บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 มือสังหาร ! 3

“คุณ…คุณทำอะไรลูกสาวฉัน” เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากลูกสาว อรุณศรีจึงหันไปคาดคั้นถามกันติทัตซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ

“เอ้อ…ผม” ชายหนุ่มอึกอัก

“เมื่อกี้ฉันเห็นนะว่าคุณนอนทับลูกฉัน นี่คิดจะข่มขืนลูกฉันใช่ไหม”

ข้อกล่าวหานั้น ทำเอากันติทัตถึงกับหน้าซีด ครั้นจะปฏิเสธก็รู้สึกกระดากใจ เพราะเขาก็ล่วงเกินเมรินหลายครั้ง

“ผม…เอ้อ”

“ทำไมไม่ตอบ อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ มีอะไรก็พูดมาสิ”

ชายหนุ่มถอนหายใจ สายตาคมกล้าจ้องหญิงวัยกลางคนแน่วแน่ แล้วถามว่า

“คุณป้ารู้จักผมไหมครับ”

คราวนี้ทุกคนถึงกับเงียบ แม้แต่เมรินก็ยังหยุดร้องไห้ หล่อนผละห่างอกมารดาแล้วหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อหู

“คุณถามฉันว่าอะไรนะ” อรุณศรีถามย้ำ

“ผมอยากรู้ว่าคุณป้ารู้จักผมไหมครับ”

“ทำไมฉันต้องรู้จักคุณด้วย ยอมรับว่าคุณน่ะรูปร่างหน้าตาโดดเด่นมาก แต่คุณก็ไม่ใช่ดารา จำเป็นด้วยเหรอที่ฉันต้องรู้จักคุณ”

ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง เขานึกว่าหากในอดีตเขากับเมรินเคยคบหากันจริงๆ แม่ของหล่อนก็น่าจะรู้จักเขาด้วย แต่น่าแปลกที่กลับทำเหมือนไม่เคยพบกันมาก่อน

นี่มันอะไรกันนะ ?

“ขอโทษครับ ผมคงถามผิดประเด็น อ้อ…จริงสิ เมื่อครู่นี้แมวโดนลอบทำร้ายนะครับ หากผมไม่อยู่ตรงนี้ด้วย คง…” เขาเว้นช่วงคำพูดไว้เพียงเท่านั้น ดวงตาสีสนิมเหล็กสลดลงวูบหนึ่ง…เพียงแค่คิดว่าหากเขาช่วยไม่ทันแล้วหล่อนอาจได้รับอันตราย หัวใจที่ซ่อนอยู่ตรงอกข้างซ้ายก็เจ็บจี๊ดราวกับมีเข็มมาตำ

“อะไรนะ แมว…นี่หนูโดนลอบทำร้ายงั้นเหรอ เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า” อรุณศรีลูบแขนบุตรสาวไปมาอย่างเป็นห่วง

“มะ ไม่ ไม่เป็นอะไรค่ะคุณแม่”

“แม่ออกไปทำธุระแค่สองชั่วโมง ไม่คิดเลยว่าช่วงที่แม่ไม่อยู่ หนูจะเจอเรื่องน่ากลัวแบบนั้น”

“แมวไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะคุณแม่ แค่เนื้อตัวเลอะฝุ่นเพราะกลิ้งบนพื้นดินเท่านั้น” หล่อนตอบ ขณะที่อรุณศรีถามต่อ

“งั้นแสดงว่าผู้ชายคนนี้ช่วยหนูไว้ใช่ไหม แล้วที่หนูร้องไห้ก็คงเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นใช่หรือเปล่า”

“ค่ะ…ก็ทำนองนั้น” หญิงสาวตอบรับเสียงอ้อมแอ้ม

“โอ…” อรุณศรีถอยห่างจากหญิงสาว แล้วหันไปหากันติทัตแทน “ต้องขอบคุณคุณจริงๆนะคะที่ช่วยหนูแมว ฉันก็หลงเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นพวกบ้ากามเสียอีก”

ชายหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นตบท้ายทอยตัวเองเบาๆอย่างหนักใจ เอาเข้าไป…คนลูกก็ว่าเขาเหมือนหมีควาย คนแม่…ก็ว่าเขาบ้ากาม

“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นเพื่อนแมวเขาน่ะ”

“เพื่อนหนูแมว ?” อรุณศรีเบิกตากว้าง “ไม่คิดเลยว่านอกจากจะมีตาพงษ์เป็นเพื่อนที่ดีแล้ว หนูแมวยังมีเพื่อนรูปหล่ออย่างคุณอีกด้วย”

“ผมชื่อกันต์นะครับคุณป้า เพิ่งรู้จักแมวได้ไม่นาน รู้สึกคุยกันถูกคอก็เลยสนิทกันน่ะครับ” ตอนที่พูดก็อดเหลือบตามองไปทางเมรินไม่ได้ เห็นหล่อนหน้าบึ้ง มองเขาตาขุ่นเลยทีเดียว

“จ้ะ ป้าน่ะ…” อรุณศรีจับอกตัวเอง เริ่มพูดกับชายหนุ่มอย่างเป็นกันเองมากขึ้น “ป้าไปอยู่กับสามีใหม่ที่ต่างจังหวัด หนูแมวเขาเลือกที่จะอยู่บ้านเกิด อยากทำงานถ่ายภาพที่ตัวเองรัก ป้าก็นึกว่าหนูแมวจะมีความสุขอยู่อย่างสงบซะอีก แต่ไม่คิดเลยว่าหนูแมวจะโดนผู้ชายหักอก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ป้าได้ยินเรื่องนี้เลยรีบขอสามีมาอยู่กับลูกสักระยะเพื่อช่วยปลอบใจน่ะ”

พอได้ยินคำว่า‘โดนผู้ชายหักอก กินไม่ได้นอนไม่หลับ’ ชายหนุ่มก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขามองหน้าเมรินยิ้มๆ เห็นหล่อนหน้าแดงก่ำ ท่าทางจะอายไม่น้อยที่โดน‘แฉ’

“แต่ว่าตอนนี้สามีโทรตามให้กลับไปช่วยดูงานไร่ แต่ป้ายังไม่หายเป็นห่วงหนูแมวเลย ยิ่งรู้ว่าถูกลอบทำร้าย ป้ายิ่งไม่กล้าทิ้งลูกไป”

กันติทัตพยักหน้าอย่าพอเข้าใจ เขารู้แล้วว่าทำไมอรุณศรีถึงไม่รู้จักเขา คงเป็นเพราะว่าช่วงที่เขาคบหากับเมรินนั้น หญิงวัยกลางคนผู้นี้คงอยู่ต่างจังหวัด

“เอางี้ไหมครับ แมวก็เป็นเพื่อนผม ผมจะช่วยดูแลแมวให้เอง ไว้ใจผมเถอะครับ” ชายหนุ่มอาสา แต่สีหน้าของอรุณศรียังคงลังเล

“ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะ แต่ว่าคุณก็เป็นผู้ชาย มันคงไม่เหมาะ”

กันติทัตเลิกคิ้วขึ้นสูง แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในสมอง จึงเอียงหน้ามากระซิบข้างหูอรุณศรีว่า “ที่จริงผมชอบผู้ชายด้วยกันน่ะ คุณป้าอย่าเป็นห่วงเลยครับ”

“ต๊าย ! จริงเหรอเนี่ย” อุทานเสียงแหลมอย่างไม่อยากเชื่อ ยกมือป้องปาก ทำตาโต พลางกวาดตามองร่างสูงขึ้นๆลงๆ “หุ่นล่ำๆ หน้าหล่อๆแบบนี้เนี่ยนะ”

“แต่ก็คงเป็นไปได้มั้ง เพราะคนที่เป็นอย่างคุณ ส่วนใหญ่ก็หุ่นล่ำๆกันเยอะ แต่ว่า…แหม น่าเสียดายจัง หน้าตาก็อย่างหล่อ” อรุณศรีหัวเราะคิก แล้วตบเบาๆที่ต้นแขนกำยำ “เอาเป็นว่าป้าเข้าใจล่ะกันจ้ะ”

“ครับ ขอบคุณคุณป้ามากครับ”

“งั้นป้าขอฝากหนูแมวด้วยนะ ช่วยดูแลลูกสาวให้ป้าที พรุ่งนี้ป้าว่าจะเดินทางกลับเลย ถ้ามีปัญหาอะไรก็อยากให้โทรมาบอกป้าได้ทันทีเลยนะจ๊ะ ที่เบอร์นี้แหละ” อรุณศรียื่นนามบัตรให้ ซึ่งชายหนุ่มก็รับมา พลางยิ้ม

“ครับคุณป้า ผมจะดูแลแมวอย่างดีเลย”

พอเห็นว่าแม่ตัวเองคุยกับกันติทัตอย่างถูกคอ แถมยังฝากฝังให้ชายหนุ่มดูแลหล่อนอีก เมรินจึงรีบแทรกทันที

“ไม่ได้นะคะคุณแม่ จะฝากปลาย่างไว้ที่แมวได้ไง ไม่เอาๆๆ คุณแม่อย่ายอมให้หมอนี่เข้าใกล้แมวนะคะ”

“แมว…ทำไมเสียมารยาทกับเพื่อนของหนูแบบนั้นล่ะ เขาเป็นคนช่วยชีวิตหนูไว้ไม่ใช่เหรอไง”

“อะ เอ้อ…” หญิงสาวหน้าเผือด ความจริงข้อนี้ทำให้หล่อนไม่อาจปฏิเสธได้เลย

“ใช่แล้วแมว ผมเป็นคนช่วยคุณไว้นะ” เขาทวงบุญคุณหน้าตาเฉย ทว่ามุมปากกลับหยัดยิ้ม เหมือนสนุกที่ได้แกล้งกวนประสาทหล่อนได้

“คุณน่ะไม่ต้องพูดเลย” หล่อนตวาด จนอรุณศรีต้องรีบปราม

“เป็นผู้หญิง สงวนปากหน่อยสิหนูแมว…ถ้ามีทั้งพงษ์ทั้งคุณกันต์คอยดูแล แม่ก็สบายใจ”

“คุณแม่สบายใจ แต่แมวไม่สบายใจนี่คะ”

หล่อนหมายถึงอยู่ใกล้กันติทัตแล้วไม่สบายใจ ทว่ามารดากลับนึกว่าหล่อนยังไม่หายเจ็บจากการถูกผู้ชายทิ้ง จิตใจยังบอบช้ำอยู่ จึงแนะนำว่า

“แม่ว่าหนูอย่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้านเลย ในเมื่อตอนนี้ตกงาน ก็หากิจกรรมอะไรทำบ้าง จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ลองไปเล่นกีฬาดูมั้ย ไปเรียนหัดว่ายน้ำก็ดีนะ”

“คุณแม่ก็รู้นี่คะว่าแมวไม่คิดจะว่ายน้ำอีก”

“แมว…แต่นั่นเป็นความฝันของหนูไม่ใช่หรือ นอกจากเป็นช่างภาพแล้ว หนูยังอยากมีอิสระใต้ท้องน้ำ”

“ตั้งแต่เพื่อนของแมวจมน้ำตายต่อหน้าต่อตาโดยที่แมวช่วยอะไรเขาไม่ได้ แมวก็ไม่คิดจะว่ายน้ำอีกแล้วค่ะ ทำอย่างอื่นดีกว่า” หล่อนทำหน้ายู่

“แต่การว่ายน้ำไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ตอนที่แหวกว่ายอยู่ใต้สายน้ำ สมองจะปรอดโปร่ง มีอิสระ สบายใจมากๆเลยล่ะ ผมจะสอนว่ายน้ำให้คุณเอง”

“ใครขอให้คุณช่วยสอนมิทราบ ไม่จำเป็นหรอกนะ !” หญิงสาวแหว

“ก็ดีแล้วนี่หนูแมว มีอะไรทำจะได้ไม่ต้องเก็บเรื่องเก่าๆมาคิดอีก”

“แต่ว่าคุณแม่คะ…” หล่อนตั้งท่าจะแย้ง แต่แม่ตัดบทด้วยการหันไปบอกชายหนุ่ม

“ฝากหนูแมวด้วยนะคุณกันต์”

“ครับ…” กันติทัตรับคำ พลางหลุบตาลงเพื่อซ่อนบังความคิดเจ้าเล่ห์บางอย่างไว้ไม่ให้มีใครมองเห็น ก่อนจะพูดว่า

“ต่อไปนี้ผมจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตใจให้แมวเอง นอกจากจะคอยดูแลแมวแล้ว ผมจะช่วยสอนแมวว่ายน้ำด้วย รับรองว่าแมวจะต้องกลับมาเป็นแมวคนเดิมแน่นอนครับ !”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel