บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 หลี่หยวนชิง

เพราะคนที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย ครอบครัวเธอพากันไปเยี่ยมพี่สาวที่พึ่งคลอดลูกกันหมด ทิ้งให้เธอเฝ้าบ้านคนเดียวพอดีราวสวรรค์เข้าข้าง ถังฟงอวิ๋นเจ็บปวดหัวใจอยู่แล้ว เพราะคิดว่าคราวนี้จางรั่วอิงคงทิ้งเขาไปแล้วจริง ๆ จึงได้ตามไปที่บ้านของมู่เจินจูแล้วดื่มสุราต่างน้ำจนเมามาย แต่เพราะไม่ใช่คนคออ่อนจึงยังพอมีสติอยู่บ้าง

มู่เจินจูผู้วางแผนมาแล้วก็จัดการพยุงชายหนุ่มเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง เพราะฤทธิ์สุราทำให้กึ่งมีสติกึ่งมึนเมากระตุ้นความต้องการของความเป็นชายให้ตื่นขึ้นมา หญิงสาวไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย แต่เธอเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมไว้ก่อนแล้วจึงได้จัดการรวบหัวรวบหางเขาเรียบร้อยในคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์เช่นนี้

วันรุ่งขึ้น

แสงอาทิตย์ส่องผ่านช่องว่างของหน้าต่างในยามเช้า ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือพลางขยี้ตาไปมาเพื่อให้ลืมตาง่ายขึ้น เขามองไปรอบ ๆ ก็รู้สึกว่าห้องที่นอนอยู่ตอนนี้ไม่คุ้นเคยเลยมันไม่ใช่ห้องของเขาแน่ ๆ และแล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับโต๊ะเครื่องแป้งที่มีข้าวของของผู้หญิงวางไว้เต็มไปหมด

ถังฟงอวิ๋นยังมึนงงอยู่จึงไม่ได้ตกใจอะไรมาก เพียงแต่ในใจกำลังคาดเดาว่าเจ้าของห้องนี้เป็นใครกันแน่ และยังแอบคิดเข้าข้างตนเองว่าอาจจะเป็นห้องของจางรั่วอิงคนรักของตนก็เป็นได้ มุมปากพลันเกิดรอยยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อได้ยินเสียงที่ประตู สายตาจึงมองไปที่นั่นอย่างคาดหวัง ทว่าก็เห็นเป็นมู่เจินจูกำลังยกถาดอาหารเข้ามาให้ด้วยใบหน้าเขินอาย

“เมื่อคืนคุณเมามาก นี่ก็สายแล้วทานอาหารก่อนสิคะ” หญิงสาวเจ้าของห้องพูดขึ้นพร้อมยื่นถาดอาหารให้เขา แม้จะแสดงท่าทีเขินอาย แต่ก็อดแสดงความสุขมากมายบนใบหน้าไม่ได้

“เมื่อคืนนี้พวกเรา…?” ถังฟงอวิ๋นเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ แน่นอนว่าเขาจำภาพบางอย่างได้บ้าง แต่เพียงใบหน้าที่เขาคิดไว้กลับไม่ใช่คนในดวงใจเสียแล้ว

“ใช่ค่ะ แล้วคุณจะตัดสินใจอย่างไร อย่าบอกนะคะว่า...” หญิงสาวเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเขาไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนเมื่อตอนที่เธอเปิดประตูเข้ามา ทว่าเธอก็มีคำตอบที่อยากได้อยู่ในใจแล้ว

ถังฟงอวิ๋นถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เมื่อคืนเขาเมาและเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่ใช่ผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ เมื่อมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับผู้หญิงแล้วย่อมไม่สามารถทิ้งขว้างได้ แม้ว่าเธอคนนี้จะไม่ใช่คนที่เขารักก็ตาม อย่างไรแล้วความรับผิดชอบก็ยังต้องดำเนินต่อไป

“ผมจะรับผิดชอบเอง แต่ผมขอเวลาสักสองเดือนนะ ตอนนี้ผมยังทำใจไม่ได้เรื่องของรั่วอิง และยังอยากเก็บเงินเพิ่มอีกหน่อย หวังว่าคุณจะเข้าใจ” ชายหนุ่มเลือกที่จะพูดออกไปตรง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รับผิดชอบ เขาแค่ขอเวลาทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน ทั้งเรื่องของจางรั่วอิงและเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย

“ได้ ฉันให้เวลาคุณแค่สองเดือนนะคะ เพราะว่าไม่รู้ว่าตอนนี้ในท้องของฉันจะมีลูกของคุณแล้วหรือเปล่า” มู่เจินจูมองหน้าเขาด้วยสายตาจริงจัง เมื่อคืนนี้ทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว ที่พูดออกไปก็ไม่ได้เกินจริงเลย

.......

บ้านชั้นเดียวหลังไม่ใหญ่มาก ตัวบ้านเป็นอิฐฉาบด้วยปูนทาสีขาว ทว่าตอนนี้กลับเก่าจนมีคราบเหลืองจากเศษดินที่กระเด็นไปติดตอนฝนตกติดอยู่เป็นทางยาว หลังคามุงกระเบื้องที่ทำการซ่อมอุดรูรั่วมาแล้วหลายครั้ง ทว่าประตูหน้าต่างที่เป็นไม้ยังคงใช้การได้ดีไม่มีรอยผุพัง ข้างในบ้านแบ่งออกเป็นห้องนอนสองห้อง ห้องโถงแล้วก็ห้องครัวอยู่ด้านหลัง

ห้องนอนด้านหน้าเป็นห้องของชายผู้เป็นสามีของเจ้าของร่างเดิมกำลังรักษาตัวอยู่ ส่วนห้องด้านในนั้นเป็นห้องของจางอี้ถิงที่อยู่ในร่างของจางรั่วอิง ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่กับลูกชาย

ลูกชายตื่นแต่เช้าก่อนเธอเสียอีก เขาไม่ได้ปลุกแม่ เพราะว่าอยากจะให้เธอนอนเต็มอิ่มสักหน่อย เมื่อคืนแม่นอนดึกและยังทำตัวแปลก ๆ หลังจากที่เป็นลมไปครู่หนึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีไข้ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองเฉกเช่นที่เคยทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ก่อไฟตั้งน้ำร้อน ทำอาหารง่าย ๆ อย่างต้มโจ๊ก เสร็จแล้วก็ไปดูแลผู้เป็นพ่อที่นอนพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่อีกห้องหนึ่ง

จางอี้ถิงยืนตะลึงเล็กน้อย เพราะจากที่อ่านนิยายและยังได้ดูซีรีส์เรื่องนั้นมา เด็กคนนี้เป็นเด็กที่ฉลาดมาก เขาชื่อว่า ‘หลี่หยวนชิง’ อายุประมาณสี่ห้าขวบก็เริ่มทำทุกอย่างได้ด้วยตนเองแล้ว ด้วยเพราะผู้เป็นแม่ไม่ค่อยสนใจ

เธอสนใจคนรักของตัวเองมากกว่าซึ่งก็ไม่ใช่คนที่เป็นสามี แต่กลับเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่คู่รักวัยเด็กของเธอคือถังฟงอวิ๋นนั่นเอง

เมื่อสามีอยู่ที่ค่ายทหาร จางรั่วอิงก็มักจะไปพบเขาบ่อย ๆ โดยทิ้งลูกชายไว้ตามลำพังที่บ้าน ตอนนี้เด็กชายตัวน้อยอายุห้าขวบ หากจะเทียบกับเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาดูโตกว่าเด็กคนอื่น ๆ มากในแง่ของความคิด แต่ร่างกายกลับเล็กจ้อยเพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารอิ่มท้อง

ด้วยความฉลาดทางความคิด เขาดูเหมือนจะรู้ว่าแม่นอกใจพ่อ และคอยติดตามดูพฤติกรรมของแม่กับถังฟงอวิ๋นคนรักของเธอเสมอ แต่ก็เลือกที่จะเคารพแม่เหมือนเดิมและเฝ้ารอพ่อกลับมาดูแลและเอาใจใส่ให้แม่กลับมาเป็นครอบครัวอบอุ่นเหมือนครอบครัวอื่น ๆ เขารู้ว่าพ่อมีใจให้แม่ไม่น้อย

แต่สวรรค์ก็ไม่เป็นใจ เมื่อบิดาบาดเจ็บกลับมาทุกอย่างยิ่งชัดเจนกว่าเดิมว่าแม่ไม่ได้รักพ่อเลย เธอปล่อยให้พ่อนอนติดเตียง ไม่หุงหาอาหารให้ ไม่สนใจไยดี เด็กชายตัวน้อยจึงเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลพ่อเงียบ ๆ ยกเว้นก็แต่การขึ้นไปบนเขา นอกจากนั้นเขาสามารถทำทุกอย่างในบ้านได้เหมือนกับผู้ใหญ่คนหนึ่งเลย

เด็กน้อยวิ่งวุ่นหอบนู่นถือนี่ไปมาในห้องครัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาเอาน้ำที่ต้มแล้วจากการินใส่ลงไปในกระติกน้ำสำหรับเก็บความร้อน จากนั้นจึงเดินไปดูโจ๊กผักป่าที่ลงมือต้มด้วยตัวเอง โดยใส่เพียงข้าวกับน้ำลงไปต้มในหม้อ พอเดือดก็ใส่ผักลงไปเติมเกลือเล็กน้อย เมื่อคิดว่าทุกอย่างสุกได้ที่แล้วก็ตักใส่ถ้วยใบหนึ่งแล้วเดินไปทางห้องที่พ่อของเขานอนรักษาตัวอยู่

ตอนแรกจางอี้ถิงที่สวมร่างของจางรั่วอิงจะเดินเข้าไปช่วยตั้งแต่ตอนที่เห็นเขายกกาน้ำร้อนจากเตารินใส่กระติก เพราะกลัวว่าเขาจะถูกน้ำร้อนลวกเอาได้ แต่เมื่อเห็นเด็กน้อยทำได้อย่างคล่องแคล่วและระมัดระวังก็เลยไม่เข้าไปแทรกแซง เดี๋ยวจะทำให้เขาตกใจและเผลอทำน้ำร้อนหกลวกตัวเองเข้า

“แม่ครับ โจ๊กผักป่าต้มอยู่ในหม้อตักกินได้เลยนะครับ” เด็กน้อยบอกตอนที่โผล่หน้าออกมาจากประตู เขารู้ว่าแม่ตื่นตามเขาออกมาเงียบ ๆ แม้จะสงสัยว่าปกติแม่ตื่นสายแล้วทำไมวันนี้แม่ถึงตื่นแต่เช้า แต่เขาก็ไม่ได้ถาม เพราะกลัวแม่จะรำคาญ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel