บทที่ 1 ผู้หญิงในฝัน…เธอคือใคร ? 2
รุ่งเช้าวันใหม่
กันติทัตต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพราะมีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้า เมื่อดูหน้าจอก็เห็นเป็นมารดาโทรมา เขาจึงกดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไปว่า
“ฮัลโหล สวัสดีครับมี๊”
/เป็นอย่างไรบ้างลูก ยังปวดหัวอยู่อีกไหม/
ชายหนุ่มยิ้ม รับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าวิสานีผู้เป็นแม่ห่วงเขามากแค่ไหน…แม่ของเขาเป็นคนไทยที่พบรักกับชาวต่างชาติ จึงย้ายไปอยู่ที่อังกฤษด้วยกันจนให้กำเนิดเขา
หลังจากเรียนจบและบริหารงานร่วมกับพ่อที่บริษัทในอังกฤษ เขาก็อยากมาเที่ยวเมืองไทยเพื่อพักผ่อนและดูลาดเลาสำหรับทำการขยายตลาดสู่เอเชียด้วย
แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากมาเมืองไทยได้เพียงครึ่งเดือน เขาจะประสบอุบัติเหตุจนต้องนอนอยู่โรงพยาบาลนานนับเดือน ที่ศีรษะของเขากระทบกับของแข็งจนสมองเขาจดจำไม่ได้ว่าเขาไปเจอเหตุการณ์เลวร้ายนี้ได้ยังไง
ได้แต่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองไทย โดยพ่อและแม่ได้บินมาเยี่ยมอาการเขาด้วยความเป็นห่วง จนตอนนี้เขาเริ่มมีอาการดีขึ้นมากแล้วจนออกจากโรงพยาบาลได้ เขาก็ยืนยันที่จะอยู่เมืองไทยต่อไปตราบใดที่ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เขาอาการหนักปางตายแบบนั้น เขาจะไม่มีวันกลับอังกฤษแน่ๆ
พ่อกับแม่กลับไปต่างประเทศแล้ว แต่แม่ยังโทรมาหาเขาเกือบทุกวันเพื่อถามไถ่เรื่องสุขภาพด้วยความเป็นห่วง
“ผมไม่ปวดหัวแล้วครับ หมอที่เมืองไทยก็เก่งนะ ตรงขมับของผมแทบไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย อาการก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้วล่ะครับมี๊” เขาตอบไปเช่นนั้น ก่อนเสริมต่ออีกว่า “แต่ช่วงนี้ผมอาเจียนบ่อยครับ มึนหัว คลื่นไส้ เหมือนไม่ค่อยมีแรง”
/ได้ไปหาหมอบ้างหรือยังล่ะกันต์/
“ไปมาแล้วครับ แต่หมอหาสาเหตุไม่ได้ ให้มาแต่พวกยารักษาโรคกระเพาะ ผมกินแล้วก็ไม่เห็นจะหายเลยครับ ช่วงนี้เลยต้องนอนอยู่แต่ในห้องพัก” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงหมดแรง
/งั้นกลับอังกฤษดีไหมกันต์ ให้หมอที่นี่ดูอาการก่อน เผื่อจะรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่/
“ผมยังไม่อยากกลับเลยครับคุณแม่ อีกอย่าง…สภาพผมตอนนี้ก็ไม่อยากเดินทางไกลด้วย กลัวไปอาเจียนบนเครื่องบินอีก”
/ลองกินยากระเพาะที่หมอให้ไปก่อนนะกันต์ กินต่อเนื่องไปสักระยะ อาการอาจจะดีขึ้น/ วิสานีแนะนำ
“ผมกินข้าวไม่ค่อยได้เลยครับ บางทีได้กลิ่นกับข้าวก็รู้สึกเหม็นจนอยากอ้วก”
คราวนี้ผู้เป็นแม่นิ่งไปนาน แล้วถามกลั้นหัวเราะ /อื้อหือ ! ขนาดนั้นเชียว แล้วอยากกินของเปรี้ยวๆด้วยหรือเปล่ากันต์/
“อยากครับ เมื่อก่อนผมไม่ชอบกินของที่มีรสเปรี้ยวเลย แต่เดี๋ยวนี้เป็นอะไรก็ไม่อยู่ เห็นของเปรี้ยวแล้วอยากกินแทบทนไม่ไหว มะม่วงที่ซื้อไว้ก็หมดแล้ว เดี๋ยวอีกสักพักผมว่าจะไปตลาดหาซื้อพวกมะยม ส้ม มาเก็บไว้กิน”
/กันต์…/ น้ำเสียงของวิสานีเริ่มจริงจังมากขึ้น /อาการของกันต์เหมือนคนแพ้ท้องเลยนะ/
“แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับมี๊ จะแพ้ท้องได้ไง” ชายหนุ่มตะโกนลั่น หน้าบึ้งอย่างหงุดหงิด
/นี่ถ้ากันต์มีเมีย แม่คงคิดว่ากันต์แพ้ท้องแทนเมีย/
“ไม่มีทางครับ ผมไม่ได้ยุ่งกับผู้หญิงมาเป็นปีแล้ว จะทำใครท้องได้ไง มี๊ก็เห็นนี่นาว่าผมโสดสนิท”
/อ่ะจ้า แม่รู้แล้วว่ากันต์โสดน่ะ แล้วเมื่อไหร่จะมีเมีย มีหลานให้แม่อุ้มซะที/
“ตอนนี้ผมยังไม่คิดอยากจริงจังกับใครครับ อยากเต็มที่กับงานมากกว่า แต่ดันมาไม่สบายแบบนี้ซะได้ แย่จริงๆ” กันติทัตบ่นอุบ
/เอาน่า พักให้หายดีก่อน เรื่องงานเอาไว้ทีหลังก็ได้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ไปหาหมออีกครั้งนะกันต์/
“ครับมี๊”
/งั้นแค่นี้ก่อนนะกันต์ ดูแลตัวเองด้วยนะ/
“ครับผม รักมี๊นะครับ” ชายหนุ่มหยอดคำหวาน ก่อนกดตัดสายไป จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้หยิบชุดใหม่ออกมาแล้วเข้าห้องน้ำ
แม่ก็พูดแปลกๆ…หาว่าเขาแพ้ท้องแทนเมีย จะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า ในเมื่อเขายังไม่มีเมีย !