ตอนที่ 2
ชั่วโมงต่อมา
เราสองคนก็ได้เจอกัน ฉันลงมายืนรอรับเพื่อนรักที่ลานจอดรถใต้คอนโด เมื่อแอนนาโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว
พอแอนนามาถึง เราสองคนโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความคิดถึงในทันทีที่เจอหน้า เกือบครึ่งปีแล้วสินะ... ที่เราไม่ได้เจอกัน
แอนนากอดฉัน หล่อนแอบร้องไห้ออกมาอีก แม้ไม่มีเสียงสะอื้น แต่ฉันก็รู้ได้ด้วยหยาดน้ำตาอุ่นของเพื่อนรักที่หยดแหมะลงมากระทบต้นแขนของฉัน
“ไม่เอา... เลิกร้องไห้ได้แล้วยัยแอนนาขี้แย เดี๋ยวคืนนี้เราฉลองกัน”
ฉันบอกแผนการที่คิดเอาไว้คร่าวๆ แอนนายกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง
เราพากันเดินเข้ามาขึ้นลิฟท์ ไม่ลืมแวะซื้อเบียร์ลีโอสองขวดที่ร้านสะดวกซื้อใต้คอนโดติดมือขึ้นมาบนห้อง
คืนนี้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะดื่มกันให้เมา ส่งท้ายปีเก่ากับเรื่องราวชีวิตคู่แสนเจ็บปวด ภายหลังจากแต่งงานทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง ทั้งฉันและแอนนา
“แล้วแกกับพี่วิทย์ล่ะ... มีโอกาสรีเทิร์นไหม”
แอนนาถามถึงเรื่องราวระหว่างฉันกับพี่วิทย์ผู้เป็นอดีตสามี ที่ต้องเรียกว่า ‘อดีตสามี’ ก็เพราะว่าเมื่อวานนี้ฉันกับพี่วิทย์เพิ่งพากันไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ
“ไม่... เมื่อวานเราหย่ากันแล้ว”
ฉันเผยเรื่องราวชีวิตคู่ของตัวเองที่ทำให้แอนนาตกใจ
“อะไรนะ... ”
แอนนาอุทาน นึกแล้วว่าหล่อนต้องตกใจ
“มันถึงที่สุดแล้วว่ะ ฉันเต็มอิ่ม เต็มที่แล้วกับผู้ชายเจ้าชู้ไม่รู้จักพออย่างพี่วิทย์”
ฉันตอบพลางรินเบียร์ลงแก้วสองใบ
“ไม่น่าเชื่อว่าพี่วิทย์ที่ดูซื่อๆ เงียบๆ ลับหลังจะร้ายกาจปานนี้”
แอนนาถอนใจ คงรู้สึกสงสาร หลังจากฉันเล่าให้ฟังว่าจับได้คาหนังคาเขาว่าพี่วิทย์มีชู้
“พี่วิทย์ชอบอ้างว่าติดงาน ต้องทำโอที กระทั่งวันหนึ่งฉันรู้สึกสังหรณ์ใจ เลยตัดสินใจจ้างนักสืบสะกดรอยตาม”
ฉันบอกเรื่องที่แอนนาไม่เคยรู้
“โห... ขนาดนั้นเชียวหรือ”
แอนนาตกใจ
“ใช่... ที่ผ่านๆ มาพี่วิทย์ไม่ยอมรับ กระทั่งนักสืบที่ว่าจ้างถ่ายภาพหลักฐานมาให้ฉัน วันที่พี่วิทย์พานังผู้หญิงคนนั้นเข้าโรงแรมม่านรูด”
ทั้งที่บอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่พอเล่ามาถึงตอนนี้ ก้อนความเศร้าก็เคลื่อนขึ้นมาจุกแน่นอยู่ในลำคอ คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร... ใจก็เจ็บแปลบทุกที
“เท่าที่ฉันเห็น พี่วิทย์รักแกมากนะ... ทำไมยอมหย่าง่ายจัง”
แอนนาสงสัย
“คนเราถ้ารักกันจริงคงไม่นอกใจกันหรอก ตอนแรกพี่วิทย์ไม่ยอมหย่า... ฉันเลยบอกว่าให้ ‘การหย่า’ ครั้งนี้เป็นเครื่องทดสอบหัวใจเรา ว่ายังรักและต้องการกันหรืออยู่มั้ย”
“แบบนี้แสดงว่ายังมีโอกาสรีเทิร์น”
แอนนากล่าว ดูก็รู้ว่าหล่อนไม่อยากให้ฉันกับพี่วิทย์เลิกกัน
“คิดว่าคงไม่แล้วหละ”
ฉันส่ายหน้า รู้ว่าคนอย่างฉันถ้าเดินออกมาแล้ว จะไม่มีวันย้อนคืนกลับไปในเส้นทางเดิมอย่างแน่นอน
“ช่างบังเอิญที่เราสองคนต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆ ส่งท้ายปี หวังว่าหลังปีใหม่อะไรๆ จะดีขึ้น”
แอนนากล่าวให้กำลังใจกันเอง
“งั้นต้องดื่ม... ”
ฉันกล่าวพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นชนแก้ว เสียงปากแก้วกระทบกันเบาๆ
“ดื่ม... สวัสดีปีใหม่ อธิษฐานนะ ว่าหลังจากนี้ขอให้เราสองคนได้ผัวใหม่ทั้งใหญ่ทั้งยาว”
ฉันกล่าวออกมาด้วยอารมณ์ทะลึ่งลามก หารู้ไม่ว่าคำอธิษฐานนี้กำลัจะกลายเป็นจริงในค่ำคืนนี้
“ว้าย... อุบาทว์อ่ะ คิดได้นะแก”
แอนนายิ้มขำ เรากรอกน้ำสีอำพันลงคอเกือบจะพร้อมกัน รสชาติขมปร่าของแอลกอฮอล์ทำให้ฉันนึกถึงมิตรภาพและคืนวันเก่าๆ สมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยกับแอนนา
“งั้นคืนนี้เราไปเคาท์ดาวกันมั้ย... ไปทิ้งทวนบอกลาชีวิตคู่ที่สุดแสนจะระยำอัปรีย์”
ฉันกล่าวอย่างคนปากจัด
“เคาท์ดาว... ที่ไหน”
หัวคิ้วของแอนนาชิดเข้าหากัน คงสงสัยว่าฉันจะชวนไปไหน “พัทยา... คืนนี้ฉันอยากไปเคาท์ดาวที่พัทยา เราหาที่พักแถวๆ ชายหาดจอมเทียน ตอนเช้ามาจะไปได้ลงเล่นน้ำทะเลใกล้ๆ ดีมั้ย”
ฉันบอกแผนการที่ผุดวาบขึ้นมากะทันหัน
“เอ่อ... จะดีหรอ”
แอนนาลังเล หลังจากมองหน้าแล้วรู้ว่าฉันเอาจริง
“ดีสิ... ไปนะ”
ฉันรีบสรุป
“แต่ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้า... ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยสักอย่าง”
แอนนาเป็นกังวลเมื่อนึกถึงการเดินทางกะทันหัน
“ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้น ชิวๆ ทุกอย่างเราไปหา