สตรีที่ฟื้นจากความตาย : 2
"ทะ ท่านพี่ ท่านมาได้เยี่ยงไร"
เจินซู่ปากซีดตัวสั่นเทาทว่าเก็บอาการได้ในเวลาต่อมา นางรีบปรี่เข้าไปควงแขนล่ำสันภายใต้ชุดนักรบทว่าไร้เกราะอีกทอดอย่างแนบแน่น
"เซียนเอ๋อร์ นั่นเซียนเอ๋อร์เป็นอะไร"
ฟ่างเสวียนสวี่ แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวงถังเหลียนตวาดถาม พลางรีบเดินไปยังเตียงที่มีร่างของบุตรสาวนอนแน่นิ่งอยู่
"คือว่า... นายท่าน คุณหนูสาม..."
อาถังหลบให้เสวียนสวี่เข้าไปดูอาการบุตรสาวพลางรายงานเสียงตะกุกตะกักพร้อมเสียงสะอื้นไห้
"มีใครตามหมอหรือยัง!"
ฟ่านเสวียนสวี่ตะเบ็งเสียงถามอีกครั้ง สองมือกุมมือแน่งน้อยของบุตรสาวเอาไว้อย่างเป็นห่วง
เหตุใดครั้งนี้ตัวนางถึงได้เย็นยะเยือกเช่นนี้ มิเห็นจะเหมือนทุกครั้งที่นางมีสภาพเช่นนี้แต่ร่างกายยังอบอุ่นอยู่ หัวใจผู้เป็นบิดาเกิดสั่นกลัวขึ้นมาทันที
"ครั้งนี้เซียนเอ๋อร์ของเรานางคง..."
เจินซู่เอ่ยเสียงอึกอักพร้อมมีก้อนสะอื้นออกมาเล็กน้อย ช่างต่างจากบทบาทก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงที่ทั้งเย็นชาและไร้น้ำตาเช่นตอนนี้
"เจ้าจะพูดอะไร เซียนเอ๋อร์ต้องกลับมา นางเคยกลับมาแล้วตั้งหลายครั้ง"
แม้ลึก ๆ เสวียนสวี่จะสิ้นหวังไปแล้ว ทว่าอีกใจกลับยังอยากลองมีความหวัง เพราะอาการเช่นนี้ฟ่างเซียนเซียนใช่ว่าจะเพิ่งเคยเป็น ร่างกายนางอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด โรคประหลาดอย่างหัวใจอ่อนแรงจึงติดตัวนางมา ฟ่างเซียนเซียนเคยเหมือนคนตายแล้วฟื้นกลับมาหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เด็กจนโต
"ท่านพ่อหักห้ามใจเถิดเจ้าค่ะ"
เจินเม่ยรีบเข้าไปสวมกอดบิดาเพื่อปลอบให้เขาตัดใจจากน้องสาวผู้นี้เสีย ยังเหลือนางที่เป็นบุตรสาวอยู่อีกคนไม่รู้จะโศกเศร้าไปไย
"ท่านหมอยังไม่มาอีกรึ!"
เสวียนสวี่มิได้สนใจอ้อมกอดที่ปลอบเขาสักนิด ทำเอาเจินเม่ยกัดฟันข่มอารมณ์โมโหไว้จนสุดจะกลั้น เจินซู่ดูอาการบุตรสาวออกจึงรีบเข้ามาดึงนางให้มายืนรอด้านข้างเงียบ ๆ
"ข้ามาแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้ามาแล้ว"
เสียงหมอที่บ่าวรับใช้ไปตามเร่งฝีเท้าเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบ
"เร็วเข้า รีบดูอาการเซียนเอ๋อร์เร็ว"
เพียงแค่ท่านหมอเห็นสภาพคุณหนูสามที่นอนแน่นิ่งตรงหน้าดวงตาก็เบิกกว้างพลางลอบถอนหายใจอย่างผู้รู้ ทว่าหากไม่ทำการจับชีพจรรักษาฟ่างเซียนเซียนตอนนี้คงถูกแม่ทัพใหญ่ฟ่างลงดาบบั่นคอแน่แท้ มือเหี่ยวย่นตามวัยจึงค่อย ๆ จับชีพจรที่ไร้การเต้นนั้นตามขั้นตอนทางการแพทย์ก่อนรายงานเสียงแผ่วเบา
"คุณหนูสามฟ่างนางสิ้นวาสนาแล้ว"
คำประกาศของท่านหมอเป็นที่สิ้นสุดการรักษา ฟ่างเสวียนสวี่ล้มตึงลงกับที่นอนพลางยกมือปิดหน้าเพื่อปกปิดคราบน้ำตา
"ท่านแม่ทัพใหญ่โปรดหักห้ามใจด้วย"
เสียงร้องไห้ของบ่าวรับใช้ชายหญิงดังขึ้นทั้งด้านนอกด้านในเรือนหลานฮวา มีเพียงสองแม่ลูกที่แอบลอบยิ้มอยู่ในมุมอับที่ไร้คนสนใจ
"คุณหนู ท่านแกล้งอาถังเล่นใช่หรือไม่เจ้าคะ คุณหนูเซียนเซียนของบ่าวรีบตื่นมาได้แล้วเจ้าค่ะ"
อาถังทำใจกับการประกาศของท่านหมอไม่ได้ นางร้อมห่มร้องไห้พลางเขย่าแขนบอบบางฟ่างเซียนเซียนหวังให้นางตื่น
"เจ้าพาอาถังออกไปก่อน"
พ่อบ้านใหญ่กุ้นสั่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งให้พาอาถังออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก
"พ่อบ้านกุ้นช่วยข้าจัดแจงเรื่องงานศพที"
เสียงที่เปล่งออกมาของผู้เป็นบิดาแทบจะแห้งเหือด
วันนี้เขาตั้งใจจะกลับมาเพื่อพาบุตรสาวสุดที่รักออกไปชมดอกไม้ที่งานเทศกาลประจำเดือนของเมืองถังเหลียนตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับฟ่างเซียนเซียนก่อนออกไปรบเมื่อเดือนก่อน ไหนเลยจะรู้ว่าการกลับมายังบ้านเกิดตนเองในวันนี้จะเจอเรื่องร้ายเช่นนี้
ครึ่งปีก่อนภริยาหลวงอย่างเหวินเหม่ยเซียวเพิ่งจากตนไป ผ่านมายังไม่ทันลืมนึกถึง ลูกสาวสุดที่รักก็จากตนไปอีกคนแล้ว เหตุใดสวรรค์ถึงได้คร่าชีวิตที่เกิดจากตนและเหม่ยเซียวไปถึงสองคน