ขอความร่วมมือ
บทที่ 2 ขอความร่วมมือ
ยามสนธยามาเยือนท้องฟ้าก็เริ่มมืดทั่วทั้งเมืองปกคลุมด้วยหมอกสีขาวสตรีงามพิลาสล้ำคิ้วใบหลิวดวงตาสวยเป็นประกายลึกล้ำยากจะหยั่งรู้ใบหน้าเคร่งขรึมดวงตาคู่งามเรียบนิ่งดุจสายน้ำยาวเดินล้วนงามสง่ายากจะละสายตาของผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้า
"ร่างกายของท่านยังไม่หายดีออกมาตากน้ำค้างเช่นนี้อาจจะแย่เอาได้ "ชายผู้นั้นเป็นเจ้าของสันกรามคมชัดคิ้วองอาจผึ่งผายดวงตาทั้งสองหยักโค้งเล็กน้อยสง่างามทรงภูมิเอ่ยถามสตรีที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ตน
"คุณชายท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน" เมฆหมอกแห่งความสงสัยเข้าปกคลุมนางหยุดเท้าเงยหน้าจ้องมองพลางเอ่ยถาม
"สิ่งที่ข้าช่วยท่านนั้นเพราะข้ามิเห็นด้วยกับโทษที่ท่านจะได้รับท่านพี่เสิ่นเกาหลานนั้นทำเกินกว่าเหตุเพราะความโมโหจึงไม่หยั่งคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าท่านเป็นคนลงมือแต่กลับกล่าวโทษ ข้าจึงมิอาจจะรับได้ครั้นข้าจะประท้วงก็ยากจะต่อกรกับท่านพี่ที่มีอารมณ์ปะทุร้อนเช่นนั้น " ดวงตาคู่งามจ้องมองเขาเผยสีหน้าซับซ้อนยากจะอ่านความ
"การช่วยข้าออกมาจากการคุมขังเช่นนี้อาจจะทำให้ท่านเดือดร้อนเอาได้ท่านไม่เกรงกลัวอย่างนั้นหรือ? "
"ท่านจะให้ข้าทนเห็นท่านไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างนั่นหรือ เช่นนั้นข้าคงยืนเฉย ๆ มิได้"
"คุณชายช่างมีความเมตตาโดยแม้จริง ข้าทราบซึ้งน้ำใจบุญคุณครั้งนี้ข้าจะทดแทน"
"เพียงแค่ข้าช่วยท่านออกมาได้เพียงเท่านี้ข้าก็ไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้วต่อจากนี้ท่านจะทำอย่างไรต่อไป "
"ข้าเสมือนคนที่ตายไปแล้วแต่ทว่าความคับแค้นในใจของข้ายังเต็มอก ข้าอยากจะกลับไปที่เรือนตระกูลเสิ่นอีกครั้งเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงความผิดครั้งนี้มิใช่ฝีมือของข้า แม้ว่าข้าจะมีชื่อเสียงในเรื่องของความโหดร้ายแต่ข้ามิได้คิดทำร้ายน้องสาวของข้าเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ต้องมีบุคคนอื่นที่ต้องการกำจัดข้า " ดวงตานิ่งมองความว่างเปล่าจุดหนึ่งในอากาศในห้องความรู้สึกซุกซ้อนความเศร้าที่ล้ำลึกยิ่งกว่า
"ข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะ หากท่านบุ่มบ่ามอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้"
"ไม่เกี่ยว 'อันใด' กับท่าน แม้ว่าท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้แต่ท่านมิใช่เจ้าของชีวิตข้าเพราะความทุกข์ทรมานใจของข้ามิอาจจะรอได้ หากมีผู้ประสงค์ร้ายต่อสวี่เจี่ยฟางน้องสาวของข้าจริง ๆ จะเป็นเช่นไร อาจจะมีผู้ประสงค์ร้ายที่ต้องการกำจัดการทั้้งสองก็เป็นได้ ข้ามิอาจจะนิ่งเฉย" เขาจ้องมองใบหน้าในดวงตาเต็มเปรี่ยมด้วยความคับแค้น
"หากท่านตัดสินใจทำเช่นนี้ข้าจะช่วยท่านเองหากจะกลับเข้าไปที่เรือนสกุลเสิ่นต้องหาหลักฐานว่าทั้งหมดมิใช่ความผิดของท่านเสียก่อนมิเช่นนั้นคงทำให้ท่านพี่เสิ่นเกาหลานโมโหมากกว่าเดิมและไม่ยอมฟังความ"
สวี่หยางเริ่มครุ่นคิดนางจำได้คลับคล้ายคลับคราว่าวันที่นางไปหาเจี่ยฟางที่ห้องของนางเห็นสาวใช้กำลังทำตัวลับๆ ล่อ ๆ คล้ายนำผ้าเปื้อนเลือดออกไปทางด้านหลังเรือนนางไม่ได้นึกเอะใจอันใดคิดว่าสาวใช้นางนั้นเป็นฤดูของนาง จึงเดินไปหาเจี่ยฟางที่ห้องต่อก่อนจะเกิดเรื่องใส่ความนางขึ้นมา หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นที่มาของการใส่ความ ?
หรือว่าเจี่ยฟางมิได้ตั้งครรภ์ ? เช่นนั้นเรื่องที่นางเอ่ยบอกแก่ทุกคนเป็นเรื่องหลอกลวงเช่นนั้นหรือ ? มิใช่หรอกเจี่ยฟางเป็นน้องสาวของนาง นางจะทำเช่นนี้ใส่ความผู้เป็นพี่สาวของนางได้อย่างไร ?
"เช่นนั้นข้าต้องขอความร่วมมือจากท่านเสียแล้ว ท่านเต็มใจจะช่วยข้าหรือไม่? "
"ข้าทำถึงเพียงนี้ท่านยังไม่รู้อย่างนั้นหรือ?"
"ข้อขอบใจท่านอีกครา รุ่งสางข้าจะแจ้งท่านข้าขอไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนว่าจะทำเช่นไรต่อไป เพราะข้าไม่อยากจะผิดพลาดอีกแล้ว"
"เช่นนั้นท่านเข้าไปพักผ่อนเถิด หากขาดเหลืออะไรแจ้งข้าได้เสมอให้ท่านอยู่ที่นี่เปรียบเสมือนเรือนของท่านมิต้องเกรงใจ ข้าขอตัว"
เขาเดินจากไปทันทีหลังเอ่ยจบร่างบางจ้องมองแผ่นหลังของเขาจนลับสายตา ชายผู้นี้ยากนักจะรู้ใจ เขาคือคุณชายเสิ่นจิ้นบุตรชายคนรองของสกุลเสิ่นเป็นน้องชายที่รักท่านพี่ของตนเอง แต่เหตุใดเขาถึงยื่นมือเข้ามาช่วยนางเช่นนี้ ยิ่งคิดยิ่งมีข้อกังขามากมายที่พรั่งพรูเข้ามาในความคิด
ผลประโยชน์ที่ทำให้นางได้รับโทษครั้งนี้ยิ่งครุ่นคิดยิ่งเจอเรื่องเคลือบแคลงใจหรือทั้งหมดเป็นแผนของเสิ่นเกาหลานสามีของนางที่จงเกลียดจงชังนางมาตลอดอยากให้นางหายไปจากชีวิต หรือจะเป็นเจี่ยฟางแต่ถึงกระนั้นนางจะทำเช่นนั้นทำไมกันอย่างไรนางก็เป็นน้องสาว และสวี่ยางก็ยอมให้นางมาตลอดทุกอย่างแม้แต่ตำแหน่งอนุของเสิ่นเกาหลานนางยังยอมให้น้องสาวที่นางรักแต่งเข้ามา เพียงเพราะเป็นความประสงค์ของเสิ่นเกาหลานที่เอ่ยปากบอกแก่นาง นางจะไม่ยอมรับความผิดในครั้งนี้ที่นางไม่ได้ก่อ
หนึ่งปีย้อนหลัง
"นำนางไปโบยจับถ่วงน้ำจนกว่านางจะยอมรับความจริง" น้ำเสียงแผดดังออกมาจากปากงามยืนสั่งการด้วยความโมโห
"คุณหนูใหญ่ ขะ...ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำได้โปรดเมตตาข้าด้วยข้าถูกใส่ร้าย" สาวใช้คุกเข่าลงกอดขาของผู้เป็นนายสะอื้นไห้ออกมาอย่างหวาดกลัว
"เจ้ากลัวตายเช่นนั้นหรือ? แล้วตอนที่เจ้านำยาพิษมาให้ข้าดื่มเจ้าไม่เห็นมีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้แม้แต่น้อย"สายตาคมราวมีดเชือดเป็นพันเป็นหมื่นชิ้นทำให้สาวใช้เริ่มรู้ชะตากรรมของตนปล่อยมือออกจากขาของนางก้มหน้าต่ำลง
ทันใดนั้นเองสตรีอีกนางเดินกึ่งวิ่งเข้ามาห้ามปราม ใบหน้าของนางกระจ่างหมดจดริมฝีปากบางแต้มด้วยชาติสีแดงขับผิวผุดผาด ร่างกายบอบบางผ่ายผอมดั่งกิ่งหลิว
"พี่หยางเกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าคะเสียงดังไปทั่วทั้งเรือน" น้ำเสียงนุ่มนวลเปิดปากถามผู้เป็นพี่
"สาวใช้ข้างกายของข้าผู้ที่ข้าเชื่อใจกลับกลายเป็นผู้ทรยศข้า หากสาวใช้อีกนางไม่เดินชนนางที่ยกน้ำแกงมาให้ข้า ปานนี้ข้าคงกินน้ำแกงและยาพิษไปแล้ว ข้าเค้นถามนางไม่ยอมรับ ข้าจึงจะลงโทษจนกว่านางจะยอมบอกว่าเป็นฝีมือผู้ใดกัน หรือว่าจะเป็นสาวใช้ในเรือนรวมตัวกันเพื่อต้องการให้ข้าดื่มเพราะข้าเป็นคุณหนูที่พวกนางมิชอบสินะ"
"อาจจะไม่ใช่อย่างที่ท่านพี่คิดก็ได้นะเจ้าคะ ใจเย็นก่อนเถิดเจ้าค่ะสาวใช้ในเรือนจะกล้าทำเช่นนี้กับท่านพี่อย่างไรเจ้าคะไม่มีเหตุที่ต้องทำถึงเพียงนี้เลย"
"เจี่ยฟางเจ้ามันอ่อนหัดหัวอ่อนไม่ทันคนอย่างไรข้าจะลงโทษนางให้นางเอ่ยความจริงออกมา" สวี่หยางจะยอมปล่อยคนที่คิดจะฆ่านางได้อย่างไรหากสาวใช้อีกนางไม่เดินมาชนมีหวังนางคงไม่ได้มีชีวิตยืนสืบหาความจริงครั้งนี้เป็นแน่