บทที่ 7 รับสมัครพนักงาน
“คุณคิดยังงั้นเหรอครับ” มานัสย้ำถาม
“ครับ แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตามความคิดของผมก็ได้นะ”
“คุณแนะนำให้ผมดีๆ ทั้งนั้น ผมจะปฏิเสธได้ยังไง ผมจะติดต่อกับเขาดูถ้าเขายอมรับข้อเสนอของผม ผมก็ตกลง คุณภาเห็นด้วยใช่มั้ยครับ”
“เห็นด้วยครับและก็ขออวยพรให้คุณโชคดีนะครับ”
“ขอบคุณมากครับพ่อเลี้ยง”
มานัสยิ้มปลื้ม ถ้าพ่อเลี้ยงภาคีถอนหุ้นเขาก็จะได้บริหารเต็มตัวโดยไม่ต้องอ้างชื่อภาคีอีกต่อไปส่วนภาคีนั้นวางหูโทรศัพท์ทั้งที่ใจอยากจะถามถึงเรื่องของหญิงสาวคนนั้น คนที่เข้ามาหลอกหลอนในมโนสำนึกของเขาอยู่ตลอดเวลา หากเขาถามออกไปมานัสต้องหัวเราะเยาะเขาแน่และอาจคิดว่าเขาชอบหญิงสาวทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของหล่อน ไม่รู้ว่าหล่อนอยู่ที่ไหนเดือดร้อนเรื่องเงินจริงหรือไม่ เขาถอนใจยาว
“คิดมากอีกแล้วเรา”
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะ เพื่อให้เรื่องของหญิงสาวที่เจอในบ้านมานัสหลุดออกไปจากสมองและความคิดคำนึง
“คุณภาคะ กาแฟมาแล้วค่ะ อย่าดื่มมากนะคะเดี๋ยวนอนไม่หลับ” เสียงเนิบของนวลจันทร์ดังมาจากประตูครู่เดียวเหยือกกาแฟก็วางลงตรงหน้าภาคี
“ครับผม นายภาคีจะเชื่อป้านวลจันทร์ทุกอย่างครับ”
เขายิ้มกว้างล้อนวลจันทร์ หล่อนค้อนให้แล้วออกจากห้องไปไม่รบกวนการทำงานของเจ้านายหนุ่มและสิ่งนี้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ภาคีรักป้ามาก นวลจันทร์รู้ใจไปเสียทุกอย่างไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขา แม้กระทั่งเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาเกี่ยวพันแม่บ้านใหญ่ก็ดูออกว่าเขารักชอบหรือไม่ รายที่มายุ่งวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ก็เช่นกัน
นวลจันทร์คงรู้ว่าเขาไม่ชอบหมายถึงชอบแบบคนรักจึงหาทางกันให้เกือบทุกครั้งที่ลิตาก้าวเข้ามาในบ้านซึ่งตัวเขาเองคบลิตาอย่างเพื่อนคนหนึ่งและคงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ถึงแม้ว่าหล่อนจะตามเอาใจเขาอ่อนหวานกับเขาทุกครั้งที่เจอหน้าก็ตาม เขาพยายามทำตัวให้หล่อนรับรู้ว่าเขารักหล่อนแบบไหนแต่หล่อนก็คอยรุกจนเขาต้องถอยหลายครั้งเพราะถ้าหากเขาหลงกลเมื่อไหร่ชีวิตทั้งชีวิตของเขาไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
วันอังคารภาคีเข้าบริษัทผ้าไหมไทยเวลานี้ยอดส่งออกค่อนข้างดีมาก มีออเดอร์สั่งเข้าจนทำเกือบไม่ทัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะทางบริษัทเน้นเรื่องคุณภาพงานมากกว่าปริมาณ ลูกค้าต่างประเทศจึงพอใจในสินค้า ยอดการสั่งเข้าแต่ละครั้งทำเอาทางบริษัทหนักใจ ผ้าไหมขายดีจึงจำเป็นต้องขยายกิจการรวมทั้งเปิดรับสมัครพนักงานทุกแผนกตั้งแต่ระดับหัวหน้าจนถึงพนักงานฝ่ายผลิต
“พ่อเลี้ยงครับ ช่วงนี้มีออเดอร์สั่งเข้ามามากทางเราจำเป็นต้องรับสมัครพนักงานเพิ่มครับ”
จามรหัวหน้าฝ่ายผลิตรายงานความเคลื่อนไหวในบริษัทให้ภาคีทราบซึ่งฝ่ายบุคคลรายงานให้ภาคีทราบไปครั้งหนึ่งแล้ว
“ฮื่อ. ผมสั่งซื้อเครื่องทอเพิ่มอีกสิบตัว คิดว่าสิ้นเดือนนี้คงได้รับ ทางคุณช่วยจัดการฝึกพนักงานให้คล่องระวังเวลาทำงานอย่าให้มีจุดบกพร่อง บริษัทของเราเน้นเรื่องคุณภาพมาก่อนสิ่งอื่นถึงได้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ยังไงก็ฝากคุณด้วยเรื่องขยายโรงงานแล้วก็คุณเตรียมตัวเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตได้แล้วนะคุณจามร”
“ขอบคุณครับพ่อเลี้ยง” จามรยิ้มอย่างยินดี ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานกับบริษัทผ้าไหมไทย อิทธิไพศาล ยังไม่เคยมีเรื่องทุกข์ใจเนื่องมาจากเจ้านายคนนี้สักครั้งมีแต่กับหัวหน้าใหญ่เท่านั้นแต่ทุกอย่าง ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ถ้าหากว่าใจรักงานและเข้าใจในการบริหารไม่ว่าจะมีข้อขัดแย้งมากน้อยเพียงใดเขาก็อยู่ได้ อาจเป็นเพราะพ่อเลี้ยงภาคีก็ได้ที่ทำให้เขาสู้และมีกำลังใจในการทำงานมาจนถึงทุกวันนี้
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมชอบความตั้งใจในการทำงานของคุณ คุณสมควรได้รับตำแหน่งนี้ อ้อ ถ้าจะแต่งงานเมื่อไหร่บอกผมนะ ผมจะเป็นเจ้าภาพให้” พ่อเลี้ยงหนุ่มยิ้มล้อ จามรหัวเราะเมื่อเจ้านายกระเซ้าเรื่องการแต่งงาน เขายิ้มเขินแล้วว่า