บทที่4
'เสียงเพลง'ดาวเด่นของโรงเรียนเดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนมุ่งเข้ามาหาชายหนุ่มยังโต๊ะอาหารด้วยสีหน้ายินดีที่ได้เจอกับคนที่เธอแอบชอบและคนทั้งโรงเรียนก็เชียร์ให้เขาและเธอคบหากัน
"จะมาทานข้าวทำไมไม่บอกเราล่ะ"เสียงเพลงถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายของชายหนุ่มเด็กสาวพูดกับคนข้างกายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่มักจะใช้อยู่เป็นประจำ
"ก็เธอยังสอบไม่เสร็จ"
"แต่นายก็น่าจะบอกฉันก่อนสักนิดเราสองคนจะได้มาด้วยกัน"ความสนิทสนิทสนมของทั้งสองทำให้คนนั่งฟังอย่างมิลานรู้สึกลำบากใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตลอดหลายปีไปทำความสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตรงหน้าของเธอ
"เอ่อ"
"ทำไมนายมากับมิลานได้ล่ะราเชนทร์"เสียงเพลงถามตรงดวงตากลมโตมองหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ
"คือเรากับเพื่อนจะมาห้างนี้อยู่พอดีก็เลยขอติดรถของราเชนทร์มาด้วยน่ะ"มิลานไม่กล้าบอกว่าชายหนุ่มลากเธอขึ้นรถมาเพราะกลัวว่าทั้งสองจะมีปัญหากัน
"อ๋อ ฉันเข้าใจล่ะว่าแต่ไหนยายสองคนนั้นล่ะเพื่อนของเธอหายไปไหนทำไมถึงปล่อยให้เธอกับเชนทร์มานั่งด้วยกันสองคน"
"กุ๊กไก่กับมีนาติดรถของกราฟฟิกกับเควินมาน่ะ ตอนนี้ยังมาไม่ถึง"
"แล้วทำไมเธอ..."
"เธอจะอยากรู้เรื่องของคนอื่นทำไมนักฮะเสียงเพลง"ชายหนุ่มเอียงหน้ามองหญิงสาวข้างกายเมื่อเธอเอ่ยถามเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเรื่อง
"แล้วทำไมฉันจะถามไม่ได้ล่ะ ก็ฉันอยากรู้นี่"
"เงียบปากสักหน่อยก็ดีนะ แล้วนี่มาทำไมมีธุระอะไร"
"ก็ฉันไปหานายที่ห้องแล้วไม่เจอ มีคนบอกว่านายขับรถพาผู้หญิงมาเดินที่ห้างฉันก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"เสียงเพลงตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานแววตาของลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังเหลือบมองไปยังร่างของมิลานซึ่งเอาแต่นั่งเงียบอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจแต่เธอกลับไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ในตอนนี้
"แล้วทำไมเธอต้องอยากรู้ว่าฉันจะไปไหนมาไหนกับใครด้วย"
"ก็..."เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่นเพราะเธอไม่รู้จะพูดต่อยังไงดี ก่อนเธอจะเห็นไปมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคนพลางส่งสายตาสื่อความหมายบางอย่างไปให้ซึ่งเพื่อนทั้งสองก็เข้าใจดี
"เสียงเพลงถ้าเธอเจอราเชนทร์แล้วฉันสองคนขอตัวกลับก่อนนะพอดีมีธุระด่วน"เพื่อนทั้งสองรีบบอกลาก่อนทั้งคู่จะเดินออกไปจากร้านอาหาร
บรรยากาศภายในโต๊ะตกอยู่ในความเงียบ มิลานไม่กล้าที่จะแตะอาหารตรงหน้าเธออยู่รู้สึกอยากจะหายไปจากตรงนี้ให้ไว ๆ
"ทำไมไม่กิน"
"คะ...คือเราไม่ค่อยหิวน่ะนายกินเถอะ"จะให้เธอกล้าตักอาหารเข้าปากได้ยังไงเมื่อเจอสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ของเสียงเพลงมองมาอยู่ตลอดเวลา อย่าว่าแต่จะตักอาหารตรงหน้าหายใจแรง ๆ เธอก็ยังไม่กล้า
"นี่ราเชนทร์ นายรู้หรือยังว่าคุณลุงกับคุณป้าจะให้เราเรียนคณะบริหารที่มหาลัยเดียวกัน"
"ฉันไม่ได้อยากเรียนบริหาร"ราเชนทร์ตอบชัดเมื่อเขาไม่ต้องการเรียนคณะบริหารตามที่บิดาต้องการ
"ได้ไงล่ะ นายไม่รู้เหรอว่าหลังจากเรียนจบพ่อของนายกับพ่อของฉันจะเปิดบริษัทใหม่ให้เราสองคนเข้าไปบริหาร"
"..."
"ท่านสองคนต้องการให้เราแต่ง..."
เคร้ง
"เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้วเสียงเพลง จะไปไหนก็ไป"
"นี่นายกล้าไล่ฉันอย่างนั้นเหรอราเชนทร์ นายกล้าไล่ฉันอย่างนั้นเหรอ"บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มไม่สู้ดีเมื่อเสียงเพลงเริ่มพูดขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มจนมีแขกภายในร้านหันมามองโต๊ะของทั้งสามด้วยความสนใจ
"เอ่อ ฉันว่าฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่านะ พวกนั้นสองคนคงไม่มาแล้วล่ะ"มิลานคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายเพราะสถานการณ์เริ่มไม่ดีและตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานแล้วด้วย แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวขาเดินออกจากโต๊ะก็มีเสียงเรียกของราเชนทร์ดังขึ้น
"เดี๋ยวก่อน"เด็กนักเรียนหนุ่มในชุดนักเรียนเรียกชื่อของเธอก่อนเขาจะลุกขึ้นล้วงเงินค่าอาหารออกมาวางไว้บนโต๊ะท่ามกลางสายตาของเสียงเพลงที่เฝ้ามองทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"มะ...ไม่เป็นไรเรากลับเองได้"
"ใช่ ถ้านายไปส่งมิลานแล้วฉันจะกลับยังไง"
"ก็เรื่องของเธอสิ มาเองได้ไม่ใช่เหรอ"ชายหนุ่มคว้าท่อนแขนของมิลานให้เดินตามตนเองออกมา ทิ้งให้เสียงเพลงยืนอยู่ในร้านอาหารมองตามแผ่นหลังของร่างเล็กอย่างมิลานด้วยความไม่ชอบใจ
"อันที่จริงเรากลับเองก็ได้นะ"มิลานเปิดปากบอกชายหนุ่มในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินมายังลานจอดรถ
"แล้วเธอจะกลับยังไง รถเมล์เหรอ"
"อืม เราขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนเป็นประจำไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก นายช่วยปล่อยแขนฉันก่อนจะได้ไหม"แม้เธออยากจะหยุดเวลานี้เอาไว้แต่ก็ไม่อยากให้ความใกล้ชิดระหว่างเธอกับราเชนทร์ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ในวันข้างหน้า
สายตาของเสียงเพลงยามเมื่อมองเธอมันไม่มีความพึงพอใจอยู่ในนั้นเลยสักนิด แล้วอีกอย่างความใกล้ชิดจนเกินไปทำให้เธอกำลังกลัวหัวใจตัวเอง
"เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเองไม่ต้องวุ่นวายขึ้นรถเมล์ให้ลำบาก"
"แต่"
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
โทรศัพท์เครื่องหรูของชายหนุ่มมีสายเรียกเข้าทำให้เขาถอนหายใจแต่ก็ไม่สามารถมองข้ามสายที่โทรเข้ามาได้เมื่อเห็นว่าเป็นใครโทรเข้ามา
'มารดา'
"ครับแม่"
"เชนทร์ วันนี้สอบเสร็จแล้วใช่ไหมลูก"
"ครับ"แม้ปากของเขาจะพูดกับปลายสายแต่สายตายังคงมองร่างเล็กของมิลานซึ่งเธอเอาแต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตา
"วันนี้ลูกมีธุระต่อที่ไหนหรือเปล่า"
"เอ่อคือ"
"คุณพ่อใช้ให้แม่โทรชวนลูกให้มาทานข้าวที่บ้าน"ชายหนุ่มชะงักเมื่อได้ยินน้ำเสียงของมารดาเอ่ยเช่นนั้น
"อย่าให้คุณพ่อต้องรอนานนะลูก"
"ครับ"
"ไว้เจอกันจ้ะ"ปลายสายของมารดาถูกตัดไป คำบอกเล่าคล้ายกับบังคับทำให้เขารู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อย
"นายไปทำธุระเถอะ เดี๋ยวฉันกลับเองก็ได้"
"แต่ฉัน..."
"ฉันกลับเองได้จริง ๆ ราเชนทร์ นายไปเถอะ"เธอยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้บ้านของเธอจะห่างไกลจากห้างสรรพสินค้าแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีรถเมล์วิ่งผ่าน
"ถ้าอย่างนั้นถ้าถึงบ้านแล้วก็โทรบอกฉันด้วยนะ"
"อะ...อื้อ"เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตายากจะคาดเดาก่อนชายหนุ่มจะตัดสินใจเดินไปยังลานจอดรถซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากตรงจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดที่เธอสามารถมองเห็นได้ว่าราเชนทร์ได้ขับรถคันหรูของเขาออกไป
"คนอย่างเธอไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวจังเลยนะ"
"เสียงเพลง"เสียงหวานที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้มิลานหมุนตัวกลับไปมอง
"ไง นังลูกแม่ค้าขายขนมกระจอก ๆ "ลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังใช้สายตาเหยียดหยามมองหน้าเด็กสาวอย่างมิลาน
มุมปากสวยสีชมพูถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกราคาแพงแสะยิ้มเย้ยหยัน
"หึ เก็บเอาความรู้สึกโง่ ๆ ของแกไว้ไปใช้กับคนอื่นเถอะอย่ามายุ่งกับผู้ชายของฉัน"
"..."
"ราเชนทร์เขาเป็นของฉันแกได้ยินไหมนังมิลาน เลิกวุ่นวายกับผู้ชายของฉันได้แล้ว อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่าแกรู้สึกยังไงกับราเชนทร์"ผู้หญิงด้วยกันย่อมดูออกเหมือนกับที่มิลานมองก็รู้ว่าเสียงเพลงรู้สึกยังไงกับชายหนุ่ม
"ฉันก็แค่รู้สึก"
"แค่รู้สึกก็ไม่ได้"
"..."
"คนจน ๆ อย่างแกหัดเตรียมตัวเตรียมกะลาหัวของตัวเองเอาไว้บ้างก็ดีนะ จนแล้วไม่เจียม"
"..."
"เป็นแค่ลูกแม่ค้ากระจอก ๆ อย่าคิดที่จะมาเทียบชั้นกับคนมีชาติตระกูลอย่างพวกฉัน คนอย่างแกไม่มีหวังที่จะได้ครอบครองราเชนทร์หรอก จำไว้"น้ำตาของมิลานแทบจะไหลออกมา เธอรู้สึกโกรธและโทษตัวเองที่ไม่มีความกล้าที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป
"แล้วอีกอย่างฉันจะบอกอะไรให้คนโง่ ๆ อย่างแกรู้เอาไว้ด้วยนะ"
"อะไร"
"หลังจากสอบเสร็จทางครอบครัวของเราสองคนจะจัดงานหมั้นระหว่างฉันกับราเชนทร์ แล้วหลังจากที่เราสองคนเรียนจบมหาวิทยาลัย ให้ทายสิว่ามันอะไรจะเกิดขึ้น"
"..."
"เธอคงไม่โง่ขนาดที่ไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองควรจะไปยืนอยู่ตรงจุดไหน"