สะใภ้อวบควบสองลำ

23.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
22
บท
75.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

วัลยาหลับตาพริ้ม ขณะแอ่นนมให้เขาดูด มือข้างหนึ่งเอื้อมมาทางด้านหลัง ลูบคลำท่อนเนื้อลำมหึมาที่เสียบแน่นคาเต็มรู “อู้ววว... ใหญ่มาก… ” วัลยาเอามือรูดลำอวัยวะเพศขรุแข็งเหมือนดุ้นข้าวโพดสีน้ำตาลใหญ่ๆ ที่กำลังเสียบตรึงเต็มลำเต็มรูของหล่อน

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันพลิกชีวิตนอกใจนางเอกเก่งรักหวานๆดราม่าโรงแรม/มหาลัย18+

ตอนที่ 1

สะใภ้อวบ

ควบสองลำ (3P)

นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น

ผู้เขียน

กาสะลอง

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ

หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ

เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น

ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล

และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา

อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ

……….

นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา

ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์

ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง

ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง

*เราเตือนท่านแล้ว

สะใภ้อวบ

ควบสองลำ (3P)

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ธันวาคม พุทธศักราช 2562 ตอนใกล้ค่ำ เสียงรถกระบะที่แล่นมาจอดบริเวณหน้าประตูบ้านไม้หลังย่อม ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่สับปะรด ทำให้ ‘กำนันทอง’ อดีตกำนันของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เดินออกมาเปิดประตู ทอดสายตามองผู้มาเยือนในยามเย็นด้วยความสงสัย

ก่อนจะพบว่าเป็น ‘วัลยา’ สะใภ้ของตนกำลังอุ้มลูกชายในวัยขวบกว่าๆ ลงมาจากรถกระบะ มืออีกข้างหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเข้ามาในบ้าน

“สวัสดีจ้ะพ่อทอง”

วัลยายกมือไหว้พ่อสามี เรียกกำนันทองว่า ‘พ่อ’ เพราะหล่อนมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ของชายผู้นี้

“หนูวัลย์นี่เอง… พ่อนึกว่าใคร ไปยังไงมายังไงกันล่ะนี่… แล้วนี่มากับลูกสองคนหรือ?”

กำนันทองเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นสะใภ้อุ้มลูกชายในวัยขวบกว่าๆ ลงมาจากรถเพียงลำพัง… ไร้เงาของสามี

“ค่ะพ่อ… หนูมาสองคนกับลูกจ้ะ”

วัลยาตอบ

“อ้าว… แล้วไอ้สันต์ล่ะ ทำไมมันปล่อยให้หนูกับลูกมากันสองคนลำพัง”

กำนันทองถามถึงลูกชายของตน ทว่าถามยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นที่โทรศัพท์มือถือ แสงที่สว่างวาบขึ้นบนหน้าจอ ทำให้เห็นว่าเป็นเบอร์ของ ‘สันต์’ ผู้เป็นลูกชาย

“ไอ้สันต์โทรเข้ามาพอดี… ”

กำนันทองกล่าวขณะที่ตายังจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ และในจังหวะที่กำลังจะกดรับอยู่แล้วเชียว วัลยารีบยกมือห้ามและร้องบอก

“เดี๋ยวจ้ะ… เอ่อ… ถ้าพี่สันต์ถามถึงหนูกับลูก… พ่อทองอย่าบอกนะว่าหนูกับลูกมาที่นี่”

ประโยคที่ได้ยินจากปากของสะใภ้แม่ลูกอ่อน ทำให้กำนันทองขมวดคิ้ว

“นี่แสดงว่าทะเลาะกันมาใช่ไหม… ”

กำนันทองเดาไม่ผิด

“ใช่จ้ะ… ”

วัลยาตอบ กำนันทองกดรับโทรศัพท์ “พ่อ… ผมเองสันต์… เอ่อ เมียผมมาลูกมาที่นี่หรือเปล่า”

เป็นอย่างที่วัลยาคิดเอาไว้ ได้ยินเสียงของสันต์ละล่ำละลักถามเสียงดังมาจากต้นสาย

“ไม่ได้มา… ”

กำนันทองรีบตอบ พยายามควบคุมสุ้มเสียงให้นิ่งได้อย่างเหลือเชื่อ

“อ่าว… ผมนึกว่าวัลย์พาลูกมาที่นี่”

สันต์กล่าว

“ไม่… เมียเอ็งไม่ได้มาที่นี่ มีอะไร… อย่าบอกนะว่าทะเลาะกันจนเมียหอบลูกหนี”

กำนันทองจำต้องเล่นไปตามบท

“ครับ… ทะเลาะกันเมื่อตอนบ่ายครับพ่อ”

สันต์ตอบ

“ใจเย็นสิวะ… ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟัน หนักนิดเบาหน่อยก็ควรอภัยกัน กระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา”

กำนันสอนลูกชายอย่างคนที่ผ่านการอาบน้ำร้อนมาก่อน

ทว่าเรื่องนี้… ก็มีแต่สันต์และวัลยาเท่านั้นที่รู้ว่าปัญญามัน ‘ใหญ่’ กว่าที่สันต์แนะนำ

“คราวนี้ผมผิดเองครับ… โมโหจัดจนลืมตัว ด่าเมียเสียๆ หายๆ กระชากแขนจนวัลย์เจ็บ โกรธมากจนต้องพาลูกหนีผม”

สันต์สำนึกผิด เสียงเครือคล้ายจะร้องไห้

“ไอ้ห่า… มึงนี่มันก็ร้ายเหลือเกิน มึงเป็นผู้ชายประเภทไหนกันวะ ผู้ชายที่ด่าเมีย… กล้าทำร้ายผู้หญิงเขาเรียกว่าหน้าตัวเมียโว้ย”

กำนันทองด่าอย่างไม่ไว้หน้า สันต์นิ่งไม่เถียง รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนตรง… เป็นคนจริง… ไม่เคยนิ่งเฉยกับอะไรที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง

คุยกันต่อมาอีกครู่สั้นๆ สันต์ก็กดวางสาย บอกไว้ว่าจะโทรไปถามที่บ้านพ่อแม่ของวัลยาที่เชียงใหม่

“หนูวัลย์… ไอ้สันต์มันบอกว่าจะโทรไปตามหนูที่บ้านเชียงใหม่”

กำนันทองรีบบอกกับลูกสะใภ้

“ไม่ต้องห่วงค่ะพ่อทอง.. หนูบอกแม่ไว้แล้วว่าให้หลอกว่าหนูอยู่ที่นั่น”