Chapter 1 ห้องใหม่ของฉัน
1
ในที่สุดฉันย้ายมาอยู่หอใหม่ที่ราคาแพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้ไม่เจอปัญหาอะไรตามมาอีก ทั้งระบบแสง สี เสียง แต่ก็ต้องแลกมากับการประหยัดค่ากินค่าเที่ยวลงอีกเท่าตัวเช่นกัน
เพราะโดนแม่บ่นเกือบทุกวัน จนขี้เกียจบ่นไปแล้ว
ที่จริงก็ย้ายมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว หอนี้เงียบจริงๆถึงแม้ว่าจะมีคนอยู่ทุกห้อง
โดยเฉพาะห้องข้างๆฉันที่รู้สึกว่าเหมือนไม่มีคนอยู่เลย ไม่มีการส่งเสียงอะไรออกมา ไม่เคยเห็นกันตอนออกไปไหน แอบเห็นเสื้อผ้ามาตากที่ระเบียงบ้างแต่ก็ไม่เคยเห็นตัวเจ้าของห้องซักที
แต่ก็ดีแล้วแหละที่มีเพื่อนข้างห้องแบบนี้จะได้ไม่มีปัญหาอะไร
ครืด~ ครืด~ ครืด~
"เสร็จแล้ว กำลังจะลงไป" ฉันกรอกเสียงใส่โทรศัพท์เมื่อเพื่อนสนิทโทรมา เพราะวันนี้เรามีนัดกันศุกร์หรรษา ยะฮุ้ว~
ฉันรีบปิดเพลงที่ถูกเปิดเสียงดัง แล้วลงไปด้านล่างทันที ที่เปิดดังเพราะฉันรู้ดีว่าหอพักนี้เก็บเสียงได้ดีมาก ยกเว้นแต่จะเปิดหน้าต่างระเบียงหรือเปิดประตูเท่านั้น
ชิบหายแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฉันลืมปิดหน้าต่างระเบียง หวังว่าจะไม่มีใครมาโวยวายนะ ดูจากข้างห้องแล้วก็เหมือนจะไม่มีคนอยู่ วันนี้เสื้อผ้าก็ไม่ได้ตากไว้
อ่อ เพื่อนสนิทของฉันชื่อฟ่าง เรารู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว และมันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่สนิทกับฉันมาก เพราะนิสัยเราคล้ายๆกันถึงอยู่ด้วยกันได้
ไม่นานนักเราก็มาอยู่ที่ร้านนั่งเล่นร้านหนึงในย่านนี้ เป็นร้านที่เปิดเพลงคลอเบาๆมีเครื่องดื่มแบบดื่มง่ายแต่เมาเละขาย ร้านนี้จึงมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
"ไงย้ายหอ โอเคป่ะ" ฟ่างเอ่ยปากถามตอนที่เรากำลังนั่งดื่มและฟังเพลงกันไป
"ก็ดีนะเงียบดี"
"หอนั้นมันหอพี่แบทนะ เขาพักอยู่ที่นั่นมึงเคยเจอป่ะ" ฟ่างถามเสียงตื่นเต้น แบทเหรอ แบทไหน
"กูไม่รู้จักอ่ะ หล่อเหรอ ทำไมมึงต้องรู้จัก" ฉันขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
ที่จริงไม่ใช่ว่าฉันไม่สนใจผู้ชายนะ ออกจะบ้าพวกผู้ชายหน้าตาดีจนต้องกดไลค์กดแชร์เลยด้วยซ้ำแต่ช่วงนี้มันยุ่งๆกับชีวิตตัวเองเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่
"เดี๋ยวให้ดู แล้วมึงต้องร้องกริ๊ดด" มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ
แล้วมันก็ยื่นมือถือที่มีรูปแอบถ่ายตอนที่เขากำลังกินข้าว สวมเสื้อของคณะวิศวะ หน้าตาจัดอยู่ในระดับดีมาก ขนาดว่าเป็นตอนเคี้ยวข้าวยังหล่อขนาดนี้
"..." ฉันเอื้อมมือไปดึงมือถือของยัยฟ่างมาดูใกล้ๆแล้วพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงว่า
ผ่าน!
"ปลื้มล่ะสิ"
"หล่อดี แต่อย่างเราก็ได้แค่นั่งดููหน้าจอเนี่ยแหละ คิดว่าคนแบบนี้เขาจะรอดมาได้เหรอ มีแฟนตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามหาลัยแล้วมั้ง" ฉันพูดแล้วสนใจของกินตรงหน้าก่อน
"พูดแบบนี้แปลว่าไม่ชอบ" ยัยฟ่างถามอย่างกวนๆ
"ก็ชอบ กูชอบหมดแหละคนหล่อๆอ่ะ"
"ถ้าเจอเขาที่หอ กดปล้ำเลยนะ ได้แล้วแบ่งกูด้วย" พูดจบมันก็ทำหน้าหื่นๆ
"แล้วเมียเขาก็จะมาทุบหัวกู"
"แต่กูว่าเขาโสด"
"มึงรู้ได้ไง" ฉันเบะปากถามมัน
"กูเด้า"
"เดา!"
พวกเราชอบคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยแบบนี้แหละ ทั้งที่ไม่มีใครจะมีแฟนเลยซักคน เหมือนกับว่าใช้ชีวิตเล่นสนุก กิน เที่ยวแบบนี้ไปวันๆมันยังมีความสุขดี
บทสนทนาเรื่องผู้ชายได้จบลงและเริ่มกลายเป็นนินทาชาวบ้านต่อ ถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ อีกอย่างพวกเราไม่ใช่คนดีถึงขั้นที่จะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย
"กูเริ่มเมาละนะ ไม่ไหวละ" ฉันเอามือปิดแก้วของตัวเองเอาไว้ หัวเริ่มโอนเอียงไปมา
"อ่อนอีกละ" ยัยฟ่างรีบกระดกแก้วของมันแล้วเทต่อจนหมดเหยือก
"ขอโทษนะครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกและสะกิดด้านหลังของฉันให้หันไปมอง
ฉันยิ้มให้เขาไปนิดๆ ตาปรือๆ เพราะเริ่มเมา แต่ก็ยังมองออกว่าเขาหน้าตาดีพอสมควร หรืออาจจะดีมากเลยด้วยซ้ำแต่ตาฉันมัวๆแล้ว
ให้ผ่านก่อนแล้วกัน
"เพื่อนพี่ฝากมาขอไลน์ หรือเฟสก็ได้" ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วเอามือถือของเขามากดไอดีตัวเอง
ที่แท้ก็ไม่ใช่เขาที่จะมาขอไลน์ฉัน แต่เป็นเพื่อนของเขาซึ่งไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่ก็ช่างเถอะฉันก็แค่คุยๆไปตามมารยาทเท่านั้น
"เพื่อนคนไหน" สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม ไม่ใช่ฉันหรอก ยัยฟ่างมันนั่นแหละ
"เอาไว้ให้มันทักไปเองแล้วกัน พี่มีหน้าที่แค่มาขอ ขอบคุณนะ" พูดจบเขาก็ยิ้มแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง ที่ตอนนี้พากันมองมาที่โต๊ะพวกเรากันหมด แต่ทุกคนถูกจัดอยู่ในระดับดีถึงดีมาก ใครก็ได้ในนั้นก็ถือว่า
ผ่าน!
ก็คนมันโสดนี่นา จะแจกไลน์ใครก็ด้าย~
ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว พอออกจากร้านฟ่างก็ส่งฉันที่หอ แล้วมันก็กลับหอตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอฉันตอนนี้เท่าไหร่
ฉันเดินขึึ้นไปที่ห้องของตัวเองมันอยู่ชั้นสามของหอ ไม่ชอบขึ้นลิฟท์เวลาดึกๆเท่าไหร่ เพราะกลัวผีเป็นชีวิตจิตใจเลย
วันนี้เมามากเลยแฮ่ะ สงสัยมันกินง่ายแหละรู้ตัวอีกทีก็เมาไปแล้ว โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ จะนอนตื่นบ่ายเลยคอยดู
คิดได้ดังนั้นก็เอื้อมมือไปจับลูกบิด แต่ไม่ทันที่จะควักกุญแจออกมาประตูห้องก็เปิดออก เพราะความมึนของฉันที่หมุนๆมันทั้งที่ยังไม่เสียบกุญแจ
"อ้าว ฉันไม่ได้ล็อคเหรอ" ฉันบ่นพึมพำแล้วเดินเข้าในห้องอย่างเมาๆ เขวี้ยงกระเป๋าลงบนเตียง แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆนั้น
นอกจากจะไม่ล็อคประตูแล้วฉันยังไม่ปิดไฟในห้องอีกสินะ แต่ช่างเถอะ ไม่มีแรงจะเดินไปปิดแล้วล่ะ คงไม่ทำให้ฉันหมดเงินกับค่าไฟไปเยอะหรอกมั้ง
คิดได้ดังนั้นก็หลับตาลงทันที น้ำก็ไม่ต้องอาบมันละ เมาขนาดนี้มีหวังได้หลับในห้องน้ำพอดี
คร่อกZzzz