครั้งนี้จริง ๆ”
หญิงสาวพึมพำขอโทษเพื่อนกับตัวเองเบา ๆ