ตอนที่ 4 เจ้าชายปีศาจ
“ช่างเถอะ ๆ ว่าแต่มึงบอกว่าน้องมิวไม่น่าสนใจแล้วทำไมถึงให้กูหาประวัติมาให้ล่ะ”
“เรื่องนั้นน่ะเหรอ เพราะว่ากูสงสัยอะไรบางอย่างน่ะสิ”
"อะไรวะ"
“เออ ไม่มีอะไรรอกูพิสูจน์ให้รู้เรื่องก่อนถ้าใช่แล้วจะบอกมึงเป็นคนแรกเลย”
“เออ ๆ ก็ดีแต่กูขอล่ะไอ้วินทร์ วันนั้นที่โดนด่ากันไปเซตใหญ่กูว่ามึงก็บอกไอ้พวกนั้นปล่อยน้องมันไปเหอะ เห็นแล้วสงสารว่ะ กูยังต้องขอให้น้องมันช่วยอีกเยอะ”
“เออ กูจะบอกให้แต่พักหลังพวกมันก็ไม่แซวแล้วนี่”
“ก็คงไม่กล้าแล้วละมั้ง สงสัยจะกลัวปากใบมีดโกนของน้องมิวไปอีกนานเลยล่ะ”
“น้องมิวเหรอ”
“ใช่ ชื่อเล่นชื่อมิวไง กูถามน้องวันที่เจอที่หอสมุด”
“เหอะ ไม่ใช่ว่ามึงจะจีบน้องแว่นเฉิ่มเนิร์ดนี่หรอกเหรอไอ้กรเห็นพูดถึงบ่อย ๆ”
“ส้นตึกเถอะไอ้วินทร์อย่าพูดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้ไหม รุ่นน้องก็คือรุ่นน้องโว้ย ไปได้แล้ว”
“เออ ๆ”
วันศุกร์ / Q-Bar
“สุดหล่อมาแล้วเหรอ”
“หวัดดีครับ”
“ไฮพี่วินทร์”
“หวัดดีคนสวย”
ภาวินทร์เดินเข้ามาผ่อนคลายที่บาร์เพราะสองวันที่ผ่านมาเขากับเพื่อน ๆ แทบจะไม่ได้นอนเพราะลุยทำงานโปรเจคจบส่งอาจารย์
ทั้งกลุ่มตกลงกันว่าศุกร์ เสาร์จะเป็นวันพักผ่อนที่ไม่ต้องมาทำรายงานอีกเพื่อไม่ให้เครียดกันจนเกินไป เขาเดินมาที่บาร์และสั่งเครื่องดื่มอย่างเดิมซึ่งวันนี้เขาเห็นว่าเป็นบาร์เทนเดอร์ผู้หญิง ซึ่งมีป้ายชื่อ “เรเน่” ติดเอาไว้
“เครื่องดื่มของคุณค่ะ”
“ขอบใจ”
เธอรีบหันหลังให้เขาทันทีและแกล้งทำเป็นเช็ดแก้วเพราะกลัวว่าภาวินทร์จะจำเธอได้ แม้ว่าจะแต่งหน้าจัดใส่คอนแทคเลนส์และทาปากสีเข้มจนจำภาพเดิมไม่ได้ก็ตาม
“รสชาติที่คุณผสม อร่อยกว่าบาร์เทนเดอร์อีกคน”
“ขอบคุณมากค่ะคุณผู้ชาย”
“เป็นมารยาทของคนชงเหล้าเหรอที่ต้องเอียงข้างคุยกับลูกค้า”
“เอ่่อ…”
“พี่วินทร์ขา…. วันนี้มาได้ด้วยเหรอคะ ไม่เจอกันตั้งนานไปแดนซ์กันหน่อยดีไหมคะ”
“ได้สิพี่กำลังเบื่ออยู่พอดี”
สาวสวยคนนั้นโอบรอบเอวของภาวินทร์และพากันหายเข้าไปที่โซนแสงสีเสียงอีกฝั่งหนึ่งของบาร์ มิวที่ยืนอยู่ที่บาร์ถึงกับพ่นจมูกออกมา
“พวกคนเจ้าชู้ก็ยังน่าเกลียดเหมือนเดิม”
ไม่นานเขาก็ควงผู้หญิงที่พึ่งพาไปที่โซนเต้นกลับมาและสั่งเครื่องดื่มอีกคนละชุด เธอทำหน้าที่ชงให้ทั้งคู่ก่อนที่หญิงสาวที่เริ่มเมาแล้วจะหันไปจูบเขาโดยไม่ตั้งใจ ภาวินทร์ที่ตกใจและไม่ชอบดันเธอออกไปทันทีจนเครื่องดื่มนั้นหก
“ว้าย! พี่วินทร์ผลักนินนี่ทำไมคะ”
“เธอ! ทำอะไรน่ะ”
“ก็จูบไงคะ ไม่ได้เหรอ”
“ไปให้พ้น”
“พี่วินทร์...”
“ไปให้พ้น!!”
มิวถึงกับตกใจตาค้างเมื่อเห็นว่าภาวินทร์ด่าและไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอยังไม่ทันได้ดื่มคอกเทลที่เขาสั่งเลยแต่ตอนนี้ยืนร้องไห้อยู่หน้าเขา เสียงเพลงยังดังอยู่แต่คนในร้านเริ่มหันมามองทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มอาย
“พี่วินทร์ นินนี่ก็แค่…”
“ฉันบอกให้เธอไปให้พ้น!”
“แต่ว่า…”
“เฮ้ย… ไม่เอาน่าสุดหล่อ เอาน่า ๆ นินนี่ไปสนุกทางโน้นเถอะนะ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้วขอโทษทีนะครับ”
ผู้ชายอีกคนรีบพาเธอออกไปจากหน้าบาร์ทันที ภาวินทร์หันมาสั่งเครื่องดื่ม และต้องตกใจเมื่อเขาเห็นแววตาที่คุ้นเคยตรงหน้า แต่เขารู้สึกโมโหจนคิดไม่ทันว่าเหมือนเคยเห็นหน้าเธอที่ไหน
“เอามาอีกแก้ว”
“เอ่อ…ค่ะ”
เธอชงเครื่องดื่มตามที่เขาสั่งพร้อมกับเครื่องดื่มอีกแก้วที่เสิร์ฟพร้อมกันจนเขาสงสัย
“นี่อะไร”
“ดื่มเครื่องดื่มที่แรงมาก ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ เครื่องดื่มแก้วเล็ก ๆ นั่นจะช่วยได้ถ้าคุณรู้สึกพะอืดพะอม”
“แต่ผมไม่ได้สั่ง”
“ถือว่าฉันเลี้ยงก็แล้วกันค่ะ”
“เรเน่ ขอพิงค์เลดี้สองแก้วโต๊ะซีสาม”
“โอเค”
เธอรีบหันหลังให้เขาพร้อมกับชงเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าสั่ง ภาวินทร์มองไปที่แก้วเล็ก ๆ สีสวยที่มีมะนาวฝานเล็ก ๆ วางอยู่และแผ่นหลังของบาร์เทนเดอร์สาวด้วยความสนใจ
แต่ตอนนี้เขาต้องทำอย่างอื่นจึงได้ดื่มเครื่องดื่มรวดเดียวหมดและลองชิมคอร์กเทลที่เธอทำให้ ปิดท้ายด้วยธนบัตรสีเทาสามใบที่วางเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
“ว้าว วันนี้ทิปเยอะเกินไปหรือเปล่า”
“คุณภาวินทร์น่ะเหรอ ทิปหนักตลอดแหละแล้วยิ่งเข้าถูกจังหวะแบบนี้ก็รวยเละ”
“จริงสิเชน ทำไมเขาถึงได้โกรธเวลาที่สาว ๆ ไปจูบเขาล่ะ ผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นน่าจะชอบไม่ใช่เหรอ”
“ภาพที่เราเห็นก็คงจะเป็นแบบนั้น แม้ว่าเขาจะหิ้วสาว ๆ กลับเกือบทุกวันแต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาจูบเลยสักคน”
“อะไรนะ เป็นไปได้ด้วยเหรอ”
“อืม ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกแต่ก็รู้ ๆ กันอยู่ ไม่มีข่าวน้ำซุบซิบไหนที่จริงมากกว่าหน้าบาร์อีกแล้ว สาว ๆ ที่เขาพาขึ้นโรงแรมน่ะพูดกันทุกคน ไม่มีใครที่กล้าจูบเขาเลย ทุกคนถ้าเริ่มเข้าใกล้และไปจูบเขาก็โดนไล่ออกมาหมด เหมือนจะเป็นโรคจิตหน่อย ๆ นะแต่คิดว่าคงจะมีอะไรฝังใจละมั้งถึงไม่จูบ”
“เหรอ จะมีอะไรนอกจากกลัวโรคติดต่อล่ะ ทางปากก็เป็นไปได้ยิ่งมั่ว ๆ แบบเขาล่ะก็”
“แหมเรเน่ เขาให้ทิปเธอตั้งเยอะยังกล้านินทาลูกค้าวีไอพีลับหลังอีกเหรอ”
“ทิปก็ส่วนทิปสิ ในเมื่อฉันทำหน้าที่ได้ดีได้ทิปก็ไม่แปลกนี่นา แต่เรื่องที่เขามั่วผู้หญิงมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”
“นั่นสินะ เธอไม่พูดก็มีคนอื่นพูดถึงเขาอยู่ดี ถือว่าวันนี้สาวน้อยคนนั้นโชคร้ายสุด ๆ เลยล่ะเพราะดันไปจีบเจ้าชายปีศาจเข้าให้”
“เจ้าชายปีศาจ ฉันชอบชื่อนี้”
“หึ ลองดูหน่อยไหมล่ะ”
“อย่าพูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นฉันยังไม่อยากตกนรกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตายหรอกนะ"
“เออจริงสิเรเน่ งานที่ติดต่อมาว่ายังไงตกลงจะรับหรือเปล่า งานชงเหล้าในปาร์ตี้ของไฮโซที่จัดบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมห้าดาวน่ะ พี่หญิงฝากมาถามเพราะครั้งนี้เห็นว่าลูกค้าเจาะจงเลือกเธอเลยนะ”
“จริงด้วยสิ เกือบลืมไปเลย”
“ค่าจ้างไม่น้อยเลยนะฉันก็ไม่อยากให้เธอพลาดงานดี ๆ เอาไว้จ่ายค่าหอก็ยังดี”
มิวกำลังคิดเรื่องนี้ก่อนหน้านี้เหมือนกันเพราะงานชงเครื่องดื่มนอกสถานที่เธอไม่เคยไปทำมาก่อนแม้ว่าจะไปในฐานะตัวแทนของร้านก็ตาม แต่ครั้งนี้ผู้จัดการของร้าน “พี่หญิง” มาถามเธอเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นวีไอพีของร้านติดใจในรสชาติที่เธอชงจึงได้เจาะจงเลือกเธอโดยเฉพาะ
“ไม่ต้องห่วงนะมีฉันไปด้วยอีกคน วันที่พวกเราไปจะมีคนมาแทน”
“แต่ฉันไม่เคยรับงานนอกสถานที่มาก่อนเลยจะไม่ไปทำเสียเรื่องเหรอ”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เธอก็แค่ทำตามปกติของเธอ ดีเสียอีกเพราะเราไม่ได้ยกบาร์ไป พวกเขาก็เลือกเมนูได้ไม่เยอะเหมือนที่นี่เธอก็แค่ชงเครื่องดื่มซ้ำ ๆ สักสามสี่รายการก็พอ”
“อืม ถ้าอย่างนั้นฉันรับก็ได้ มีนายไปด้วยไม่น่ามีปัญหาหรอกว่าแต่ลูกพีชแฟนนายไปด้วยหรือเปล่า"
“ไปสิเธอต้องเป็นเด็กเสิร์ฟในงานน่ะ ไม่ต้องห่วงนะงานนี้เป็นงานเลี้ยงภายใน เรื่องที่เธอยังเป็นนักศึกษาไม่มีใครรู้หรอก พี่หญิงเองก็บอกแล้วว่าปลอดภัย”
"ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะเชน”
“กลับดี ๆ ล่ะ”
“โอเค”
มิวเดินออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและลบเครื่องสำอางก่อนจะรีบเก็บของและเดินออกประตูหลังร้านเหมือนกับทุก ๆ วันที่เลิกงาน เมื่อขึ้นรถไปแล้ว คนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ก็เดินออกมามองแท็กซี่ที่วิ่งออกไป
“แบบนี้นี่เอง ลักษิกา…"เรเน่" ที่แท้ก็คนเดียวกัน น้องมิว หึ น่าสนใจดีนี่ แบบนี้สิถึงจะสนุก"