บทที่ 9
"ไม่เจอเลยครับท่าน" สำราญสั่งให้ลูกน้องควานหาไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ยังไร้ร่องรอย "ผมว่าไม่ใช่คนลักพาตัวไปหรอกครับ เธอคงหนีไปมากกว่า" เพราะลูกน้องทุกคนก็ดูออกว่าเด็กสาวคนนี้ ไม่เต็มใจที่จะเป็นของเจ้านายตั้งแต่ทีแรกแล้ว
"กูก็ว่าเหมือนมึง กูมันน่ารังเกียจตรงไหนวะ"
"ไม่เลยครับ ท่านไม่ได้น่ารังเกียจเลย" ลูกน้องต้องรีบชมเข้าไว้ก่อนที่หัวจะขาด
"แล้วเราจะเอายังไงดีครับท่าน" มือขวาคนสนิทเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
"กูคิดดูก่อนว่าจะจัดการกับพวกมันยังไงดี" สำราญเสียความรู้สึกมาก เพราะทุ่มเทให้กับเด็กคนนี้มากมาย
เช้าวันต่อมา.. ณ.ที่ห่างไกลความเจริญ
มันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่? ..มิลานหวังไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งหมดมันจะเป็นแค่ฝัน แต่พอลืมตาขึ้นมาเธอก็รู้ได้เลยว่ามันคือความจริง
ดวงตากลมโตมองออกไปนอกกระจกรถ เธอไม่กล้าใช้เสียงเพราะกลัวว่าคนที่ขับรถและคนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับจะรู้ว่าเธอได้สติแล้ว
มันกำลังจะพาเราไปที่ไหน? แล้วพวกมันเป็นใคร? หญิงสาวสัมผัสได้ว่ารถค่อยๆ ชะลอความเร็วลงทีละน้อย
ติ๊ก! พอรถหยุดเท่านั้นแหละคนตัวเล็กที่พวกเขาคิดว่ายังไม่รู้สึกตัวก็เปิดประตูด้านหลังแล้ววิ่ง
"ตามสิโว้ย!!" ทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็รีบลงรถแล้ววิ่งตาม
"กรี๊ดดด! ปล่อย!!" มิลานวิ่งออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกตะครุบตัวไว้ เพราะชุดที่สวมใส่และรองเท้ามันไม่เอื้ออำนวยกับการวิ่งในป่าแบบนี้เลย
"พวกแกจะพาฉันไปไหน ถ้าอยากได้เงินก็บอกมาสิ ไม่ต้องพามาไกลขนาดนี้ก็ได้!" หญิงสาวพยายามพูดเกลี้ยกล่อม เพราะถ้าพวกมันอยากได้เงินเธอก็จะให้ ตอนนี้อะไรไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของเธออีกแล้ว
"พูดบ่อยจังเลยนะเรื่องเงินเนี่ย สมองของเธอคงจะมีแค่เรื่องเดียวนี่ล่ะสิ"
"ไอ้เลว!! ปล่อยกูนะ!!" มิลานเริ่มใช้คำพูดที่รุนแรงขึ้น เพราะพูดดีกับพวกมันคงไม่ได้ผลอีกแล้ว
"แค่นี้เธอเรียกว่าเลวแล้วเหรอ"
"ลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับขู่เข็ญ ยังไม่เลวอีกเหรอ!??"
"ยัง..ถ้าเลวมันต้องแบบนี้" ทันใดนั้นชายหนุ่มก็จับเธอพิงเข้ากับต้นไม้ใหญ่
"โอ๊ยเจ็บนะ!!"
"พะ..พี่ครับ..แบบนี้ก็ได้เหรอครับ"
"มึงอย่าพูดมาก! ไปดูต้นทาง! กูจะจัดอีนี่สักดอกก่อน" ว่าแล้วสายตาคมก็กรอกมองกลับมาที่ผู้หญิง คนที่เขากำลังจับกดไว้กับต้นไม้