ตอนที่7 นางฟ้าของผม
“เราชื่ออะไรครับ”
“น้ำหวานค่ะเฮียกล้า”
“พี่กำลังหิวน้ำพอดี อยากกินน้ำหวานตอนนี้สะด้วยสิ”
“กินไหมล่ะคะ” เธอส่งนัยน์ตาหวานเยิ้ม ทำหน้าเนียมอาย ผมเดินไปกอดคอด้วยความสนิทสนมตามสัญชาตญาณเสือผู้หญิง เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ กำลังจะพากันหมุนตัว แต่ไอ้แฟรงก์ก็สาวเท้าเดินมาเคียงพวกเราพอดี
“พี่ก็หิวน้ำนะครับ จะขอกินด้วยได้ไหม” เสียงกระล่อนถาม
“ได้นะคะ หนูมีน้ำไว้เสิร์ฟพวกพี่เพียบ”
ก็เป็นอย่างที่เธอว่า สามคนเดินเข้ามาที่ในโซนรับรองแขก เป็นพื้นที่สำหรับบริการบริษัทต่าง ๆ ไว้โดยเฉพาะ มีทั้งเสิร์ฟอาหาร น้ำและของว่างให้พักเหนื่อย ตอนนี้เพิ่งจะแข่งขันกันเสร็จไม่มีคนมาใช้บริการสักเท่าไหร่ สาวสวยชุดเซ็กซี่เดินนำเข้าไปในห้องน้ำหญิง ผมกับไอ้แฟรงก์หันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย คนหนึ่งระบายยิ้ม ส่วนอีกคนพยักพเยิดเป็นอันรู้กัน ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงตามสาวขี้อ่อยเข้าไป
ในห้องน้ำไม่มีใครเลย บรรยากาศเงียบเชียบเหมาะแก่การเล่นอะไรสนุก ๆ ร่างบางชำเลืองมองมา ก่อนจะเดินทอดน่องเข้าไปในห้องส้วมด้านในสุด ผมเป็นคนต่อไปที่เดินตาม ทว่า! กลับต้องหยุดชะงักอยู่ที่กรอบประตู เพราะสาวร่างบางถอดเสื้อออกเผยอกอิ่มซิลิโคน700CC ให้เห็นเต็มตา เธอโยกส้นเท้าเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อกลมกลึงกระเพื่อมตามจังหวะ การเด้งขึ้นเด้งลงทำให้ผมมองตาค้าง เป็นภาพยั่วตายั่วใจให้เป้ากางเกงปวดหนึบ ไอ้แฟรงก์เห็นท่าทางผมยืนอึ้งก็รีบก้าวมายืนเคียง มันเห็นเช่นเดียวกับผม และอดใจไม่อยู่ ก้าวนำเข้าไปในห้องน้ำก่อนผมเสียอีก แล้วเรื่องอะไรจะให้มันเริ่มก่อน ในเมื่อพวกเราทำพร้อม ๆ กันได้
ตับ! ตับ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครางและเสียงลมหายใจแรงของชายหนุ่มทั้งสอง รูสวาทด้านหน้าถูกไอ้เจ้าท่อนเอ็นหกสองสวมใส่เครื่องป้องกันกระแทกใส่ ส่วนรูด้านหลังก็ถูกไอ้แฟรงก์เล่นอยู่ พวกเราสนุกกันในท่ายืน เล่นเอาหญิงสาวถึงกับครางไม่หยุด ตาเหลือกมองบน คงเพลิดเพลินถึงใจมาก ข้างในมันตอดดีหรอกแต่หลวมไปหน่อย
แต๊ก! แต๊ก!
ผมได้ยินเสียงรองเท้าส้นเข็มกระทบกับพื้นดังมาจากหน้าห้องน้ำ จึงหยุดซอยเอวสอบหนาแช่ทิ้งไว้ฟังให้แน่ใจว่าไม่ใช่หูฝาด แต่ไอ้สองคนนี้กลับสนุกกันต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เสียงครางกระเส่าดังหนักกว่าเก่า จากที่พิศวาสและเมามันก็กลายเป็นน่าหงุดหงิด พลันเอาไอ้หกสองหดหมดอารมณ์ไปด้วย จังหวะที่กำลังดึงมันออกจากถ้ำ ก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นเข็มอีกครั้ง...แต่ห่างออกไปเรื่อย ๆ เดาว่าคนข้างนอกคงออกไปแล้ว
ในเมื่อหมดอารมณ์ไม่อยากทำต่อ ผมก็ดึงเครื่องป้องกันออก โยนทิ้งใส่ถังขยะจัดการเก็บอาวุธลำใหญ่ใส่กลับเข้าไปในกางเกงอย่างเดิม
“อ่าห์...เฮียกล้าไม่ทำต่อแล้ว อ่า ๆ เหรอ”
“ไม่ล่ะหมดอารมณ์” ตอบสั้น ๆ แล้วก้าวออกมาจากห้องส้วม ล้างมือทำความสะอาดหน้าเคาน์เตอร์กระจก ก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ ปล่อยไอ้สองคนนั้นทำต่อให้สบายใจ
ผมยืนเท้าสะเอวกวาดสายตามองรอบ ๆ ไม่รู้สิ...จู่ ๆ ก็อยากรู้ขึ้นมาว่าเจ้าของรองเท้าคือสาวคนไหน แต่บริเวณนี้มีผู้หญิงยืนจับกลุ่มกันหลายคนคงเดายากว่าเป็นใคร?
“เฮ้ย! ทำไมแกออกจากห้องน้ำเร็วนักล่ะ กาแฟดำของแกยังไม่ได้เลยนะ”
“อี๋! ขนลุกว่ะเมื่อกี้มีใครก็ไม่รู้ไปทำเรื่องลามกในห้องน้ำ”
“อะไรนะ!! หมายถึงมีอะไรกันอะนะ”
“ใช่อะดิ”
“งั้นฉันไปดูให้ไหมว่าเป็นใคร”
“ไม่ต้องเลยอีเปรี้ยว มารอกาแฟกับฉันนี่ หยุดเผือกเรื่องชาวบ้านเหอะ”
เสียงแจ้วสนทนาเรื่องในห้องน้ำดึงความสนใจให้ผมหันกลับไปมองเจ้าของเสียง แต่ทว่า...กลับต้องอึ้งอ้าปากค้าง เพราะเจ้าของรองเท้าส้นเข็มนั่นคือหญิงสาวร่างบางหุ่นเพรียวเส้นผมสยายยาวถึงกลางหลังสีเงินเทากำลังสะบัดปรอยผมเบา ๆ สะท้อนกับไฟนีออนสีนวลทำให้เธอดูโดดเด่น
พระเจ้า! นั่นเทพีหรือนางฟ้ากัน ผมสีนั้นช่างดึงดูดให้น่าหลงใหล มองแค่แผ่นหลังก็รู้แล้วว่าต้องสวย...
แต่!! อีกเสี้ยวความคิดกลับสงสัยว่าเป็นสาวประเภทสองหรือเปล่า ก็เพราะคุณเธอสูงโปร่ง ขาเรียวยาว ถ้าเทียบความสูงกันจริง ๆ ห่างจากผมแค่หนึ่งฝ่ามือเองมั้ง
และที่มั่นใจว่าเธอคือเจ้าของส้นสูงเมื่อครู่ ก็เพราะตรงหน้าเคาน์เตอร์ยืนกันอยู่แค่สองคน หนึ่งในนั้นเป็นสาวร่างอวบสวมรองเท้าผ้าใบเป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ ก็คงมีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ใส่รองเท้าส้นสูงเข้ากับชุดเดรสกระโปรงสั้น
“วันนี้ร้อนฉิบ!! รู้งี้ฉันไม่รับงานนี้หรอก” เสี้ยวใบหน้าสวยหันมามองสาวอวบด้านข้าง
ผมเห็นแค่เสี้ยวใบหน้าก็ยิ่งเติมความสงสัยเข้าไปใหญ่ เธอสวยนะ...แต่อยากเห็นเต็ม ๆ มากกว่าว่าเป็นสาวประเภทสองไหม เลยทำตัวเนียน ๆ เดินไปข้างเคาน์เตอร์หยิบแผ่นพับอะไรสักอย่างกางออกยกขึ้นทำทีเป็นอ่านในระดับใบหน้า แต่แท้จริงกลับลอบมองเธอด้วยหางตา มุมที่ผมยืนอยู่เห็นชัดเจนว่า เธอคือผู้หญิงแท้ ๆ...และสวยด้วย ใบหน้าเรียวยาวเห็นรูปคางชัด จมูกโด่งเป็นรูปหยดน้ำ ดวงตากลมโต คิ้วถูกเขียนเป็นเส้นสีน้ำตาล ริมฝีปากทรงกระจับแต้มด้วยสีแดงสด แก้มนวลเนียนถูกเติมด้วยสีชมพู เธอสวยในแบบฉบับสาวลูกครึ่ง
มิน่าล่ะ! ถึงได้สูงโปร่ง...
“หน่า ๆ ไว้พรุ่งนี้ไปถ่ายงานในสตูดิโอคูลซีฟกัน รับรองแกไม่ร้อนหรอก”
“ให้มันแน่เหอะ ฉันไม่อยากให้ผิวเสีย”
“กลัวทำไมปกติแกเป็นผู้หญิงดำยากอยู่แล้ว ฉันละอิจฉา”
การสนทนาระหว่างทั้งหมดเป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วแบบนี้ผมจะปล่อยโอกาสทิ้งได้ยังไง วางแผ่นพับในมือกำลังจะเดินไปทักทายคนสวย แต่...
หมับ!
“เฮียกล้าอยู่ตรงนี้เอง” มือบางคว้าแขนห้ามไว้ ผมหันไปมองเจ้าของมือ เธอคือสาวพริตตี้ที่เพิ่งเยกันไปหมาด ๆ ช่างมาได้เหมาะจง...แถมยังยิ้มหน้าบานคงอิ่มเอมกับลีลาไอ้แฟรงก์มาจนพอใจ
ผมเหลือบไปมองเจ้าของเรือนผมสีเงินเทา เธอไม่ได้หันมาสนใจสักนิด กำลังรับแก้วกาแฟจากพนักงานแล้วพากันเดินจากไปอย่างน่าเสียดาย
“เฮียกล้ามองใครอยู่เหรอคะ” เสียงแหลมถามย้ำ
“เปล่าไม่มีอะไร” ตอบด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ พลางดึงมือเธอออก ในขณะที่สายตาเอาแต่จ้องแผ่นหลังบางเดินห่างไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มียัยนี่ ผมคงได้เบอร์โทรสาวสวยมาแล้ว...
แต่เจ้าหล่อนยังแสดงความหน้าด้านหน้าทนจับแขนผมไว้แน่น ชวนอารมณ์เสียกว่าเก่า ผมหันกลับมาขึงตาดุใส่ หล่อนก็ยังทำเป็นไม่รู้ตัว
“พรุ่งนี้น้ำหวานมีถ่ายแบบที่สตูดิโอคูลซีฟ เฮียกล้ามารับน้ำหวานนะคะ”
“ที่ไหนนะ”
“สตูดิโอคูลซีฟ เฮียรู้จักเหรอ”
ผมคลี่ยิ้มมุมปาก อารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็นเพราะสตูดิโอที่ว่าเป็นที่เดียวกับสาวสวยจะไป แน่นอนว่าต้องพาพริตตี้คนนี้ไปอยู่แล้ว เพื่อหวังจะได้เจอนางฟ้าของผมอีกครั้ง...
วินาทีเดียวกันไอ้แฟรงก์เดินเข้ามากอดคอสาว ผมได้จังหวะปัดมือหล่อนทิ้ง กำลังจะก้าวเดินกลับทางเดิม
“ไอ้กล้ามึงชอบคนเมื่อกี้เหรอ”
ผมหันขวับไปมองคนถาม “ใคร?” ผมจ้องสาวที่ไอ้แฟรงก์กอดคออยู่ เพราะคิดว่ามันหมายถึงหล่อน
“ไม่ใช่คนนี้ แต่เป็นสาวซื้อกาแฟ กูยืนดูมึงอยู่นะเว้ย”
“เปล่า”
ผมตอบเสียงเรียบนิ่ง พยายามไม่กระโตกกระตากเหมือนที่แล้วมา เพราะไม่มั่นใจว่าเธอจะเล่นด้วยไหม ลางสังหรณ์มันบอกว่าเธอน่ะยาก...
“กูว่าเธอสวยดี”
หนุ่มเพลย์บอยอย่างมันถึงกลับเอ่ยปากชม แล้วชายอื่นล่ะจะไม่คิดเหมือนมันได้ไง เอาเป็นว่าคู่แข่งของผมน่าเยอะอยู่ แต่เรื่องมัดใจสาวไอ้กล้าคนนี้ง่ายแค่ขี้ประติ๋ว
“กูกลับไปหาไอ้ไอซ์ก่อน”
“เออ ๆ งั้นอีกชั่วโมงค่อยไปเจอกันที่บริษัท”
“แล้วแต่มึง”
