ตอนที่ 5
แอด...
ญรินดานิ่งงันเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า ริมฝีปากบางสั่นระริก ร่างขาวโพลงของคนสองคนท่ามกลางแสงสีในผับ และชายคนนั้นคือแฟนเธอ และผู้หญิงอีกคน คือเพื่อน น้ำตาเริ่มไหลริน แค่เพราะเธอไม่ยินยอมให้เขา พี่วินถึงกับต้องมีอะไรกับสาบนโต๊ะทำงานเธออย่างนั้นหรือ
กวินทรเหลือบมองหน้าประตู ดวงตาเบิกกว้างแต่ไม่อาจหยุดสิ่งที่ตนกระทำ ฤทธิ์ยากำลังทำให้เขาไม่อาจหักใจละจากอารมณ์หฤหรรษ์ได้ และคนบนโต๊ะเองก็หันมองเพื่อนสาว พร้อมส่งเสียงครวญครางหนักกว่าเดิม ญรินดารู้ดีเมื่อสบตาเพื่อน นาริสาไม่ได้รู้สึกผิดอะไร สองคนจงใจทรยศเธอ
“สารเลว!” คนเจ็บบริภาษแล้ววิ่งหนีไปทันที
“ริน!” กวินทรตะโกนแต่ไม่ยอมวิ่งตาม ก่อนร่างกายจะขยับแรงขึ้น กระแทกลงไปบนร่างอวบบนโต๊ะอย่างไม่ปราณี
“อ้า อ้า!” นาริสากรีดร้องอย่างสุขสม
ชายหนุ่มซุกซบใบหน้าลงบนอกอวบอิ่ม ก่อนระบายลมหายใจออกมา ไม่นานนักร่างกายกลับร้อนผ่าว ตัวตนเริ่มตั้งตระหง่านพร้อมจะสู้ศึกอีกครั้ง นาริสาชันกายลุกนั่งแล้วยิ้มยั่ว
“พี่วินขา... รอบต่อไปสาทำให้เองนะคะ สาจะควบจนกว่าพี่วินจะเยิ้มเชียวล่ะค่ะ”
กวินทรนิ่งเงียบไม่ตอบ หรืออาจเป็นสุข เพราะเขาไม่ได้ขัดขืนยามนาริสาผลักร่างให้นอนลงบนพื้นอันเย็นเฉียบ แต่ร่างกายเขาและเธอนั้นกำลังร้อนระอุ
ถึงห้องเช่าร่างบางโถมกายลงบนเตียง สะอื้นไห้กับภาพอัปยศที่ตนเองพบเจอ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแฟนที่แสนดีกับเพื่อนสนิท จะทำเรื่องบัดสี ที่สำคัญนาริสาเป็นคนส่งข้อความขอร้องให้เธอมารับ แต่กลับเจอเรื่องสารเลวแบบนี้นะเหรอ กัดริมฝีปากข่มความเจ็บปวด แน่ใจว่าเพื่อนต้องจงใจให้เธอได้รับรู้ความสัมพันธ์กับพี่วินแน่นอน ไม่เป็นไร อยากได้ก็เอาไปเลยเธอไม่แคร์
ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ คงไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจใคร หนี้พี่ชายอีกสองแสน หาทางใช้ให้จบสิ้นแล้วลาออกจากงานหาที่อยู่ใหม่ ได้ไม่ต้องเจอกับเพื่อนทรยศและแฟนสารเลวอีก ขอร้องให้วันนี้ ระบายทุกอย่างให้หมด แล้วเริ่มต้นใหม่ ดีเหมือนกันที่นาริสาทำให้รู้ธาตุแท้ผู้ชายอย่างกวินทร
หกโมงเช้า ลุกจากเตียงนอนยากเย็น เมื่อคืนผ่านช่วงเวลาอันหนักหน่วงมา ญรินดาคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ราวยี่สิบนาทีออกมา มองดูตัวเองในกระจก สภาพของใบหน้ายังคงความงดงามเหมือนเช่นเคย จัดการแต่งกายเพื่อเดินทางไปทำงาน ที่ผับมีเพียงแม่บ้านทำความสะอาด และพนักงานบางคนซึ่งเข้ามาจัดการโต๊ะ
ก๊อก ก๊อก
ประตูห้องเจ้าของผับเปิดออก เจ๊ราตรีมองผู้มาเยือนแล้วยิ้มกว้าง
“อ้าวริน มีอะไรหรือจ๊ะ”
ญรินดาปิดประตูแล้วเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเจ๊ราตรี เธอเห็นสีหน้าลูกจ้างแล้วรู้สึกกังวล
“เป็นอะไรริน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ริมฝีปากบางสั่น สูดลมหายใจเข้าปอด เธอควรเลือกทางนี้ ให้ไปทำงานโต๊ะเดิมแม้รู้แก่ใจว่าเมื่อคืนมันทำหน้าที่อะไรคงทำใจได้ยาก รังเกียจ สะอิดสะเอียดยิ่งกว่าอะไร
“เจ๊คะ รินขอทำงานกับเจ๊ได้ไหม” เสียงแผ่วบอกกับเจ้าของผับ
“หืม...” เจ๊ราตรีจ้องมองสีหน้าสาวหน้าตาสะสวยด้วยความสับสน
“รินอยากทำงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ค่ะ”
ราตรีเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วครุ่นคิด
“แน่ใจเหรอริน เจ๊ขอให้รินทำกับเจ๊หลายครั้งรินยังไม่รับปากเลย ทำไมตอนนี้ถึงอยากทำล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ราตรีอดสงสารไม่ได้ เพราะพี่ชาย ชีวิตรินถึงได้ย่ำแย่
คนถูกถามส่ายหน้า บอกความจริงก็ไม่ได้ ไม่รู้ควรทำเช่นไร อับอายที่แฟนตัวเองได้กับเพื่อน รู้ถึงไหนอายถึงนั้น คงกลายเป็นขี้ปากสนุกแน่ๆ