บทที่ 1 แขกพิเศษ
รถสปอร์ตสีดำรุ่นใหม่ล่าสุดแล่นเข้าไปในซอยลึกมุ่งตรงไปยังตัวบ้านไม้สักหลังใหญ่ซึ่งอยู่เกือบสุดซอย ภาคี อิทธิไพศาลพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของรีสอร์ทหลายแห่ง หมู่บ้านจัดสรรที่สร้างใกล้จะเสร็จและบริษัทผ้าไหมไทยที่กำลังเติบโตอย่างงดงาม
พ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคนทั้งหญิงสาวอายุอยู่ในวัยเดียวกับเขา อายุน้อยกว่าเขาและรุ่นพี่ที่เขาไม่เคารพเช่นพี่สาวแต่ไม่ว่าใครจะเข้ามาในชีวิตของเขาก็ตามเขาไม่เคยให้สิทธิพิเศษกับใครสักคน ผู้หญิงทุกคนที่ก้าวเข้ามาหาเขามีสัมพันธ์กับเขาต้องมีข้อตกลงก่อนเสมอ เมื่อต่างฝ่ายต่างพอใจในสิ่งที่ได้รับเป็นอันเลิกแล้วต่อกันและถ้าหากคนใดคิดจะจับเขาหรือคิดที่จะเป็นเจ้าของเขา ผู้หญิงคนนั้นก็จะไม่ได้อะไรจากเขาเลยแม้แต่คำว่าเพื่อน
ชายหนุ่มขับรถคู่ใจเข้ามาจอดหน้าบ้านไม้สองชั้นอย่างคุ้นเคย เขามาที่นี่บ่อยเพราะธุรกิจรีสอร์ทกับเจ้าของบ้านหลังนี้ เสียงรถคุ้นหูทำให้มานัสรีบเดินออกมาดูและเขาก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นผู้ที่ก้าวลงจากรถคือคนที่เขาต้องพึ่งพาอยู่ในขณะนี้
ด้วยเหตุที่เขายังไม่มีอิทธิพลในด้านธุรกิจเท่ากับพ่อเลี้ยงภาคี เขารู้ดีว่าภาคีเป็นหนุ่มไฟแรงเอาจริงในเรื่องงานและเป็นคนมีเหตุผล ถ้าสิ่งไหนเห็นว่าไม่เหมาะในการทำธุรกิจภาคีจะสั่งยกเลิกทันทีและถ้าสิ่งไหนเห็นชอบด้วยทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นทีเดียว มานัสกึ่งวิ่งลงบันไดลงมาต้อนรับแขกพิเศษของเขา
“สวัสดีครับคุณภาคี วันนี้มาถึงที่นี่มีอะไรให้รับใช้รึเปล่าครับ”
หนุ่มใหญ่ยิ้มแย้มทักทายพ่อเลี้ยงหนุ่ม ภาคียิ้มให้ขณะเดินตามขึ้นบันไดไม้ขัดมันวาววับไปยังห้องรับแขก เขาเหลือบมองผ่านประตูกระจกใสเข้าไปด้านในเห็นหญิงสาวผมยาวถึงกลางหลัง ใบหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตไร้สีสันของลิปสติกแต่งเติม ริมฝีปากอิ่มเต็มหยักคล้ายกับกระจับอ่อน จมูกโด่งออกจะรั้นนิด ๆ แต่ก็รับกับใบหน้า ผิวสีน้ำผึ้งของหล่อนน่ามองเป็นยิ่งนัก สรุปแล้วผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีมากทีเดียว หล่อนนั่งหน้าบึ้งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั้น ภาคีหยุดเท้าลงตรงหน้าประตูกระจกเขาไม่อยากเข้าไปด้านในตอนนี้
“ผมมีธุระนิดหน่อยเองครับ คุณมานัสกำลังมีแขกอยู่ ผมรอข้างนอกดีกว่า”
เขาพูดกับเจ้าของบ้านแต่สายตาของเขายังจับจ้องอยู่ที่ร่างหญิงสาวไม่วางตา บุคลิกของหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่วิ่งมาหามานัสเพื่อต้องการเป็นอีหนูของเขา ท่านั่งตัวตรงใบหน้าเชิดเล็กน้อยของหล่อนบ่งบอกถึงความถือตัวและหยิ่งในศักดิ์ศรี หล่อนผู้นี้เป็นใครมาที่นี่ทำไมเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในสมองของพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างรวดเร็ว มานัสมองตามสายตาของพ่อเลี้ยงภาคีแล้วยิ้ม
“นั่นน่ะไม่ใช่แขกที่ไหนหรอกครับ คนรู้จักกันมาขอความช่วยเหลือเรื่องเงิน ผมเสนอข้อตกลงให้แต่เธอไม่ยอมรับ คงไม่ช่วยแล้วล่ะ”
มานัสอธิบายคร่าวๆ ขณะหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านในด้วยสายตาเป็นประกายระยับ หญิงสาวผู้นี้ก็คงเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่มานัสต้องการหล่อนเป็นคู่นอนของเขา เท่าที่สังเกตคงจะเคี้ยวไม่ได้ง่าย ๆ เขาจึงไม่ยอมช่วยเหลือหล่อน ภาคีพยักหน้าตามคำบอกเล่าของมานัส
“ผมขอเข้าไปพูดกับเธอสักครู่นะครับ”
“ตามสบายครับ”
มานัสยิ้มกับภาคีแล้วผลักประตูเข้าไปข้างใน การสนทนาของทั้งคู่อยู่ในสายตาพ่อเลี้ยงหนุ่มตลอดเวลา ครู่เดียวหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนส่ายศีรษะช้า ๆ ใบหน้าเครียดเข้มอย่างเห็นได้ชัด หล่อนสะบัดหน้าเมื่อมานัสหัวเราะและหมุนร่างโปร่งระหงเดินตรงมาที่ประตูผลักออกโดยเร็วจนภาคีหลบแทบไม่ทันร่างบางก้าวพรวดออกมาใบหน้าเรียบเฉยออกจะซีดเซียวด้วยซ้ำไป
หล่อนเดินผ่านหน้าเขาไปไม่เหลือบเหลียวมามองแม้หางตา เท้าที่ก้าวลงบันไดไม่เร่งรีบแต่เป็นจังหวะแน่วแน่ เจ้าของบ้านก้าวตามออกมาจากด้านใน ดวงตาเจ้าเล่ห์มองตามร่างระหงรอยยิ้มดูแคลนปรากฏบนใบหน้าอูมของเขา
“คุณภาคีชอบเธอมั้ยครับ” มานัสถามตรง ๆ ขณะเบนสายตามาที่ภาคี
“ทำไมครับ มีอะไรรึเปล่า”
ชายหนุ่มถามกลับสายตายังคงมองตามร่างบางที่เดินตัวตรงห่างออกไปภายในใจคิดว่าเจ้าหล่อนคงไม่ยอมรับข้อเสนอของมานัสหรือไม่อีกทีมานัสก็อาจจะให้หล่อนน้อยไปก็ได้
“เธอต้องการเงินไปรักษาแม่” หนุ่มใหญ่ตอบพร้อมยิ้มบางแล้วพูดต่อ
“มาขอยืมผมสองแสน ผมเสนอข้อตกลงให้ก็ไม่ยอมรับทั้งๆ ที่จะไม่ขอเงินคืนเลยสักบาทเดียว”
“คุณขอให้เธอนอนด้วยงั้นสิ” ภาคีรู้ทัน
มานัสมีนิสัยเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสาวๆ สวยๆ เป็นต้องคว้าทันที ทุกคนที่เขาถูกใจไม่รอดพ้นเงื้อมมือไปได้ซึ่งเขาทำสำเร็จเฉพาะผู้หญิงที่เห็นเงินมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดเท่านั้น สำหรับหญิงสาวที่เพิ่งเดินจากไปคงไม่ยอมเป็นของเล่นให้มานัสเหมือนคนอื่นๆ มานัสถึงได้ถามพ่อเลี้ยงภาคีอย่างนี้