ตอนที่8 ไม่ใส่ใจ
ไม่ว่าแต่ละวันโรมันต์จะมีเรื่องให้จัดการมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังเข้ามาดูแลงานที่บริษัทอย่างไม่บกพร่อง ยิ่งช่วงนี้ที่มีเลขาสาวรักษาการแทนคนใหม่ที่ทำงานดีกว่าที่คิด เรียกได้ว่าดีมากเข้ามาช่วยทำให้การทำงานของโรมันต์ราบรื่นขึ้นลดอาการหงุดหงิดไปได้ไม่น้อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดเข้ามาพร้อมกับเลขาสาวรักษาการแทนที่เดินเข้ามาด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวเข้ารูปกับกระโปรงทรงเอความยาวใต้เข่าแต่กลับผ่าโค้งเปิดขาซ้ายสูงไปถึงต้นขาอ่อน จังหวะการเยื่องย่างของเธอดูมั่นอกมั่นใจราวกับได้รับการฝึกปรับบุคลิกมาอย่างดี
“วันนี้ตอนสองทุ่มบอสมีนัดกับคุณคมสันต์ที่ club lounge ของโรงแรม...”
“คุณรุ่งรวีลูกสาวของคุณคมสันต์จะมาร่วมรับประทานอาหารด้วยนะคะ” ระรินเดินเข้ามารายงานงานสุดท้ายก่อนถึงเวลาเลิกงานอีกครั้ง แต่เป็นเวลาที่เธอจะต้องไปพบลูกค้ากับเขาอย่างรู้ดี
“เตรียมตัวให้พร้อม” โรมันต์บอกอีกฝ่ายขึ้นให้รู้ว่าเธอจะต้องไปกับเขา ยิ่งรู้ฝ่ายนั้นพาลูกสาวมาด้วยยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อยจนต้องหาตัวช่วยไปด้วยสักคน
“ค่ะ เวลาสิบแปดนาฬิกาสี่สิบนาทีเราจะออกเดินทางนะคะ คาดว่าการเดินทางคงใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และเผื่อเวลาไว้อีกยี่สิบนาที” ระรินตอบรับก่อนจะแจ้งเขาเป็นครั้งสุดท้ายก้มหัวให้เขาเล็กน้อยแล้วหมุนกายเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มไป
“.....” โรมันต์อดมองตามร่างระหงที่สรีระชัดเจนของระรินออกไปด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เธอกล่าวทิ้งท้าย
แม้แต่จินนาที่ทำงานอย่างดีและรู้ใจกับเขามาตลอดหลายปี แต่เธอยังไม่เคยแจกแจงเรื่องระยะเวลาออกเดินทางและการเผื่อเวลาแบบนี้ให้เขาเลยก็ว่าได้ แม้จะไม่ได้มีอะไรผิดพลาดแต่พอระรินทำแบบนี้กลับทำให้เห็นว่าหญิงสาวรายนี้ละเอียดรอบคอบกว่ามาก
แต่ก็ต้องรอดูต่อไป
19.50 น.
เป็นเวลาที่โรมันต์ขับรถมาถึงโรงแรมที่นัดหมายได้อย่างไม่ช้าไม่เร็วเกินไป การมารออีกฝ่ายในเวลาสิบถึงสิบห้านาทีถือเป็นมารยาทการนัดหมาย หรือไม่อีกฝ่ายอาจจะมาแล้วก็เป็นได้ ซึ่งนี่ก็ทำให้โรมันต์ถือว่าเลขารักษาการแทนของเขาทำงานได้อย่างดีมีการคิดเผื่อไว้อย่างรอบคอบ
ระรินลงจากรถเดินตามร่างสูงของโรมันต์ไปด้วยท่าทางมั่นใจ แม้จะเดินบนรองเท้าส้นสูงแต่จังหวะการก้าวเดินของเธอกลับดูราบรื่นราวกับเดินบนรองเท้าไม่มีส้น มือหนึ่งประคองไอแพดไว้ ส่วนอีกมือหิ้วหูกระเป๋าส่วนตัว เป็นท่าทางแบบ Working woman ที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วจนแทบละสายตาไม่ได้
ทั้งคู่เดินเข้าไปในตัวโรงแรมขึ้นลิฟท์ตรงไปยังชั้นของ club lounge ที่ได้ทำการจองไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว เดินเข้าไปที่โต๊ะก็เห็นว่าแขกที่นัดหมายได้มานั่งรออยู่พร้อมแล้วจริงๆ
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ” แม้จะยังไม่ถึงเวลานัด แต่ด้วยวุฒิภาวะโรมันต์จึงเอ่ยขอโทษออกไปอย่างไม่ให้เสียมาราท
“ผมกับลูกสาวก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน...”
“อ้อ นี่รุ่งรวีลูกสาวคนเล็กของผมเองครับ” แล้วคุณคมสันต์ก็แนะนำลูกสาวให้โรมันต์ได้รู้จักอย่างไม่รอช้า
“สวัสดีค่ะ คุณโรมันต์” รุ่งรวีลุกขึ้นยื่นมือทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มมีจริตจะก้านอย่างมาก
“สวัสดีครับ” โรมันต์ยื่นมือไปตอบรับสั้นๆ อย่างพอเป็นพิธีก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับลูกค้าตรงหน้าโดยมีเลขาสาวเข้าไปนั่งด้านใน
พนักงานก็เข้ามาก่อนจะทำหน้าที่รินไวน์ที่รุ่งรวีสั่งไว้ตั้งแต่แรกให้กับแขกมาใหม่ตามหน้าที่อย่างไม่รอช้า
“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมว่าเราคุยกันไปทานไปเลยนะครับ” โรมันต์ต้องการจบงานนี้ให้เร็วจึงไม่อยากเสียเวลาอื่นมาก โดยเฉพาะการพยายามยัดเยียดลูกสาวให้กับเขา
“เสียเวลาอะไรกันครับ ยังไงนี่ก็ค่ำแล้วเราต่างก็ไม่มีงานต้องทำกันแล้ว” คุณคมสันต์พูดขึ้นอย่างไม่คิดรีบร้อน ยังไงเขาก็อยากให้ลูกสาวทำคะแนนกับอีกฝ่ายให้ได้ก่อน
“ไม่หรอกครับ ผมมีงานต้องสะสางอีกมาก” โรมันต์บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าใครไม่มีแต่เขามี
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณโรมันต์สะดวกเลยก็ได้ค่ะ” รุ่งรวีพูดขึ้นอย่างมีเหตุผลพร้อมกับยกมือเรียกพนักงานเพื่อให้มารับออเดอร์
ทุกคนสั่งอาหารจานของตัวเองอย่างไม่ได้ใส่ใจกับอาหารมากนัก เพราะทุกคนต่างก็มีเป้าหมายของตัวเองกันทั้งนั้น
เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อยพนักงานก็เดินออกไปก่อนทุกคนจะเริ่มเข้าสู่เรื่องงานตามที่นัดหมายกันมาตั้งแต่แรก
“ว่าแต่นี่ใครเหรอครับ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” คุณคมสันต์รับแฟ้มสัญญาจากมือของระรินแล้วถามขึ้น
“เลขาใหม่ผมน่ะครับ” โรมันต์ไม่ได้ปิดบัง
“อ๋อ” คุณคมสันต์ตอบรับอย่างพอเข้าใจ
มิน่าเขาได้แจ้งเลขาคนเก่าไปแล้วว่าขอคุยเป็นการส่วนตัวกับโรมันต์แต่อีกฝ่ายยังพาอีกคนมาด้วย สุดท้ายเขาก็ต้องเก็บอาการไม่ได้พูดอะไรและเปิดแฟ้มอ่านรายละเอียดด้านใน
“อืม ผมพอใจแบบนี้ครับ” คุณคมสันต์พูดขึ้นหลังจากได้อ่านสัญญาฉบับสุดท้ายที่เคยคุยตกลงกันก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งถือว่าอันนี้เขารับได้
“ถือเป็นอันตกลงนะครับ” โรมันต์ได้ยินแบบนั้นก็รอให้กับคุณคมสันต์ลงนามในสัญญาถือเป็นอันเสร็จสิ้น
“ตกลงครับ...”
“อาหารมาพอดีเลย ถ้าอย่างนั้นเราทานอาหารก่อนแล้วค่อยเซ็นสัญญาดีกว่านะครับ” เมื่อเห็นพนักงานกำลังเดินมาพอดีคุณคมสันต์ก็ปิดแฟ้มลงวางไว้อีกด้านเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ในสิ่งที่ต้องการทันทีโดยที่ฝั่งเขายังไม่ได้ทำอะไร
“.....” โรมันต์รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามยื้อเวลาไว้แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรือความรู้สึกใดออกไป ยังไงก็ถือว่าอีกฝ่ายตกลงกับสัญญานั้นแล้ว
“งานการกุศลที่ผ่านมาผมได้เจอกับคุณรังสรร พ่อคุณบ่นใหญ่เลยว่าคุณทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวแล้วก็ไม่สร้างครอบครัวสักที” คุณคมสันต์เริ่มเข้าประเด็นที่เขาต้องการ ประเด็นที่เขาเคยพูดทีเล่นทีจริงกับคุณรังสรรไปแล้วเรื่องลูกสาว
“ผมไม่รีบครับ” โรมันต์ตอบกลับอย่างที่คิด ในหัวของเขาที่ผ่านมาไม่ได้สนใจเรื่องสร้างครอบครัวอะไรเลยสักนิด แม้จะมีเรื่องราวชายหญิงให้ศึกษาเรียนรู้แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น
“เรื่องแบบนี้ไม่รีบร้อนก็ดีครับ แต่ถึงยังไงการศึกษาเรียนรู้ก็สำคัญไม่น้อย” คุณคมสันต์พูดขึ้นเหมือนจะเห็นด้วยแต่ก็มีข้อแม้
“ยังมีเวลาอีกมากครับ” โรมันต์ก็ยังคงไม่ได้จนมุมและตอบกลับไปด้วยท่าทีปกติ
“คนหนุ่มสาวสมัยนี้สร้างครอบครัวกันช้าจริงๆ นะครับ...”
“ถ้าอย่างนั้นผมพอจะแนะนำลูกสาวให้เป็นเพื่อนกับคุณโรมหน่อยได้ไหมครับ” เมื่อเห็นว่าโรมันต์ไม่คล้อยตามคุณคมสันต์ก็เปลี่ยนเกมยัดเยียดลูกสาวให้อีกฝ่ายตรงไปตรงมาแต่ก็ยังคงในฐานะเพื่อน
“มีเพื่อนอย่างผมคงไม่สนุกหรอกครับ วันๆ เอาแต่ทำงาน” ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ
“แบบนั้นก็ดีสิคะ รวีมีเพื่อนที่เอาแต่เที่ยวเล่นมากพอแล้ว” รุ่งรวีไม่รอช้าพูดขึ้นบ้างอย่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
แต่ยากๆ แบบนี้สิถึงจะน่าเอาชนะและสนุกกับการค้นหา
“ถ้ายังไง รวีขอช่องทางการติดต่อกับคุณโรมันต์ไว้หน่อยได้ไหมคะ” รุ่งรวีถามขึ้นตรงๆ
“นี่นามบัตรของคุณโรมค่ะ” ระรินที่กรึ่มๆ หลังจากได้ยินประโยคหนึ่งจากคุณคมสันต์จึงทำให้เธอเผลอดื่มเข้าไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีสติดีพอรู้ว่าต้องทำอะไรก็รีบเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรของผู้เป็นนายส่งให้กับหญิงสาวตรงข้ามเธอทันที
นามบัตรที่เป็นเบอร์ติดต่อผ่านผู้ช่วยอย่างบดินหรือจินนา(ในอดีต)แต่รายละเอียดทุกอย่างเป็นนามของโรมันต์ ซึ่งมันไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวที่จะอยู่ในนามบัตรอีกชุดที่อยู่กับเขาโดยตรง เป็นส่วนที่เขาจะเลือกให้คนด้วยตัวเอง
โรมันต์เห็นการกระทำที่มีเซนส์ของระรินอดหันไปมองไม่ได้ แต่ก็ทำให้เขาเผลอขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความแปลกใจเมื่อใบหน้าของเธอขึ้นสีระเรื่อจากการดื่มไวน์ที่เขาพอจะเห็นหางตาว่ามีบริกรเดินมาเสิร์ฟให้กับเธอเรื่อยๆ
ดื่มราวกับลืมตัวว่ามาทำงาน
“ทำหน้าที่ดีจริงๆ นะคะ” รุ่งรวีรับมาอย่างไม่ค่อยพอใจโดยไม่ลืมประชดประชันที่เธอได้รับนามบัตรแทนการได้รับเบอร์จากเขาด้วยตัวเอง แต่เธอก็ยังเก็บอาการของตัวเองไว้อย่างไม่แสดงออกมากนักเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี
บรรยากาศบนโต๊ะชวนอึดอัดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้บทสนทนาหยุดค้างไว้เพียงเท่านั้นเมื่อโรมันต์แสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการคุยอะไรมากกว่าเรื่องงาน นั่นทำให้สองพ่อลูกอย่างคุณคมสันต์และรุ่งรวีเริ่มไม่พอใจและกำลังคิดหาเรื่องคุยแก้สถานการณ์อีกครั้ง
หมับ! แต่อยู่ๆ ระรินกลับยกแขนขึ้นกุมชายเสื้อสูทของโรมันต์อย่างกะทันหัน กุมไว้อย่างที่สองพ่อลูกมองไม่เห็นเพราะถูกโต๊ะบัง แต่โรมันต์ที่ถูกกุมดึงเสื้อไว้แน่นก้มลงไปดูพร้อมกับหันไปมองเลขาสาวข้างกายของตัวเองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ฉัน...อยากกลับแล้ว” ระรินขยับเข้าไปใกล้โรมันต์ก่อนจะป้องมือกระซิบให้ได้ยินกันสองคนเพื่อบอกเจตนาของเธอ
“.....” โรมันต์ปัดมือเธอออกเบาๆ อย่างไม่ได้ใส่ใจ เรื่องอยากกลับเขาก็อยากกลับตั้งแต่มาถึงเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ชอบนิสัยไม่รู้จักแยกแยะของหญิงสาวที่ทำงานดีแต่กลับกำลังทำตัวเหมือนเด็กที่ร้องอยากกลับบ้าน
เพียงแต่นั่นเป็นความคิดที่เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับระริน
